โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ท่องเที่ยว

เที่ยว Fukuoka พร้อมขับ Road Trip รอบคิวชูเหนือ

โตแล้วไปไหนก็ได้

เผยแพร่ 13 มี.ค. เวลา 10.00 น. • iBENma

Fukuoka อีกหนึ่งเมืองในประเทศญี่ปุ่น ที่อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสความชิล ซึ่งตัวเมืองจะอยู่ในภูมิภาคคิวชู ตอนล่างของประเทศ ซึ่งคิวชูก็ค่อนข้างใหญ่เลย

มีอีกหลายเมืองที่สามารถเดินทางจาก Fukuoka ไปต่อได้ การเดินทางหลัก ๆ ก็จะมีเป็น JR PASS ที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว และอีกหนึ่งวิธีที่อยากแนะนำ ก็คือการเช่ารถขับ Road Trip ไปเลยชิล ๆ จะเลือกพักตามเมืองที่แวะก็ได้ หรือจะขับเริ่มจากตัวเมือง Fukuoka เช้า ไปเที่ยว แล้วกลับตอนเย็น ตอนค่ำแบบเราทุกวันก็ย่อมได้เช่นกัน

เริ่มการเดินทางไป Fukuoka กับสายการบิน AirAsia ที่บินตรงจากสนามบินดอนเมือง ลงสนามบิน Fukuoka ได้เลย ไฟลท์บินของเราออกจากดอนเมืองประมาณ ตี 1 แล้วก็จะถึงที่โน่นช่วงเช้าพอดี สามารถเที่ยวต่อได้เลยแบบสบาย ๆ

เวลาจองเที่ยวบิน เราก็จะชอบพ่วง pack น้ำหนักกระเป๋า อาหาร ไปด้วยเลย นั่งเครื่องนาน ๆ ยังไงก็ต้องหิว เรื่องกินเรื่องใหญ่เนาะ

และการ Road Trip ของเราครั้งนี้ เราได้ทำการจองรถโดยตรงกับทาง PKGJourney เป็นของคนไทยนี่แหละฮะ บอกเลยว่าสะดวกสบาย ไม่กี่ขั้นตอน ก็สามารถจองรถเช่าได้แล้ว ที่ PKGJourney เค้าจะเป็นพาร์ทเนอร์กับทาง Toyota Rent a Car เราก็เลือกตอนจองได้เลยว่าอยากรับรถที่ไหน ของเราเลือกรับที่สาขาสถานี Hakata เดินทางสะดวกมาก ๆ ขึ้นจากสถานีรถไฟ เดินออกมานิดเดียวก็เจอเลยขั้นตอนรับรถก็ง่ายสุด ๆ แค่เอาใบจองไปยื่นที่ให้กับคุณพี่พนักงาน แล้วก็รอเซนต์เอกสาร แป๊บเดียวก็ได้รถแล้ว

Mt.ASO . Daikanbo (KUMAMOTO)

Location : https://maps.app.goo.gl/htCwpFuF8w6hj81f9

แน่นอนว่า ภูเขา Aso ที่เมือง Kumamoto เป็นอีก Destination ในคิวชูที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวมาก ๆ ใช้เวลาขับจากย่าน Tenjin ไปประมาณ 2 ชม. (ขึ้นทางด่วน)

ซึ่งโซนของภูเขาไฟ Aso ก็คือใหญ่ และกว้างมาก ๆ จะแบ่งเป็นหลาย ๆ ที่ให้เราไป ที่แรกเราเลือกไปแวะที่ Daikanbo จะเป็นจุดชมวิวภูเขาแบบ 360 องศาไปเลย เราเดินทางช่วงสิ้นเดือนกุมภา ทุ่งหญ้าก็จะกลายเป็นสีทองสวย ๆ แบบนี้เลยฮะ ด้านบนของ Daikanbo ก็มีที่จอดรถให้เยอะมาก สามารถเลือกจอดได้เลย ไม่เสียค่าจอดฮะ มีร้านค้า ร้านอาหาร ขายของกิน ขนมไว้ให้ด้วย

