โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ผลกระทบจากแผ่นดินไหว: สะเทือนใจสั่นไหวถึงตลาด

Wealthy Thai

อัพเดต 24 เม.ย. เวลา 06.10 น. • เผยแพร่ 01 เม.ย. เวลา 02.50 น.

ทีมวิจัย Trinity ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 พร้อมทั้งขอส่งกำลังใจให้กับทุกท่านที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปได้อย่างเข้มแข็ง
แม้ว่าแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวจะสงบลงแล้ว แต่ผลกระทบกลับยังคงสะเทือนไปในหลายมิติ ไม่เพียงแต่ด้านโครงสร้างอาคารหรือทรัพย์สิน หากแต่ยังส่งผลกระทบทางจิตใจต่อประชาชน และแรงสะเทือนดังกล่าวยังสะท้อนมายังตลาดหุ้นไทยในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม
1.กลุ่มอสังหาริมทรัพย์:

หุ้นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญคือกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะบริษัทที่เน้นพัฒนาโครงการแนวสูง เช่น ANAN, ORI, SIRI, SPALI และ LPN แม้ว่าโครงการจะสร้างตามมาตรฐานความปลอดภัยที่รองรับแผ่นดินไหว แต่ความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยของที่อยู่อาศัย อาจกลายเป็นต้นทุนที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัด ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายและอัตรากำไรของบริษัทในระยะสั้นถึงกลาง
เมื่อพิจารณาถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติในอดีต แม้ประเทศไทยจะไม่ค่อยประสบกับแผ่นดินไหวรุนแรง แต่สามารถเทียบเคียงแรงกระเพื่อมในแง่มุมของผลกระทบทางเศรษฐกิจและตลาดทุนกับมหาวาตะภัยในปี 2554 ซึ่งกรุงเทพฯ และปริมณฑลประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ดัชนีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (SET Prop) ปรับตัวลดลงกว่า 25% (Fig. 1) อย่างไรก็ดี ในกรณีของแผ่นดินไหวครั้งนี้ ผลกระทบต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะอยู่ในระดับจำกัด เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้มีประวัติของแผ่นดินไหวรุนแรงบ่อยครั้ง และเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นกรณีเฉพาะที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

2.กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง:

เหตุการณ์อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มในช่วงแผ่นดินไหว กลายเป็นประเด็นที่สร้างแรงกระเพื่อมต่อความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยเฉพาะกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี ซึ่งประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ที่รับหน้าที่ควบคุมการก่อสร้าง โครงการนี้อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของ ITD ทั้งในแง่ของภาพลักษณ์และความรับผิดชอบต่อความเสียหาย

3.กลุ่มวัสดุก่อสร้าง:

ในระยะถัดไป เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติ การฟื้นฟูและซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจะกลายเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ กระเบื้อง รวมถึงสีทาอาคาร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในแง่นี้ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุเหล่านี้ อาทิ HMPRO, SCGD, SCC, SCCC, DOHOME, GLOBAL, TOA และ DCC จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นฟูและสร้างความมั่นคงให้แก่ชุมชนอีกครั้ง

4.กลุ่มท่องเที่ยว:

ในช่วงสั้น ภาคการท่องเที่ยวอาจได้รับผลกระทบบางส่วนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยเฉพาะความกังวลเรื่องแรงสั่นสะเทือนหลังเหตุการณ์ (Aftershock) ซึ่งอาจทำให้มีการตัดสินใจยกเลิกการเข้าพักในบางพื้นที่ ส่งผลให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม เช่น ERW, MINT, CENTEL, DUSIT และ VERANDA อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้ประกอบการโรงแรมส่วนใหญ่ ยังคงมีการให้บริการตามปกติ และยังไม่พบสัญญาณการยกเลิกการเข้าพักในระดับที่น่ากังวล
ในระยะถัดไป คาดว่าความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจะฟื้นกลับมา โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสงกรานต์ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญของไทย ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติยังคงมีแนวโน้มเดินทางเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลโลว์ซีซัน (Low Season) ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการเข้าพักอ่อนตัวลงในไตรมาสที่สอง อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) และราคาห้องพักเฉลี่ย (Room Rate) ยังคงมีทิศทางเติบโต และยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19
เมื่อพิจารณาเหตุการณ์ภัยพิบัติในอดีต แม้ประเทศไทยจะไม่ใช่พื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงบ่อยครั้ง แต่เหตุการณ์ที่ใกล้เคียงในเชิงผลกระทบต่อการท่องเที่ยวสามารถเทียบได้กับเหตุการณ์สึนามิเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2547 ซึ่งส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างภูเก็ตและพังงา อย่างไรก็ตาม ดัชนี SET Tourism ในช่วงเวลาดังกล่าวปรับตัวลดลงเพียง 4% (Fig. 2) สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของภาคท่องเที่ยวไทยในการฟื้นตัวจากเหตุการณ์ลักษณะนี้ในระยะต่อมา
เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นวิกฤตด้านภัยพิบัติเท่านั้น หากแต่ยังเป็นบททดสอบความเชื่อมั่นในภาคอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง และระบบเศรษฐกิจโดยรวมอย่างแท้จริง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...