ย้อนเวลาเที่ยว 3 วัดงามอยุธยา ตามรอย ‘ลิซ่า BLACKPINK’
The Bangkok Insight
อัพเดต 09 มิ.ย. 2566 เวลา 09.04 น. • เผยแพร่ 09 มิ.ย. 2566 เวลา 07.15 น. • The Bangkok Insightวันนี้พาย้อนรอย "ลิซ่า" ลลิษา มโนบาล สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป BLACKPINK ที่พาเพื่อน ๆ เดินทางท่องเที่ยวชมโบราณสถาน ไหว้พระวัดสวยที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากที่เสร็จสิ้นทัวร์คอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ENCORE ที่เมืองไทย เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2566
ลิซ่าได้โพสต์ภาพสวมชุดผ้าไทย เสื้อสีขาว กับผ้าถุงลายไทย ยืนถ่ายรูปกับโบราณสถาน ลงอินสตาแกรม พร้อมกับแคปชั่น Ayutthaya ซึ่งการไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ในโปรแกรมไหว้พระเดย์ทริปที่อยุธยาครั้งนี้ ลิซ่า ได้ไปที่วัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ และวัดแม่นางปลื้ม และมีหลายคนให้ความสนใจ จนยอดคนดูบนอินสตาแกรม ของลิซ่าทะลุ 3 ล้านไปแล้ว
วันนี้เราเลยมาแนะนำเรื่องราวประวัติศาสตร์ และสิ่งที่น่าสนใจของวัดสวยแห่งเมืองกรุงเก่าทั้ง 3 แห่งดังกล่าว เผื่อใครอยากตามไปไหว้พระ ชมความงาม
วัดแรก วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ใกล้วัดราชบูรณะ ในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ขุนหลวงพะงั่ว เมื่อปี 1917 แต่ไม่แล้วเสร็จ ทรงเสด็จสวรรคตเสียก่อน และได้สร้างเพิ่มเติมจนเสร็จ ในสมัยสมเด็จพระราเมศวร โดยได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระปรางค์ประธาน และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดมหาธาตุเมื่อปี 1927 ถือเป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางเมือง และเป็นสถานที่จัดพระราชพิธีต่าง ๆ ของกรุงศรีอยุธยา
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดมหาธาตุคือ พระปรางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันพังทลายลงมาหมดแล้ว แต่ราชทูตลังกาที่เคยมาเยี่ยมชมวัดมหาธาตุ ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ กล่าวถึงไว้ว่า ที่ฐานของพระปรางค์ มีรูปราชสีห์ หมี หงส์ นกยูง กินนร โค สุนัขป่า กระบือ และมังกร เรียงรายอยู่โดยรอบ ซึ่งรูปเหล่านี้อาจหมาย ถึงสัตว์ในป่าหิมพานต์ ที่รายล้อมอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาล
เจดีย์แปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์ลดหลั่นกัน 4 ชั้น 8 เหลี่ยม ชั้นบนสุดประดิษฐานปรางค์ขนาดเล็ก ซึ่งเจดีย์องค์นี้จัดว่าเป็นเจดีย์ที่แปลกตา พบเพียงองค์เดียว ที่ฐานชุกชีของพระประธานในวิหาร
เศียรพระพุทธรูปหินทราย ที่มีรากไม้ต้นโพธิ์ปกคลุมอยู่ เป็นพระพุทธรูปหินทราย ศิลปะอยุธยา ที่เหลือแค่ส่วนเศียร ส่วนตัวองค์พระหายไป วางอยู่ในรากโพธิ์ข้างวิหาร โดยคาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ ในสมัยเสียกรุง จนรากไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้มีความงดงามแปลกตาจนเลื่องลือ กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกสิ่งหนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วัดที่สองวัดหน้าพระเมรุ หรือ วัดพระเมรุราชิการามวรวิหาร ตั้งอยู่ที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลาย และยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุด พระอุโบสถมีขนาดยาว 50 เมตร กว้าง 16 เมตร เป็นแบบอยุธยาตอนต้นซึ่งมีเสาอยู่ภายใน
