โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

‘สงกรานต์สนุก…สุขภาพสะดุด?’ จับตาโรคติดต่อหลังเทศกาล ปัจจัยเสี่ยง ‘น้ำ-คน’

The Reporters

อัพเดต 17 เม.ย. เวลา 06.53 น. • เผยแพร่ 17 เม.ย. เวลา 06.53 น.

สงกรานต์ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความสนุก รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสนุกสนานชุ่มฉ่ำ บางคนบอกว่าสุขภาพจิตดีขึ้น เพราะได้หยุด ได้พัก และสนุกสนานเต็มที่ แถมด้วยประสบการณ์ดีๆ เนื่องจากหลายที่มีการจัดการที่ดีขึ้น มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยควบคุมเรื่องความปลอดภัย และผู้คนที่เล่นกันก็เล่นน้ำด้วยความสุภาพมากขึ้น

แต่สุขภาพจิตดีขึ้น … แล้วสุขภาพกายล่ะจะเป็นอย่างไร เมื่อเราออกไปแช่น้ำท่ามกลางอากาศ ‘ร้อนตับแตก’ 3 วันเต็มๆ แถมบางวันยังมีฝนตกอีกด้วย ท่ามกลางคนมากมายที่เบียดเสียดในบางพื้นที่??

'น้ำ' และ 'ฝูงชน' ปัจจัยเร่งการระบาด

ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นถึงโรคติดเชื้อหลายชนิดที่พบบ่อยขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีสาเหตุเชื่อมโยงกับกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลอย่างชัดเจน:

1.โรคตาแดง (เยื่อบุตาอักเสบ): เป็นโรคยอดฮิตอันดับต้นๆ หลังสงกรานต์ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ปนเปื้อนมากับน้ำที่ไม่สะอาด หรือน้ำแข็งที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งถูกนำมาใช้เล่นสาดกัน การสัมผัสเชื้อโดยตรง หรือใช้มือที่ปนเปื้อนเชื้อขยี้ตา ทำให้เกิดอาการตาแดง เคืองตา มีขี้ตามาก และอาจแพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้ง่าย

2.โรคระบบทางเดินอาหาร (อุจจาระร่วง, อาหารเป็นพิษ): การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่สะอาด สุกๆ ดิบๆ หรือน้ำแข็งที่ปนเปื้อนเชื้อโรค เป็นสาเหตุหลักของอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งมักพบบ่อยในแหล่งท่องเที่ยวหรือบริเวณที่มีการจำหน่ายอาหารจำนวนมากและอาจดูแลสุขอนามัยได้ไม่ทั่วถึง

3.ไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ (รวมถึง โควิด-19): การรวมตัวของคนจำนวนมากในพื้นที่จำกัด หรือการตะโกนส่งเสียงดังระหว่างเล่นน้ำ เพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสผ่านทางละอองฝอยจากการไอ จาม หรือพูดคุยใกล้ชิด ประกอบกับการที่ร่างกายอ่อนเพลียจากการเดินทางหรือเล่นน้ำ อาจทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

4.โรคผิวหนัง: การสัมผัสน้ำที่ไม่สะอาดเป็นเวลานาน หรือน้ำที่มีสิ่งปนเปื้อน อาจทำให้เกิดผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ หรือติดเชื้อราได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีแผลหรือผิวบอบบาง

ก่อนช่วงเทศกาล กระทรวงสาธารณสุขและกรมควบคุมโรคได้ออกประกาศเตือนและให้คำแนะนำในการป้องกันโรคแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นมาตรการเชิงรุกที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิผลสูงสุดยังคงขึ้นอยู่กับการรับรู้และปรับพฤติกรรมของประชาชนแต่ละคนด้วย

เฝ้าระวังอาการ-ดูแลตนเอง ลดเสี่ยง

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ แนะนำว่า ประชาชนที่เดินทางกลับจากต่างจังหวัด หรือเพิ่งผ่านการร่วมกิจกรรมที่มีคนหนาแน่น ควรสังเกตอาการผิดปกติของตนเองและคนในครอบครัวในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรพิจารณาพบแพทย์:
• ไข้สูง ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก (อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่/โควิด-19)
• ตาแดง เคืองตา ตาแฉะ มีขี้ตามากผิดปกติ
• ท้องเสีย ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน คลื่นไส้ อาเจียน
• มีผื่นคัน หรือแผลพุพองตามผิวหนัง

ด้านกรมควบคุมโรคเน้นย้ำถึงหลักสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ยังคงสำคัญเสมอ ได้แก่ การล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ การดื่มน้ำสะอาด รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ และหากมีอาการป่วย ควรพักผ่อนอยู่บ้านและหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่นเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ

ความสนุกสนานจากเทศกาลสงกรานต์เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและช่วยเติมพลังใจ แต่การ์ดต้องไม่ตก การตระหนักถึงความเสี่ยง การเฝ้าระวังอาการ และการดูแลสุขอนามัยอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ทุกคนผ่านช่วงหลังเทศกาลไปได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพดี พร้อมกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...