โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทนายดัง เตือน ฟังหูไว้หู คดีลูกชาย-ลูกสะใภ้ กักขังเศรษฐี หวังฮุบสมบัติ

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 14 ก.พ. 2566 เวลา 03.26 น. • เผยแพร่ 14 ก.พ. 2566 เวลา 10.05 น.

จากกรณีที่เศรษฐีวัย 67 ปี เข้าร้องสื่อ หลังถูกลูกชาย – ลูกสะใภ้ และครอบครัวของลูกสะใภ้ได้ทำการกักขัง ด้วยการกรอกยาสลบหมูนานกว่า 2 ปี และทำการจัดฉากให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ ยื่นศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกก่อนถ่ายโอนทรัพย์สินกว่า 65 ล้านบาท ก่อนที่ภรรยาจะเสียชีวิตหนีจาก เชื่อเป็นการฆาตกรรม

จากการสอบถามบุรุษไปรษณีย์ คนที่เฮียหมูได้ส่งจดหมายขอความช่วยเหลือเล่าว่า เดิมทีตนรู้จักกับเฮียหมูและภรรยา เนื่องจากบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน ไปซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าบ่อย และตนก็รู้จักลูกชาย ลูกสะใภ้ด้วย แต่มีช่วงหนึ่งที่ไม่ได้เจอเฮียหมูกับภรรยา พร้อมมีข่าวว่าทั้งคู่ได้เสียชีวิตแล้วก่อนจะได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือที่ส่งไปให้หลาน

ต่อมาหลังจากที่หลานของเศรษฐีได้รับจดหมาย จึงสามารถช่วยเหลือเฮียหมู ให้รอพ้นจากภัยที่แสนทรมานกว่า 2 ปี ซึ่งหลานที่มาช่วยเฮียหมูยอมรับว่า ผิดสังเกตที่ทั้งคู่ป่วยพร้อมกัน แต่ทางลูกชายก็บอกว่า เป็นเพราะนอนน้อย จึงสงสัยว่า พ่อมีอาการแบบนี้ ทำไมไม่กระตือรือร้นพาไปหาหมอ

แต่ทว่าล่าสุด ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเพจ "ทนายคลายทุกข์" เกี่ยวกับคดีดังกล่าวโดยระบุว่า"คดีจัดฉากฆาตกรรมลูกชายลูกสะใภ้กักขังพ่อฮุบสมบัติ 65 ล้านระวังโอละพ่อนะครับฟังหูไว้หูข่าวลือคือข่าวจริงที่มาล่วงหน้า"

ทนายดัง เตือน ฟังหูไว้หู คดีลูกชาย-ลูกสะใภ้ กักขังเศรษฐี หวังฮุบสมบัติ

ต่อมาทนายเดชา ก็ได้โพสต์เพิ่มเติมอีกว่า "คดีจัดฉากฆาตกรรมเชื่อว่าอีก 2-3 วันลูกชายน่าจะมาแถลงข่าวไม่ได้หนีไปไหนส่วนลูกสะใภ้ก็ไปเที่ยวฮ่องกง ไม่ได้ทำผิดอะไร"

ทนายดัง เตือน ฟังหูไว้หู คดีลูกชาย-ลูกสะใภ้ กักขังเศรษฐี หวังฮุบสมบัติ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...