เบนซ์ พริกไทย เปิดใจ! จ่อฟ้องคนวิจารณ์สามี ผิดว่าไปตามผิด อย่าลามปามถึงครอบครัว

เบนซ์ พริกไทย เปิดใจ! จ่อฟ้องคนวิจารณ์สามี ปม แตงโม ตกเรือ ผิดว่าไปตามผิด อย่าลามปามถึงครอบครัว รับสภาพจิตใจย่ำแย่

จากกรณี แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดัง พลัดตกจากเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม เขตจังหวัดนนทบุรี ระหว่างล่องเรือกับเพื่อนๆ โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมถึงนักประดาน้ำ ระดมลงพื้นที่ค้นหาร่างนักแสดงสาวตั้งแต่ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 24 ก.พ.65 จนมาพบร่างไร้วิญญาณลอยอยู่กลางแม่น้ำในช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ.

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปรากฏว่าบรรดาชาวเน็ตที่ติดตามข่าว ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับพฤติกรรมของกลุ่มเพื่อนที่อยู่บนเรือ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หายตัวไป ก่อนจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในช่วงค่ำวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา

ก่อนที่ต่อมา เบนซ์ พริกไทย นักร้องสาวและเป็นภรรยาของไฮโซปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในเรือ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “ใครพิมพ์อะไรไว้ หรือวิจารณ์อะไรไว้ รับผิดชอบคำพูดด้วยนะคะ จะฟ้องให้หมดเลย” และ “พอเรามีปัญหา จะทำให้เห็นว่า ใครเป็นมิตรแท้ และเคียงข้าง และใครสนุกกับในการพิมพ์เล่น เล่าเป็นเรื่องสนุก ราวกับหนังซีรีส์”

ล่าสุดวันที่ 26 ก.พ.เบนซ์ พริกไทย ได้เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงเรื่องที่จะฟ้องคนที่วิจารณ์ พร้อมอัพเดตสภาพจิตใจของสามี รวมถึงกระแสข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นว่า “คือจริงๆ เราก็ทราบพร้อมกับข่าว แล้วก็รู้ตอนที่พี่ปอโทรมาแจ้งว่ามีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น เขาก็ตกใจ เราเองก็นอนไม่หลับเลย แล้วผ่านไปหนึ่งวันเราก็พยายามตั้งรับและนิ่ง”

“จริงๆ เบนซ์โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ส่วนในแฟนเพจเบนซ์ก็ได้โพสต์อย่างสุภาพว่าให้แสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ ทุกอย่างรอให้พี่ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ออกมาพูด อย่าเพิ่งตีโพยตีพายหรือแสดงความคิดเห็นกันมั่วซั่ว เพราะมันก็กระทบกับหลายคนหลายด้าน คราวนี้เบนซ์มาเจอคอมเมนต์ของคนที่เราคิดว่าเขาจะเป็นห่วงเรา แต่กลับได้ฟีดแบ็กที่ไม่โอเค”

“หลายคนก็พิมพ์มาว่าอย่าอ่านคอมเมนต์ เบนซ์ก็เลยรู้สึกแย่และไปพิมพ์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ความหมายที่เบนซ์จะฟ้องในที่นี้หมายถึงคนที่พิมพ์มาแรงมากๆ แล้วเข้าข่ายว่าหมิ่นประมาท อันนั้นเราก็จะต้องทำให้เขาเห็นว่ามันไม่ถูกต้องนะที่คุณเกินขอบเขตเรา คือคุณวิจารณ์ได้ในฐานะที่เราเป็นคนสาธารณะ แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่จะวิจารณ์ได้ด้วย แต่ไม่ได้หมายถึงว่าทุกคอมเมนต์เราจะฟ้องหมด”

ตอนนี้ดำเนินการถึงไหนแล้ว? “เบนซ์ยังไม่ได้ปรึกษาสามีเรื่องนี้เพราะว่าเขาก็หนักเหมือนกัน ต้องไปสน. ต้องทำอะไรหลายอย่าง เบนซ์ก็แค่คิดในมุมของครอบครัวว่าเดี๋ยวเราคงจะปรึกษาทนายและตั้งทีมขึ้นมา แต่ที่เราพิมพ์ออกไปแบบนั้นเหมือนกับเราอยากจะบอกทุกคนเป็นนัยยะว่า คุณวิจารณ์ได้แต่ทุกอย่างต้องมีขอบเขต ไม่ใช่มาลามปามถึงครอบครัวถึงอะไรที่มันเกินไป ว่าเราเหมือนกับจะไปฆ่าเขาอะไรอย่างนี้ บางคำที่มันเกินไปเราก็คงจะต้องดำเนินการเพราะว่ามันมากไปสำหรับครอบครัวเราจริงๆ ค่ะ”

