โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

สหภาพยุโรปกำลังล่มสลายเพราะผู้อพยพ เมื่อถูกบีบฮังการีจึงต้องใช้วิธีแก้เผ็ดแบบนี้

The Better

อัพเดต 09 ก.ย 2567 เวลา 06.39 น. • เผยแพร่ 09 ก.ย 2567 เวลา 04.10 น. • THE BETTER

ข้อมูลเบื้องหลัง
แม้ว่าฮังการีจะเป็นสามาชิกของสหภาพยุโรป EU แต่ฮังการีไม่ยอมปฏิบัติตามนโยบายของ EU ที่จะให้เปิดประเทศรับผู้อพยพ เพราะรัฐบาลมีแนวทางการเมืองแบบฝ่ายขวา ที่เน้นชาตินิยมฮังการีและความเป็นยุโรปเฉพาะคนท้องถิ่น พร้อมกับต่อต้านคนต่างถิ่นที่เข้ามาในฐานะผู้อพยพ โดยล่าสุด วิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการีกล่าวเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่การประชุมเซอร์นอบบิโอ ทางตอนเหนือของอิตาลีว่า การอพยพจะทำให้สหภาพยุโรปแตกสลาย และเรียกร้องให้มีกฎหมายใหม่เพื่อหยุดยั้งการอพยพดังกล่าว

ออร์บัน ซึ่งเป็นนักการเมืองชาตินิยมที่ต่อต้านผู้อพยพและกระแสเสรีนิยมแบบตาสว่าง หรือ Woke ชี้ว่า “หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน ช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นช่วงแห่งกระบวนการแตกสลายของสหภาพยุโรป” และเขายังชี้ว่า การอพยพระหว่างประเทศ รวมถึงเรื่องเพศสภาพ (หมายถึงการเผยแพร่แนวคิดเรื่องเพศที่หลากหลาย) การจ้างงาน และความมั่นคง ถือเป็น “ปัญหาเรื่องการดำรงอยู่” ที่สหภาพยุโรปต้องเผชิญ นั่นหมายความว่า สหภาพยุโรปจะดำรงอยู่ต่อไปหรือล่มสลายก็เพราะสาเหตุนี้

ผู้นำของฮังการียังแสดงจุดยืนของฮังการีที่แข็งกร้าวกับผู้อพยพโดยเปรียบเทียบกับนโยบายลี้ภัยที่เอื้อเฟื้อต่อผู้อพยพของเยอรมนี เขากล่าวว่า “เราไม่เคยปล่อยให้พวกเขา (ผู้อพยพ) เข้ามา” และหลังจากที่ ออร์บัน กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม เขาก็ได้กล่าวเพิ่มเติมโดยโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Xว่า "ให้ฮังการีและประเทศอื่นๆ มีสิทธิเลือกที่จะไม่ปฏิบัติตามนโยบายการย้ายถิ่นฐานร่วมกัน"

ทั้งนี้ ฮังการีไม่แยแสต่อนโยบายรับผู้อพยพของสหภาพยุโรปเลย และเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว ฮังการีก็ยังไม่ยอมจ่ายค่าปรับ 200 ล้านยูโรเนื่องจากละเมิดกฎระเบียบผู้ลี้ภัยของสหภาพยุโรปแม้ว่าจะเลยเส้นตายในการจ่ายค่าปรับแล้วก็ตาม และจะคิดค่าปรับเพิ่มอีก 1 ล้านยูโรต่อวัน จนกว่าฮังการีจะนำนโยบายของตนไปสอดคล้องกับกฎหมายของสหภาพยุโรป

แต่แทนจะจะคิดจ่ายค่าปรับฮังการีกลับเสนอแผนการเแก้เผ็ดสหภายุโรปอย่างเจ็บแสบเสียอย่างนั้น

แกะดำที่โต้ได้เจ็บปวด
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ทางการฮังการียืนยันแผนการส่งผู้อพยพไปยังกรุงบรัสเซลส์ เพื่อเป็นการประท้วงนโยบายผู้ลี้ภัยของสหภาพยุโรป