ที่ตั้งของวัดนั้น คาดว่า แต่เดิมจะเป็นสถานที่สำหรับสร้างพระเมรุถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระมหากษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งสมัยอยุธยาตอนต้น ต่อมาจึงได้สร้างวัดขึ้น
สิ่งสำคัญของวัดนี้ รวมถึง หน้าบันไม้สัก แกะสลักรูปพระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบเศียรนาค และมีรูปราหูสองข้างติดกับเศียรนาค ทั้งนังมี พระประธานในอุโบสถ ที่สร้างขึ้นปลายสมัยอยุธยา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช มีนามว่า"พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ" จัดเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยา ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบัน และมีความสมบูรณ์งดงามมาก
พระวิหารน้อย หรือวิหารสรรเพชญ์ หรือ วิหารเขียน ลวดลายปูนปั้น ปิดทองทั้งที่ประตู และหน้าต่าง เป็นลายพรรณพฤกษาฝรั่งปนจีนตามสมัยนิยม เช่น ลายแจกันดอกไม้ และโต๊ะหมู่บูชาแบบจีนขนาดเล็ก
ภายในมี พระคันธารราฐ เป็นพระพุทธรูปศิลาเขียว ปางปฐมเทศนา สมัยทวารวดี ประทับห้อยพระบาทบนดอกบัวบาน สร้างระหว่างปี 1000-1200 โดยพระคันธารราฐนี้ มีปรากฏในโลกเพียง 6 องค์เท่านั้น อยู่ที่วัดพระปฐมเจดีย์ 3 องค์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาที่อยุธยา 1 องค์ วัดหน้าพระเมรุ 1 องค์ และที่อินโดนีเซีย 1 องค์
ลักษณะเด่น พระคันธารราฐ คือพระรัศมีรอบพระเศียรตามแบบอิทธิพลจีน ชายจีวรถูกถลกสูงเผยพระชานุซ้าย ซึ่งนิยมในการสร้างพระศรีอริยเมตไตรย ในประเทศจีนสมัยราชวงศ์ถัง ส่วนพระหัตถ์ทั้งคู่วางราบอยู่บนเข่าทั้งสอง แปลกไปจากปางที่พบในเมืองไทย
นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งลบเลือนไปตามกาลเวลา แม้จะยังพอมองเห็นเป็นภาพการเดินทาง และการตั้งร้านขายของ อันเป็นภาพวิถีชีวิตโบราณที่หาดูได้ยากและงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
วัดที่สามวัดแม่นางปลื้ม ถือเป็นวัดที่ความร่มรื่นสวยงาม แต่ไม่ค่อยจะมีผู้คนรู้จักมากนัก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรมาเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมแบบโบราณเป็นอย่างมาก
ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดก็คือ ซุ้มประตูวัด ซึ่งเป็นซุ้มประตูศิลปะอยุธยาแบบโบราณ เมื่อได้เดินลอดผ่านซุ้มประตูนี้แล้ว จะเหมือนกับได้เดินข้ามประตูมิติเลยทีเดียว ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมทางพระพุทธศาสนาอีกมาก
วัดแม่นางปลื้ม ตั้งอยู่ในบริเวณของคลองเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา สันนิษฐานกันว่าน่าจะสร้างขึ้นเมื่อราว ๆ ปี 1920 โดยบริเวณที่ตั้งของวัด เคยเป็นที่ตั้งค่ายของพม่ามาก่อน ทั้งยังเป็นวัดที่มีตำนาน รวมไปถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา รวมทั้งโบราณสถานของที่นี่ ก็มีสภาพค่อนข้างจะสมบูรณ์
ความสวยงามของสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาภายในวัดนี้ ก็จะมีทั้ง พระวิหารเก่าแก่ ที่มี หลวงพ่อขาว ประดิษฐานอยู่ เป็นองค์สีขาวบริสุทธิ์ และมีเจดีย์ทรงกลมฐานสิงห์ล้อม ที่ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะเขมรในสมัยนั้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม