โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ท่องเที่ยว

“พระศรีศากยะทศพลญาณประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์” ศูนย์กลางพุทธศาสนา ณ พุทธมณฑล

LINE TODAY SHOWCASE

เผยแพร่ 05 มิ.ย. 2565 เวลา 17.18 น. • 2dayDai

“พระศรีศากยะทศพลญาณประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์”

ศูนย์กลางพุทธศาสนา ณ พุทธมณฑล

สุดสัปดาห์นี้ หากใครยังไม่มีทริปไปไหน ผมอยากจะแนะนำให้มาที่นี่เลยครับ

“พุทธมณฑล”

ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 จังหวัดนครปฐม ใกล้กับมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา

สถานที่แห่งนี้มีเรื่องราวมากมายทางพุทธศาสนา ที่พวกเราชาวพุทธเองน่าเดินทางมาเพื่อศึกษาหลักธรรมคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แห่งนี้นอกจากบรรยากาศแสนร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณแล้ว ยังมีพื้นที่บริเวณกว้างใหญ่มาก อากาศก็ดี เหมาะแก่การออกกำลังกายตามสไตล์ผมเลย ที่จะวิ่ง จะตีแบด โยคะ ก็ได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว แล้วก็ยังมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดเล็กหลายจุด ให้ได้นั่งมองเพลิน ๆ ก็ช่วย Relax ได้มากเลยทีเดียว

จุดเด่นที่สุดของพุทธมณฑลที่แม้จะมองจากบริเวณโดยรอบก็สามารถสังเกตเห็นได้เลย นั่นคือ องค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่

“พระศรีศากยะทศพลญาณประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์”

พระพุทธรูปพระประธานพุทธมณฑลที่พุทธมณฑลแห่งนี้ ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า "พระศรีศากยะทศพลญาณประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์" ซึ่งสร้างขึ้นบริเวณใจกลางพุทธมณฑล โดยมีต้นแบบจากอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ซึ่งออกแบบไว้ที่ความสูง 2.14 เมตร แต่ภายหลังมีความต้องการให้มีความหมายเป็นที่ประจักษ์ จึงออกแบบให้มีความสูงที่ 15.875 เมตร

ตัวองค์พระมีโลหะสำริดเป็นส่วนประกอบสำคัญ 137 ชิ้น เริ่มสร้างขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2523 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2525 ในการจัดสร้างได้แบ่งตัวองค์พระพุทธรูปออกเป็น 6 ส่วนคือ ส่วนพระเศียร (ศีรษะ) ส่วนพระอุระ (อก) ส่วนพระพาหา (แขน) ข้างซ้าย พระนาภี (ท้องถึงสะดือ) ส่วนพระพาหา (แขน) ข้างขวา พระเพลา (ขา) ส่วนพระบาท (เท้า) และส่วนฐานบัวรองพระบาท

แรกเริ่มเดิมที ในสมัยรัฐบาลของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2498 นั้น ได้มีแนวคิดในการจัดสร้างปูชนียสถานขึ้นเพื่อเป็นพุทธานุสรณีย์ เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่พระพุทธศาสนาเวียนมาบรรจบครบรอบ 2,500 ปี รัฐบาลในขณะนั้นจึงได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไปทรงประกอบรัฐพิธีก่อฤกษ์พุทธมณฑล ณ บริเวณที่จะก่อสร้างองค์พระพุทธรูปในปัจจุบันนี้

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จทรงเททองพระเกตุมาลา และได้ประกอบพิธีเชื่อมประกอบพระเศียรกับองค์พระพุทธรูป และเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2525 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้โปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จประกอบพิธีสมโภชพระศรีศากยะทศพลญาณประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ และทรงเปิดพุทธมณฑลให้ประชาชนได้เข้านมัสการพระพุทธรูปและใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการสร้าง จึงเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทยและชาวพุทธอย่างแท้จริงครับ

วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างพุทธมณฑลนั้นมีด้วยกัน 8 ประการ ได้แก่

1 . เพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษาค้นคว้าด้านพระพุทธศาสนา

2 . เพื่อเป็นพุทธบูชาและเป็นพุทธานุสรณ์สถาน ในโอกาสที่พระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติไทย เจริญรุ่งเรืองมาจนครบ 2500 ปี ในปี พ.ศ. 2500

