โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

กางสถิติ ‘กองทุน LTF’ ถือสั้น หรือยาวก็ ‘ขาดทุน’ หุ้นเล็กแย่กว่าหุ้นใหญ่

The Bangkok Insight

อัพเดต 14 ก.พ. เวลา 04.46 น. • เผยแพร่ 14 ก.พ. เวลา 04.46 น. • The Bangkok Insight

กองทุน LTF กลายเป็นประเด็นที่กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เพราะว่าปี 2568 เป็นปีแรกที่กองทุนที่เปิดขาย จะครบกำหนดเงื่อนไขสามารถขายได้ทุกหน่วยลงทุน หลังเริ่มมีการจัดตั้งกองทุนครั้งแรกในปี 2547 และลงทุนได้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2562

LTF เป็นกองทุนรวมระยะยาว เน้นการลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV เพื่อส่งเสริมให้เกิดเสถียรภาพในระบบตลาดทุนไทย พร้อมส่งเสริมให้คนทั่วไปเข้าสู่ตลาดหุ้น และได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี

ทำให้ช่วงที่ผ่านมาอาจเรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในกองทุนยอดนิยมของผู้ลงทุนชาวไทย และน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่โลกการลงทุนของใครหลายคน เพราะหากย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อน ถือว่าเป็นช่วงที่หุ้นไทยกำลังเติบโตในระดับสูง

กองทุน LTF

อย่างไรก็ดี ในระยะหลังผลตอบแทนของการลงทุนใน LTF ไม่ได้สวยงามเหมือนระยะเริ่มแรก ซึ่งก็สอดคล้องกับสภาวะตลาดหุ้นไทยที่หยุดเติบโตมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ทำให้นักลงทุนขาดทุนมหาศาล และดูเหมือนจะไม่คุ้มค่า แม้จะแลกมากับวงเงินลดหย่อนภาษีก็ตาม

จึงเริ่มมีแนวคิดการนำกองทุน LTF กลับมาเสนอขายอีกครั้ง เพื่อหวังว่าจะช่วยกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนในหุ้นไทย พร้อมกับเป็นทางเลือกในการเพิ่มสภาพคล่องให้กับกองทุนหลาย ๆ กองที่ยังขาดทุนหนักอยู่ โดยมีกระแสข่าวว่ากระทรวงการคลัง และ FETCO อยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกัน รวมทั้งเตรียมโรดโชว์กับนักลงทุนต่างประเทศ ในการบอกเล่าเรื่องดีๆ ของบริษัทจดทะเบียนในประเทศ

เงินไหลออกกองทุน LTF

Morningstar Thailand เปิดเผยข้อมุลเม็ดเงินไหลเข้า-ออกกองทุน LTF ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โดยระบุว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 กองทุน LTF ทั้งอุตสาหกรรมมีมูลค่าเกือบ 220,000 ล้านบาท และมีเงินไหลออกสุทธิ ดังนี้

  • ปี 2563 ไหลออก 10,710 ล้านบาท
  • ปี 2564 ไหลออก 19,410 ล้านบาท
  • ปี 2565 ไหลออก 31,238 ล้านบาท
  • ปี 2566 ไหลออก 22,854 ล้านบาท
  • ปี 2567 ไหลออก 37,697 ล้านบาท

ส่วนในช่วงต้นปี 2568 พบว่ามีเงินไหลออกจากกองทุน LTF สุทธิมากกว่า 18,000 ล้านบาทแล้ว

5 กองทุน LTF ขนาดใหญ่สุด กระจุกตัวใน บลจ. ขนาดใหญ่

  • B-LTF บลจ. บัวหลวง ขนาดประมาณ 31,000 ล้านบาท
  • KFLTFDIV บลจ. กรุงศรี ขนาดประมาณ 18,000 ล้านบาท
  • BLTF75 บลจ. บัวหลวง ขนาดประมาณ 17,000 ล้านบาท
  • SCBLT1 บลจ. ไทยพาณิชย์ ขนาดประมาณ 17,000 ล้านบาท
  • K70LTF-C(L) บลจ. กสิกรไทย ขนาดประมาณ 12,000 หมื่นล้านบาท
กองทุน LTF

เช็กผลตอบแทนยังติดลบทุกช่วงเวลา

ผลตอบแทนของเงินลงทุนโดยเฉลี่ยยังคงอยู่ในระดับติดลบ ไม่ว่าจะเป็นในช่วง 1 ปี, 3 ปี, 5 ปี หรือ 7 ปี

  • ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน LTF ในช่วง 7 ปี ติดลบ 2.18%
  • ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน LTF ในช่วง 5 ปี ติดลบ 1.06%
  • ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน LTF ในช่วง 3 ปี ติดลบ 4.37%
  • ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนย้อนหลังกองทุน LTF ในช่วง 1 ปี ติดลบ 2.18%

สรุปได้ว่า ไม่ว่าจะถือสั้นหรือยาว หุ้นไทยยังไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ อีกทั้งยังพบว่ากองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางขนาดเล็ก ค่อนข้างได้รับปัจจัยกดดันมากกว่ากองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่

ในอีกมุมหนึ่ง หากเปรียบเทียบผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุน LTF กับผลตอบแทนของดัชนี SET TR Index ซึ่งรวมผลตอบแทนจากเงินปันผลแล้ว พบว่า LTF โดยเฉลี่ยมีผลตอบแทนที่ต่ำกว่าตลาดอย่างต่อเนื่องเกือบทุกปีตลอดทั้งในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา

ไม่ว่าตลาดจะอยู่ในช่วงการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลง ยกเว้นเพียงในปี 2564 ที่ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของกองทุน LTF สามารถเอาชนะตลาดได้ ในขณะที่ปี 2567 เป็นปีที่ผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุน LTF ปรับตัวติดลบ แม้ว่าตลาดโดยรวมจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...