Mt.ASO . Kusansenri (KUMAMOTO)

Location : https://maps.app.goo.gl/pRA8Qsf6VZdXQVf99

จากตรง Daikanbo เราขับลงมาต่อที่นี่ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที Kusasenri เป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ ที่มีบึงน้ำอยู่ด้วย จะอยู่ใกล้ ๆ กับปากปล่องภูเขาไฟ Nakadake ใกล้แบบใกล้มากกกกก

ควันด้านหลังที่เราเห็น ก็คือควันจากปล่องภูเขาไฟ Nakadake นั่นเองฮะ จากจุดจอดรถ เดินลงมาด้านล่างที่เป็นทุ่งหญ้ากว้าง ๆ ได้เลย เป็นอีกบรรยากาศที่ชิลมาก ๆ

ตอนแรกเราคิดว่าที่นี่จะเงียบ ๆ ไม่ค่อยมีคน สรุปมาถึงก็คือคนเยอะมากกก แต่ไม่ได้แออัดเพราะพื้นที่กว้างมากจริง ๆ ฮะ คนก็จะกระจายไปตามจุด เดินมาถึงบึงน้ำด้านล่าง ที่บอกเลยว่าฟินมากกกก ด้วยความอากาศเย็น ๆ กับวิวเขา และทุ่งหญ้าสีทองอ่า บึงน้ำก็คือตัดมู้ดได้ดีมาก

Kirin Lake (YUFUIN)

Location : https://maps.app.goo.gl/Hzvym5tG41WYZaq78

จากตัวเมือง Fukuoka ขับมาที่ Yufuin ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 45 นาที (ทางด่วน) ของเรามาถึงช่วงเช้าประมาณ 9 โมง รีบตรงมาที่ Kirin Lake ก่อนเลย เป็นทะเลสาบเล็ก ๆ ที่อยู่ในเมือง Yufuin น้ำในนี้จะไหลมาจากน้ำพุร้อน ทำให้น้ำอุ่นอยู่ตลอดเวลา ไปช่วงเช้า ๆ แบบเราอากาศเย็นก็จะได้เห็นเป็นไอน้ำลอยขึ้นมาด้วย

Kirin Lake เป็นอีกจุดฮิตของนักท่องเที่ยวเลย เพราะฉะนั้นอาจจะต้องทำใจเรื่องคนนิดนึงฮะ ไปเช้า ๆ ไม่ก็อีกทีอาจจะต้องช่วงเย็น ๆ เลย คนจะไม่ได้เยอะมาก แต่บรรยากาศตรงนี้ดีมากจริง ๆ ฮะ เดินเล่น ถ่ายรูปไปได้เรื่อย ๆ เลย เดินเลาะไปตามทางด้านหลังก็จะมีเสาโทริอิ ของศาลเจ้า Tenso อยู่ด้วย

เดินเล่นที่ทะเลสาบเสร็จ เราก็ขับรถย้อนกลับเข้ามาตรงสถานี Yufuin หาที่จอดรถ (เสียเงิน) แล้วก็เดินเล่นรอบ ๆ เมืองไปเรื่อย ๆ Yufuin เป็นอีกเมืองในคิวชูที่น่ารักมาก ๆ มีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ขนม เรียงอยู่สองฝั่งข้างทาง เดินเล่นได้เรื่อย ๆ เลยฮะเมืองนี้ จะเห็นร้านอาหารบางร้านก็มีคิวต่อแถวแบบยาวสุด ๆ

Sakurai Futamigaura’s Couple Stones (ITSHOIMA)

Location : https://maps.app.goo.gl/MrVcBCSAq5dcGy9q7

ไปเที่ยวเมืองทะเลกันบ้างดีกว่า อันนี้จะขยับใกล้ตัวเมือง Fukuoka มาอีกนิด ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชม. (ทางด่วน) หินคู่แต่งงาน Sakurai พร้อมเสาโทริอิสีขาวขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล เชื่อว่าเป็นอีกสถานที่ ที่ทุกคนน่าจะต้องเคยเห็นภาพกันอยู่บ่อย ๆ ตรงข้ามทางลงไปด้านล่าง จะมีเป็นลานจอดรถอยู่ (เสียเงิน)

