ลิโอเนล เมสซี ยังร้อนแรงไม่เลิกหลังทำ 2 แอสซิสต์ พา อินเตอร์ ไมอามี พลิกสถานการณ์เข้ารอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลถ้วยยูเอส โอเพ่น คัพ อีกรายการ
โดยในเกมรอบรองชนะเลิศดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 ส.ค. อินเตอร์ ไมอามี ตามหลัง ซินซินเนติ ไปก่อน 0-2 ก่อนที่ เมสซี จะมาทำ 2 แอสซิสต์ด้วยการโยนฟรีคิกให้ เลโอนาร์โด คัมปานา โหม่งไล่มาเป็น 1-2 นาที 68
https://twitter.com/opencup/status/1694510163007332604
ก่อนดาวเตะวัย 36 ปีจะโยนให้ คัมปานา โหม่งตีเสมอ 2-2 ในนาที 90+7 ก่อนจบเกมในเวลาปกติด้วยสกอร์นี้ และต้องไปสู้กันในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งทั้ง 2 ทีมยิงเพิ่มฝั่งละลูกทำให้เสมอกัน 3-3 ต้องไปตัดสินผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ
https://twitter.com/MLS/status/1694518186534719826?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1694518186534719826%7Ctwgr%5Eed9623ba7253d963d88d2e23808cce94e9c645e1%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fcdn.embedly.com%2Fwidgets%2Fmedia.html%3Ftype%3Dtext2Fhtmlkey%3Dcb7145f1731b4c328f8e4d2201854ceaschema%3Dtwitterurl%3Dhttps3A%2F%2Ftwitter.com%2FMLS%2Fstatus%2F1694518186534719826image%3Dhttps3A%2F%2Fabs.twimg.com%2Ferrors%2Flogo46x38.png
และเป็น อินเตอร์ ไมอามี ที่ดวลจุดโทษได้เฉียบคมกว่าเอาชนะไป 5-4 โดย เมสซี รับหน้าที่สังหารเป็นคนแรกให้กับทีมด้วย ส่งผลให้พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของรายการนี้ไปรอดวลกับ ฮุสตัน ไดนาโม กับ เรอัล ซอลต์ เลก พร้อมเป็นการลุ้นแชมป์รายการที่ 2 ติดต่อกันหลังก่อนหน้านี้ อินเตอร์ ไมอามี เพิ่งซิวแชมป์ลีกส์ คัพ สมัยแรกของสโมสร
ขณะที่ เมสซี มีสถิติการยิงประตู และแอสซิสต์ให้กับ อินเตอร์ ไมอามี ไปแล้ว 10 ประตูกับ 3 แอสซิสต์จากการลงสนาม 8 นัดทุกรายการ