โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ไขข้อสงสัย! ดื่มกาแฟปริมาณเท่าไหร่ ถึงทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ-ปัสสาวะผิดปกติ

Khaosod

อัพเดต 29 ต.ค. 2564 เวลา 11.12 น. • เผยแพร่ 29 ต.ค. 2564 เวลา 11.12 น.
ปกกาแฟขาดน้ำ

กาแฟ เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เหตุผลหลักที่ผู้คนดื่มกาแฟเป็นเพราะคาเฟอีน ซึ่งช่วยให้รู้สึกตื่นตัว เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยกระดับสมรรถภาพทางกายและจิตใจ

อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินว่าการดื่มกาแฟอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและเสียสมดุล ดังนั้น ทางทีมข่าวสดจะมาไขข้อข้องใจกับความสงสัยที่ว่า กาแฟทำให้ร่างกายขาดน้ำจริงหรือไม่ ดังนี้

แม้ว่ากาแฟจะมีสารต่าง ๆ มากมาย แต่งานวิจัยส่วนใหญ่มุ่งเน้นที่คาเฟอีน เมื่อดื่มกาแฟ คาเฟอีนจะไหลผ่านเข้าไปในลำไส้และเข้าสู่กระแสเลือดส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ เช่น สมอง

จากการวิจัยพบว่าคาเฟอีนอาจมีฤทธิ์ที่เพิ่มการไหลเวียนของเลือดพร้อมกระตุ้นการขับปัสสาวะในไตในปริมาณและความถี่ที่มากขึ้น

ลอว์เรนซ์ อาร์มสตรอง จากมหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต กล่าวว่าคาเฟอีนเป็นยาขับปัสสาวะที่ไม่รุนแรง ซึ่งหมายความว่าอาจทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะขาดน้ำของร่างกายขึ้นอยู่กับปริมาณคาเฟอีนในกาแฟประเภทต่าง ๆ และปริมาณการดื่มในแต่ละวัน

กาแฟสกัด (Brewed or drip coffee ) ที่เป็นการเทน้ำร้อนบนเมล็ดกาแฟที่บดแล้ว โดยทั่วไปจะใช้ตัวกรอง เครื่องกด หรือเครื่องต้มกาแฟ ซึ่งกาแฟ 8 ออนซ์ (240 มล.) มีคาเฟอีน 70 - 140 มก. หรือโดยเฉลี่ยประมาณ 95 มก.

การแฟผงสำเร็จรูป เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเมล็ดกาแฟที่สะดวกในการชง เพียงแค่ผสมกับน้ำร้อน โดยกาแฟชนิดนี้จะมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟปกติ โดย 30 – 90 มก. ต่อถ้วย 8 ออนซ์ (240 มล.)

เอสเพรสโซ เป็นเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้อยกว่ากาแฟปกติ แต่มีปริมาณคาเฟอีนสูง โดยเอสเปรสโซ 1 ช็อต (1 – 1.75 ออนซ์หรือ 30 – 50 มล.) บรรจุคาเฟอีนประมาณ 63 มก.

กาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaffeinated coffee) เป็นกาแฟที่มีคาเฟอีนอยู่น้อยมาก เกิดจากกระบวนการนำคาเฟอีนออกจากเมล็ดกาแฟโดยน้ำ ซึ่ง 8 ออนซ์ (240 มล.) มีคาเฟอีน 0 - 7 มก. หรือโดยเฉลี่ยประมาณ 3 มก.

นักวิจัยตั้งข้อสังเกตจากการศึกษาว่าจะต้องบริโภคคาเฟอีนมากกว่า 500 มก. ต่อวันหรือเทียบเท่ากับกาแฟที่ชงแล้ว 5 ถ้วย (40 ออนซ์หรือ 1.2 ลิตร) ถึงจะมีผลต่อการขับปัสสาวะ ซึ่งจากการศึกษาอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟในระดับปานกลางนั้นให้ความชุ่มชื่นพอๆ กับน้ำเปล่า

ตัวอย่างเช่น การศึกษาในผู้ดื่มกาแฟเป็นประจำ 50 คนพบว่าการดื่มกาแฟ 26.5 ออนซ์ (800 มล.) ทุกวัน เป็นเวลา 3 วันให้ความชุ่มชื้นเท่ากับการดื่มน้ำเปล่าในปริมาณเท่ากัน

งานวิจัยจาก โซฟี คิลเลอร์ ที่มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ซึ่งไม่เพียงแต่วัดปริมาตรของปัสสาวะ แต่ยังตรวจเลือดเพื่อหาสัญญาณการทำงานของไต ตลอดจนคำนวณปริมาณน้ำทั้งหมดในร่างกาย

พบว่าผู้ชายในการวิจัย ดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน ซึ่งมากกว่าคนดื่มกาแฟทั่วไป ยังไม่พบหลักฐานการเกิดภาวะขาดน้ำมากไปกว่าผู้ที่ดื่มน้ำเปล่า

สรุป คาเฟอีนอาจมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แต่ผลกระทบนี้ไม่รุนแรงพอที่จะถ่วงดุลผลประโยชน์ของการบริโภคกาแฟ แต่การดื่มกาแฟที่ดีควรอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยให้ร่างกายได้รับของเหลวที่สมดุล

อย่างไรก็ตาม การดื่มกาแฟจำนวนมาก เช่น 5 แก้วขึ้นไปในคราวเดียว อาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำหรือสูญเสียน้ำในร่างกายเล็กน้อยฃ

นอกจากนี้ หากใครสงสัยว่า การดื่มกาแฟที่ดีควรดื่มตอนไหน สามารถไขข้อข้องใจได้ที่ แพทย์เตือน! 3 เหตุผล ที่ไม่ควรดื่มกาแฟยามเช้า เสี่ยงระบบเผาผลาญพัง

ขอบคุณที่มาจาก Healthline BBC

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น