เบนเซ เรตวารี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยของฮังการี จัดงานแถลงข่าวโดยยืนเคียงข้างรถบัสที่จะส่งผู้อพยพทั้งหมดไปยังที่ทำการของรัฐบาล EU เพื่อประกาศเจตนารมณ์ของประเทศที่ว่า "จะให้บริการรับส่งผู้อพยพฟรีไปยังเมืองหลวงของสหภาพยุโรป" ซึ่งหมายถึงฮังการีจะไม่ยอมรับผู้อพยพเลย แต่ถ้า EU ต้องการจะรับผู้อพยพ ฮังการีก็จะส่งคนทั้งหมดไปให้ฟรีๆ

เรตวารีกล่าวว่า “หากสหภาพยุโรปบังคับให้ฮังการียอมรับผู้อพยพผิดกฎหมาย ฮังการีจะเสนอบริการรับส่งพวกเขาไปยังกรุงบรัสเซลส์เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น”

และเรตวารียังบอกว่า “หากบรัสเซลส์ (ที่ทำการของรัฐบาล EU) ต้องการผู้อพยพผิดกฎหมาย บรัสเซลส์สามารถมีพวกเขาได้” ซึ่งคำกล่าวนี้เป็นการพูดซ้ำคำพูดของ เกอร์เกอลี กูลยัส รัฐมนตรีที่รับผิดชอบสำนักงานประธานาธิบดี ซึ่งกล่าวในช่วงปลายเดือนสิงหาคมว่า “หากบรัสเซลส์ต้องการผู้อพยพ ก็จะได้พวกเขาไป”

ไม่อยากเป็นเหมือนอังกฤษ
เรตวารี เคยให้สัมภาษณืกับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งว่า “คุณเคยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอังกฤษไหม เราไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นที่นี่!”

เขายังกล่างกล่าวว่าบรัสเซลส์หรือรัฐบาล EU สามารถกำหนดค่าปรับเท่าไรก็ได้ แต่รัฐบาลฮังการีจะไม่ยอมปฏิบัติตามนโยบายพรมแดนเปิด

นั่นก็เพราะหาฮังการียึดมั่นในการปิดประเทศไม่ต้อนรับผู้อพยพ “ชาวฮังการียังสามารถออกไปบนท้องถนนได้อย่างปลอดภัย” ซึ่งต่างจากประเทศอื่นๆ ทั่วทั้งยุโรป

ในขณะ ซอลทัน คอวาช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการทูตสาธารณะและความสัมพันธ์แห่งฮังการี กล่าวใน X ว่า "ตั้งแต่ปี 2015 ตำรวจและตำรวจตระเวนชายแดนของฮังการีได้ป้องกันการพยายามข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมายได้กว่าหนึ่งล้านครั้ง แม้จะเป็นเช่นนี้ ศาลยุติธรรมแห่งยุโรปก็ได้ปรับฮังการีเป็นเงิน "อย่างไม่ยุติธรรมและมหาศาล" กดดันให้ประเทศเปลี่ยนนโยบายการย้ายถิ่นฐาน"

ทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ตะโกนแสดงความคิดเห็นเหยียดเชื้อชาติระหว่างการชุมนุมประท้วงต่อต้านผู้อพยพที่จัดขึ้นโดยกลุ่มขวาจัด ใกล้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งสหรัฐอเมริกาที่เดอะบีคอน ในเมืองนิวคาสเซิลอะพอนไทน์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2024 ตำรวจปราบจลาจลหลายพันนายเตรียมพร้อมในวันพุธ ขณะที่อังกฤษยังคงเฝ้าระวังเหตุวุ่นวายระหว่างการประท้วงของกลุ่มขวาจัดทั่วประเทศ จลาจลที่เกิดขึ้นทุกคืน ซึ่งมีมัสยิดและผู้อพยพถูกโจมตี ปะทุขึ้นหลังจากเด็ก 3 คนถูกสังหารในเมืองเซาท์พอร์ต เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม (ภาพโดย SCOTT HEPPELL / AFP)

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...