เราไปช่วงเช้าเช่นกัน ถึงที่นี่ประมาณ 9 โมง แสงแดดส่องลงมาพอดิบพอดี ไม่แรง ไม่เบาจนเกินไป ซึ่งตอนแรกดีใจมาก ไม่มีคนเลย แต่พอยืนถ่ายรูปเล่นไปซัก 5 นาที ทัวร์มาละจ้า 5555555 ซึ่งเมือง Itoshima ก็เป็นเมืองทะเลอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมั่นใจในความสวยงามของน้ำทะเลได้เลย สีฟ้าสวยงามสุด ๆ

Mojiko Retro (KITAKYUSHU)

Location : https://maps.app.goo.gl/cgv5ix6upAX9NzMp9

Mojiko Retro เป็นเมืองท่าเรือเก่า ที่มีความคลาสสิคของตัวตึก ความอิฐส้ม ความติดแม่น้ำ ท่าเรือใด ๆ ทำให้เป็นอีก Destination สวย ๆ ของภูมิภาคคิวชู วันที่เราไปดันเจอฝน แต่ก็รู้สึกว่าได้ Mood ความสวยไปอีกแบบเลย ด้วยความเป็นท่าเรือตั้งแต่สมัยก่อนที่เค้าไว้ทำการค้ากับต่างประเทศ เค้าก็มีการอนุรักษ์โครงสร้างความยุโรปไว้ด้วย

ที่ Mojiko Retro ก็เป็นอีกที่ ที่สามารถเดินเล่นได้เรื่อย ๆ มีมุมถ่ายรูปกับตึกสีส้มหลายจุดมาก มีร้านอาหารทะเลสด ๆ หรือถ้าใครมีเวลาอยากข้ามเรือไปตลาดปลาก็สามารถเช่นกัน แต่วันที่เราไปฝนตก เลยขอข้ามไปก่อน

ที่ท่าเรือก็จะมีอีกหนึ่งโลเคชั่นความดีงาม ก็คือสะพาน Blue Wing Moji เป็นสะพานชักระหว่างพื้นที่ 2 ฝั่ง ที่ยังเปิดใช้งานอยู่จนถึงทุกวันนี้
ซึ่งตอนสะพานชักลงมา ก็สามารถเดินข้าม ถ่ายรูปเล่นได้เลย เค้าจะมีเวลาเปิด-ปิด สะพานไว้ตามนี้เลยฮะ เวลาที่สะพานจะชักขึ้น 10:00 น., 11:00 น., 13:00 น. 14:00 น., 15:00 น., 16:00 น. จะชักลงจากเวลาด้านบนทุก ๆ 20 นาที

Momochi Seaside Park (FUKUOKA)

Location : https://maps.app.goo.gl/CLaYvxA6DBKgC1nw6

อีกที่ ที่ใกล้กับตัวเมือง Fukuoka มาก ๆ ขับรถประมาณ 30 นาทีเท่านั้น เป็นสวนสาธารณะริมทะเล Momochi ด้วยความสวยงามของตัวอาคาร และรูปแบบการจัดวาง ก็เลยทำให้เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้เลย

บริเวณรอบ ๆ ก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายของกินตามริมทะเลเอาไว้ให้ด้วย เดินเล่น ถ่ายรูปกันได้แบบเพลิน ๆ แต่ช่วงอากาศเย็นแบบเรา ก็เอาเรื่องอยู่ฮะ ลมพัดมาแรง ๆ ทีนึงก็คือหน้าตึงไปเลย

Fukuoka Art Museum (FUKUOKA)