3 . เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย

4 . เพื่อเป็นที่สงบร่มรื่นและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนทั่วไป ในบรรยากาศอันเป็นกุศล

5 . เพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน

6 . เพื่อเป็นสำนักงานกลางการบริหารงานของคณะสงฆ์แห่งประเทศไทย

7. เพื่อเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่พระพุทธศาสนา

8 . เพื่อเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้านธรรมะแก่พุทธศาสนิกชน

นอกจากองค์พระประธานของที่นี่แล้ว พื้นที่ทั้งหมดของพุทธมณฑลนั้น สมัยก่อนนั้นเป็นป่าเสียส่วนใหญ่ การก่อสร้างจึงใช้เวลาค่อนข้างมากในการหาความลงตัวทั้งการออกแบบ วางแผน การนำไปใช้ประโยชน์ และได้เปลี่ยนผ่านยุคสมัยของนายกรัฐมนตรีหลายท่าน การก่อสร้างก็อาจมีหยุดชะงักไปบ้าง อีกทั้งด้วยพื้นที่ขนาดถึง 2,500 ไร่ ก็ใช้เวลามากทีเดียวในการจัดสร้างให้มีความสวย งดงาม เหมาะสม ตรงตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริงครับ

ภายในพุทธมณฑลเอง ก็ยังมีอาคารสำคัญต่าง ๆ อีกมากมายให้พุทธศาสนิกชนได้ศึกษาเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา อาทิ

วิหารพุทธมณฑล ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช ที่พักสงฆ์อาคันตุกะ หอประชุม หอกลอง สำนักงานพุทธมณฑล ศาลาราย ศาลาปฏิบัติกรรมฐาน พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา หอสมุดพระพุทธศาสนามหาสิรินาถ มหาวิหารประดิษฐานพระไตรปิฎกหินอ่อน ย่อยสวนเวฬุวัน ศาลาสรีรส และสระน้ำขนาดใหญ่

จุดสำคัญอีกแห่งที่นี่ คือ "ตำบลปฐมเทศนา" โดยคำว่า “ปฐมเทศนา” หมายถึง การแสดงธรรมครั้งแรก เป็นคำเรียกเทศน์กัณฐ์แรกของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 (โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ) "ปฐมเทศนา" ยังมีชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตนสูตร หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ธรรมจักร ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ อริยสัจ 4 ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโธ และ มรรค ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นั่นเองครับ

ตำบลปฐมเทศนา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของที่นี่ ประดิษฐานหินสัญลักษณ์รูปธรรมจักร และรูปแท่นที่นั่งของปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ซึ่งธรรมจักรตั้งอยู่บนกลีบบัวหงาย บัวคว่ำ บนฐานบัวถลา ตัวธรรมจักรแกะสลักลาย แบ่งออกเป็น 3 ตอน วงในสุดเป็นลายกลีบบัว 2 ชั้น ถัดมาเป็นซี่กำ 32 ซี่ แกะสลักเป็นลายไทย วงนอกเป็นวงล้อธรรมจักร แกะสลักประกอบเป็นลายลูกฟักก้ามปู มีลูกแก้วประกอบทั้งสองข้าง ขอบนอกสุดมีลักษณะเป็นกนกเปลวเพลิง

พุทธมณฑลแห่งนี้ มักจะไว้ใช้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ในทางพระพุทธศาสนาและวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อย่างเช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันขึ้นปีใหม่ วันสงกรานต์ วันลอยกระทง กิจกรรมเลี้ยงพระเพลถวายสังฆทาน และฟังเทศน์ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ มีกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ กิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ซึ่งเราสามารถเข้าชมส่วนต่าง ๆ ของที่นี่ได้ทุกวัน เวลา 05.00-19.00 น. ข้อสำคัญของการเข้าชมก็คือ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และปฏิบัติตามระเบียบก่อนเข้าชม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กันด้วยนะครับ

..นับว่าเป็นสถานที่อีกแห่งที่พุทธศาสนิกชนและผู้อยากจะพักผ่อนหย่อนใจหรืออยากมาออกกำลังกายที่นี่ ไม่ควรพลาดเลยล่ะครับ..

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...