สภาพจิตใจของสามีเป็นอย่างไรบ้าง? “เขาก็แย่ค่ะ ร้องไห้ 2 วัน มันไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ในฐานะภรรยาเราก็ทำได้เพียงแค่ให้กำลังใจ แต่เราก็ไม่ใช่ว่าหลับหูหลับตาเข้าข้างสามีเรา คือก็แค่รู้สึกว่าเราจะไปทำอย่างนั้นตามที่หลายๆ คนคิดหรือเขียนทำไม เบนซ์มองว่าบางคนก็วิจารณ์ได้เหมือนมั่วซั่วไปหมด”

ปมที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการพลัดตกเรือถูกคาดเดาไปต่างๆ นานา? “อันนี้ต้องบอกก่อนว่าเบนซ์ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เบนซ์เป็นแค่คนหลังบ้านที่มีหน้าที่เป็นภรรยาและซัพพอร์ตสามี แล้วเบนซ์ก็เชื่อในความบริสุทธิ์ในความดีที่ครอบครัวเรามีมาตลอด เราไม่เคยคิดที่จะทำร้ายใคร แล้วเราก็ไม่มีเจตนาที่จะปิดบัง แต่บางอย่างมันอาจจะช้าเพราะอยู่ในภาวะที่คนกำลังช็อก บางคนบอกว่าทำไมไม่รีบทำอย่างนั้นอย่างนี้ คือคุณไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริงจะรู้ได้อย่างไรว่า ณ วินาทีนั้นเขารู้สึกอย่างไร”

“เบนซ์ไม่ได้บอกว่าสามีเบนซ์ถูก แต่แค่อยากให้คนที่วิจารณ์ช่วยนึกถึงเกียรติของครอบครัวของแต่ละคนด้วย ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก แต่คุณต้องมีขอบเขตในการพิมพ์ด้วยการพูด ถ้าเราไม่บอกว่าเราจะฟ้องร้องหรือไม่เตือนสติใครสักคนเลยก็ยิ่งจะพิมพ์กันไปมั่วซั่ว แล้วความยุติธรรมของเบนซ์และครอบครัวอยู่ตรงไหน”

มีโอกาสได้ถามสามีไหมว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นและตัวเขาได้เห็นกับตาไหม? “อันนี้ขอพูดตามตรงว่าเบนซ์ไม่ขอก้าวล่วงในส่วนนี้ เพราะว่าเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ถ้าเบนซ์พูดอะไรไปหรือว่าพูดถูกพูดไม่ถูกมันไม่ดีต่อทุกฝ่ายแน่นอน ฉะนั้นเรื่องนี้ให้กฎหมายและหลักฐานเป็นคนตัดสินดีกว่า แต่เราไม่มีเจตนาไม่มีสิ่งที่จะมาทำให้พี่แตงโมต้องเป็นแบบนี้”

“เราเสียใจอย่างสุดซึ้ง เสียใจต่อครอบครัวและคนที่รักพี่โมทุกคนด้วย เราก็ไม่ได้มีความสุขหรือว่านิ่งนอนใจนับตั้งแต่วันที่เขาหายไปเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วคนเสียใจหรือไม่เสียใจ ในใจรู้อยู่แก่ใจว่าเราเสียใจไหม บางครั้งมันไม่ได้ต้องมานั่งแสดงออกไปว่าเราเสียใจ”

“เบนซ์โพสต์ถึงพี่โม โพสต์ในสิ่งที่ควรจะโพสต์ โพสต์ไว้อาลัยพี่โม ส่วนตัวถ้าถามถึงความสนิทกับพี่โม ถ้าจำไม่ผิดเบนซ์เคยเห็นพี่เขาประมาณ 1-2 ครั้ง เจอกันโดยบังเอิญถ้าเป็นคนหนึ่งที่แล้วก็ทักทายกัน ส่วนพี่โมกับพี่ปอเขารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยอายุ 16-17 แล้ว สมัยแคสต์งาน เขาก็เป็นเพื่อนกันมานาน”

ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ในวันนั้นคือมีการหลอกแตงโมไปเป็นเด็กเอ็นบนเรือ? “เบนซ์ได้ข่าววันนี้แหละ แต่ไม่ได้อ่านรายละเอียด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างแรกคือไม่ให้เกียรติพี่โมเลย แต่อย่างที่บอกว่าเบนซ์ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่รู้ในเหตุการณ์จริงทั้งหมด แค่ว่าในมุมของเราก็เชื่อว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรแบบนั้น รวมถึงเรื่องลบรูปที่เป็นข่าววันนี้ก็ด้วย เบนซ์ก็ไม่รู้จริงๆ ไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไรกับใครยังไง เพราะเราไม่เคยคุยกับทางพี่โมหรือพี่กระติก ไม่เคยรู้ข้อมูลส่วนตัวเขา”

ถือว่าเป็นเรื่องที่หนักที่สุดในชีวิตที่ตัวเองและครอบครัวเจอเลยไหม? “ใช่ค่ะ อึนๆ งงๆ คือเราก็ไม่ได้วัดว่ามันหนักแค่ไหนยังไง แต่มันเป็นเรื่องที่ทำให้เราเสียใจมาก เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยค่ะ”