Location : https://maps.app.goo.gl/foz6E1PjP4oFJuEw6

ปิดท้ายเอาใจสาย Art หน่อย ไม่แวะมาไม่ได้เลย ตัว Museum จะตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ Ohori จริง ๆ สามารถนั่งรถไฟมาก็ได้ หรือถ้ามีรถก็ขับรถมาได้เลยเช่นกันฮะ Museum ขนาดค่อนข้างใหญ่เลย ไฮไลท์ของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นฟักทองยักษ์ของคุณ Kusama Yayoi ที่ตั้งเด่นอยู่ด้านนอกชั้น 2 ของที่นี่

ตรงบริเวณด้านนอก Outdoor สามารถขึ้นมาได้เลย ไม่ต้องเสียค่าเข้าฮะ แต่ถ้าใครอยากเข้าชมศิลปะด้านใน ก็สามารถซื้อบัตรเข้าได้เลย พื้นทีด้านนอกตรงนี้ เดินเล่นได้หมดเลยฮะ มีร้านอาหาร ร้านขายของภายใน Museum แล้วก็บริเวณรอบ ๆ สวน Ohori ก็ดีงามไม่แพ้กัน เดินชิลตามรอบ ๆ บ่อน้ำไปกันได้เลยตลอดทางเลย

และการไปเที่ยว Fukuoka คราวนี้ เราเลือกพักที่ Lyf Tenjin Fukuoka เป็นอีกโรงแรมที่อยากแนะนำต่อมาก ๆ ด้วยโลเคชั่นเอย ห้องพักเอย ลงตัวมาก ๆ ห้องพักมีให้เลือกหลาย Room Type และโรงแรมอยู่ในโซนที่ใกล้ห้าง ร้านอาหาร คาเฟ่ แหล่งช้อปปิ้งแบบจุก ๆ เดินทะลุถึงกันได้หมดเลย

ใครที่พักโรงแรมญี่ปุ่นเป็นประจำอยู่แล้ว ก็จะเข้าใจในขนาดของตัวห้องพักเป็นอย่างดี ที่จะไม่ได้ใหญ่เว่อเหมือนบ้านเรา ซึ่งของที่นี่ ก็จะเป็นขนาดทั่วไปเลย แต่ด้วยการจัดสรรพื้นที่ และการตกแต่งภายในห้องพัก ทำให้ไม่ได้รู้สึกอึดอัด เตียงก็ขนาดกำลังดี และนิ่มมากทุกคน หายห่วงเรื่องนอนไม่สบายได้เลย

ขากลับไทย ก็จะเป็นไฟลท์เช้า ออกจากสนามบินตอน 10.00 น. ก็ไปถึงสนามบินซัก 8 โมงเช้าได้ฮะ ชิล ๆ จากตัวเมือง Fukuoka เดินทางประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น ถ้าใครไม่อยากเหนื่อยกับการแบกกระเป๋าขึ้นรถไฟ เราอยากแนะนำ Taxi เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีมาก ๆ ต่อเดียวถึง International Terminal เลย แนะนำให้ทำการ Check-in Online ใน Application AirAsia MOVE ล่วงหน้าไว้ มาถึงสนามบินก็จะได้เข้าช่อง Baggage Drop ได้เลย ด้านในสนามบิน Duty Free มีขนมให้ซื้อนะทุกคน ไม่ต้องกลัวว่ากลับไฟลท์เช้าแล้วข้างในไม่เปิด เปิดจ้า เปิดแบบจุก ๆ ของวางไว้ให้เลือกสรรเพียบเลย

ขึ้นเครื่องนั่งชิลไปซักแป๊บ ได้เวลาอาหารจ้า บอกทุกคนตรงนี้เลยว่าสั่งอาหารไว้เถอะ การไปเที่ยวหลายวัน จะทำให้เราโหยหาอาหาารไทยสุด ๆ ข้าวกะเพราไก่อันนี้เยียวยาจิตใจมาก ๆ เผ็ดร้อนตามแบบฉบับอาหารไทยไปเลยจ้า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0