โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ต้อนรับเดือนแห่งความหลากหลายทางเพศ ทำความรู้จัก ‘ถุงยางนิ้ว’ ใช้ยังไง ใช้ทำไม ?

LINE TODAY

เผยแพร่ 31 พ.ค. 2565 เวลา 18.05 น.

Pride Month เดือนมิถุนายนของทุกปี เป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจของ LGBTQ+ กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยทั้งเดือนจะเต็มไปด้วยสีสันของสายรุ้ง ที่แสดงถึงความหลากหลายของเพศทางเลือก และความชอบที่แตกต่างกันไป

ตลอดทั้งเดือนนี้ LINE TODAY จะหยิบยกเอาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชาว LGBTQ+ มานำเสนอในมุมมองที่แตกต่างกันไป และหนึ่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชาว LGBTQ+ ที่มักจะถูกนำมาพูดถึงบ่อย ๆ ก็คือเรื่องรสนิยมทางเพศอันหลากหลาย โดยเฉพาะรสนิยมของชาว L หรือก็คือ Lesbian (เลสเบี้ยน)

กลุ่มหญิงรักหญิงที่การแสดงออกถึงความรักผ่านกิจกรรมทางเพศเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเฉพาะตัว จุดประกายเป็นไอเดียของผลิตภัณฑ์เพื่อการสัมผัสรักในกลุ่มหญิงรักหญิงโดยเฉพาะอย่าง ‘ถุงยางนิ้ว’ ขึ้นมา ซึ่งช่วงหลังมานี้แพร่หลายไปยังกลุ่มอื่น ๆ ที่ใช้นิ้วในการทำกิจกรรมทางเพศ จนตอนนี้ ‘ถุงยางนิ้ว’ กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ที่คนทั่วไปให้ความสนใจกันอย่างมาก

ทำไมต้องใช้ ‘ถุงยางนิ้ว’

การใช้นิ้วสอดใส่ในอวัยวะเพศ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพศไหน จะหญิง-หญิง หรือแม้แต่ชาย-หญิงก็มีความเสี่ยงจะเกิดโรคติดต่อผ่านการสัมผัส เช่น หูดหงอนไก่ หูดข้าวสุก เริมที่อวัยวะเพศ ได้ทั้งนั้น หรือในกรณีที่เมื่อสอดใส่แล้ว เอานิ้วที่เปื้อนสารคัดหลั่งมาโดนอวัยวะเพศตัวเอง ก็อาจมีโอกาสติดโรคหนองในแท้ หนองในเทียม และซิฟิลิซได้

นอกจากนี้ ยังอาจติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่มีสาเหตุหลักมาจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโดยตรง หรือแม้แต่การสัมผัสทางผิวหนัง แล้วเชื้อเข้าสู่ร่างกายก็สามารถทำให้ติดเชื้อ HPV ได้ โดยเมื่อได้รับเชื้อแล้วอาจมีหูดหงอนไก่ เป็นตุ่มเล็ก ๆ ผิวไม่เรียบหลาย ๆ ตุ่มกระจายตามอวัยวะเพศภายนอก มีอาการคัน และมีตกขาวมากกว่าปกติ อาจมีเลือดปนมากับตกขาว มีกลิ่นเหม็น หรือมีเลือดออกกระปริดกระปรอยจากช่องคลอด และหากเป็นสายพันธุ์ที่ก่อมะเร็ง ก็อาจเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ในระยะยาวด้วย

ดังนั้นเพื่อป้องกันโรคติดต่อผ่านการสัมผัส และผ่านสารคัดหลั่งในร่างกาย โดยเฉพาะการใช้นิ้วสอดใส่ในอวัยวะเพศจึงควรใช้ถุงยางนิ้วในการมีสัมพันธ์ และควรเลือกถุงยางนิ้วที่ได้มาตรฐาน และทราบแหล่งที่มาหรือแหล่งผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ

นอกจากการสัมผัสผ่านนิ้วมือระหว่างการทำกิจกรรมทางเพศแล้ว การสัมผัสแบบอื่น ๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคติดต่อผ่านการสัมผัสได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำออรัลเซ็กส์ หรือการทำรักด้วยปากกับอวัยวะเพศของอีกฝ่าย ในกรณีที่ผู้ทำออรัลเซ็กส์มีแผลในช่องปาก หรือมีเลือดออกตามไรฟัน แล้วไปสัมผัสกับน้ำเมือกจากช่องคลอดของผู้ที่มีเชื้อ HIV ก็จะทำให้ติดเชื้อได้ แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่มากนักก็ตาม

ส่วนการใช้อวัยวะเพศเสียดสีกัน หรือการใช้เซ็กส์ทอยร่วมกัน กรณีที่มีการสอดใส่เซ็กส์ทอยในอวัยวะเพศของอีกฝ่ายจนเสร็จกิจ แล้วนำมาใช้ต่อทันทีก็มีโอกาสที่จะทำให้น้ำเมือกของอีกฝ่ายจะเข้าสู่ร่างกายของอีกฝ่ายได้ จึงมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การมีกิจกรรมทางเพศไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม สิ่งที่ต้องคำนึงถึงนอกเหนือจากอารมณ์และการเสร็จกิจแล้วก็คือความปลอดภัยและการรักษาความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของร่างกาย สถานที่ หรือแม้แต่อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ร่วมกิจกรรมด้วย ก็ควรทำความสะอาดและไม่ใช้ร่วมกันอย่างเด็ดขาด

‘ถุงยางนิ้ว’ ใช้ยังไง

เดี๋ยวนี้ถุงยางนิ้วมีขายอย่างแพร่หลาย และมีความหลากหลายไม่แพ้ถุงยางอนามัยปกติ วิธีใช้ก็คล้ายถุงยางอนามัยทั่วไป แต่เปลี่ยนจากการใส่ที่อวัยวะเพศเป็นการใส่ที่นิ้วแทน โดยใส่ได้ทีละนิ้ว ดังนั้นหากกิจกรรมทางเพศที่ต้องใช้มากกว่า 1 นิ้ว จำนวนถุงยางนิ้วก็ต้องมากขึ้นตามไปด้วย

ข้อควรระวังในการใช้ถุงยางนิ้วก็คล้ายกับถุงยางอนามัยเช่นกัน คือควรตรวจสอบก่อนใช้ให้มั่นใจเสียก่อนว่าถุงยางไม่ฉีกขาด และไม่ชำรุด โดยด้านที่ม้วนอยู่จะเป็นด้านนอก ถ้าด้านที่ม้วนอยู่ด้านใน ก็ให้กลับด้านก่อนใช้ เมื่อถูกต้องแล้วให้วางถุงยางครอบลงที่ปลายนิ้วที่ต้องการ แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งค่อย ๆ รูดถุงยางลงให้สุดโคนนิ้ว โดยจะต้องใส่ให้พอดี กระชับ ไม่เลื่อนหลุด เพื่อความปลอดภัยของอีกฝ่าย

หลังจากใช้งานเสร็จแล้ว ให้ห่อถุงยางนิ้วที่ใช้แล้วให้มิดชิดด้วยกระดาษชำระ และทิ้งให้เรียบร้อย ห้ามทิ้งลงชักโครกโดยเด็ดขาด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0