โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

Lazada อัพสปีด “ขนส่ง” เสริมเขี้ยวเล็บธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 05 พ.ย. 2566 เวลา 11.40 น. • เผยแพร่ 05 พ.ย. 2566 เวลา 12.10 น.
ณัฏฐพล เกรียงชัยเวทย์-เจมส์ มาร์แชนท์

จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยเติมเต็มอีโคซิสเต็มของการซื้อขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้สมบูรณ์ และสร้างความแตกต่างให้กับผู้บริโภคได้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง “การขนส่ง” ยิ่งขับเคี่ยวแข่งขันเพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามาจับจ่ายบนแพลตฟอร์มของตนเองด้วยสารพัดโปรโมชั่นมากเท่าไร การขนส่งก็ยิ่งสำคัญ เพื่อให้สินค้าไปถึงมือผู้ซื้อได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

นั่นทำให้ “ลาซาด้า” (Lazada) หนึ่งในผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซลุกขึ้นมาพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของตนเองภายใต้การดำเนินงานของ “ลาซาด้า โลจิสติกส์” ที่มีบริการขนส่งสินค้าอย่าง “ลาซาด้า เอ็กซ์เพรส” (LEX) เป็นฟันเฟืองหลัก ซึ่งในปี 2565 ที่ผ่านมายังสามารถสร้างผลกำไรจากการดำเนินงานได้ถึง 2,700 ล้านบาท

อีกทั้งยังเดินหน้าพัฒนากลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ เพื่อสนับสนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ รองรับการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยที่คาดว่าจะมูลค่าสูงถึง 3.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2568 จากรายงานของ Google e-Conomy SEA Report 2022 ที่ยอดขายสินค้าโดยรวม (gross merchandise value หรือ GMV) อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ล่าสุดควักกระเป๋าลงทุนเปิดศูนย์คัดแยกพัสดุแห่งที่ 3 ที่เทพารักษ์ สมุทรปราการ

ภาพรวม “ลาซาด้า โลจิสติกส์”

“ณัฏฐพล เกรียงชัยเวทย์” รองประธานอาวุโสฝ่ายโลจิสติกส์ ลาซาด้า ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริการของลาซาด้า โลจิสติกส์ แบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ 1.บริการขนส่งสินค้า (delivery service) 2.บริการคลังสินค้า (fulfillment service) หรือ Fulfillment by Lazada (FBL) ซึ่งลาซาด้าจะทำหน้าที่จัดการระบบหลังบ้านให้ทั้งหมดตั้งแต่การจัดการสต๊อกไปจนถึงส่งของถึงมือลูกค้า และ 3.บริการด้านโลจิสติกส์แบบหลากหลายช่องทาง (multichannel logistics service หรือ MCL)

“บริการขนส่งสินค้า มี LEX เป็นแขนขาสำคัญ ถ้าเทียบกับเมื่อ 5 ปีก่อน ถือว่า LEX โตขึ้นจากเดิม 7-8 เท่า พัสดุส่วนใหญ่ที่จัดการโดยลาซาด้า โลจิสติกส์ จะจัดส่งโดย LEX แต่เราก็ทำงานกับพาร์ตเนอร์บริษัทขนส่งรายอื่น ๆ ด้วย เพราะแต่ละรายมีจุดแข็งด้านพื้นที่แตกต่างกัน ส่วนบริการ MCL เริ่มมาจากเห็นปัญหาของผู้ขายที่ขายสินค้าบนหลายแพลตฟอร์ม ต้องจัดการคลังสินค้าแยกกัน เช่น ขายบน 4 แพลตฟอร์ม ก็ต้องมีคลังสินค้าแยก 4 ส่วน ส่งผลถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เราเห็นโอกาสที่เข้ามาเป็นตัวกลาง”

โดยลาซาด้า โลจิสติกส์ เปิดตัวบริการ MCL ในประเทศไทยช่วงต้นปี 2566 โดยผู้ขายและแบรนด์สินค้าจะรวบรวมคำสั่งซื้อจากช่องทางต่าง ๆ แล้วส่งต่อให้ลาซาด้า โลจิสติกส์ ที่บริหารจัดการคลังสินค้าอยู่แล้วเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการหันไปให้ความสำคัญกับการขาย และการทำตลาดได้มากขึ้น ปัจจุบัน MCL มีให้บริการในสิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย, เวียดนาม และอินโดนีเซีย

“ส่งเร็วพิเศษ” สร้างความต่าง

“ณัฏฐพล” กล่าวต่อว่า จากข้อมูลที่มีพบว่า 43% ของผู้ใช้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซคาดหวังที่จะได้รับสินค้าในวันถัดไป และ 55% ของผู้ขายยังบอกว่าการส่งสินค้าอย่างรวดเร็วช่วยเพิ่มยอดขายได้

จากปัจจัยข้างต้นทำให้บริษัทพัฒนาบริการ “ส่งเร็วพิเศษ” (priority delivery) ที่ผู้ซื้อจะได้รับสินค้าไม่เกิน 2 วันทำการ หลังจากวันที่ทำการสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้า LazMall หรือร้านค้าแนะนำ (LazPick) และผู้ขายที่เข้าร่วมบริการโดยไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากค่าส่งตามปกติ

“เราเริ่มให้บริการส่งเร็วพิเศษ เมื่อเดือน ก.ย. 2565 พบว่าลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้น รวมถึงอัตราการยกเลิกคำสั่งซื้อก็ต่ำลง โดยบริการส่งเร็วพิเศษแบ่ง 2 ส่วน สำหรับ next day delivery หรือการรับสินค้าในวันถัดไปจะต้องเป็นสินค้าที่อยู่ในคลังของลาซาด้าอยู่แล้ว ส่วน two day delivery หรือการรับสินค้าไม่เกิน 2 วัน เป็นสินค้าที่มาจากผู้ขายซึ่งใช้เวลาในการดำเนินการมากกว่า เพราะต้องส่งรถไปรับพัสดุจากผู้ขายหรือจุด drop off ต่าง ๆ ก่อนนำมาคัดแยกที่ศูนย์คัดแยกแล้วส่งต่อไปยังศูนย์กระจายสินค้าตามจังหวัดต่าง ๆ ก่อนส่งไปยังผู้ซื้อต่อไป”

ปัจจุบันบริการส่งเร็วพิเศษมีให้บริการครอบคลุมพื้นที่ 23 จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ ปริมณฑล, ชลบุรี, นครราชสีมา เป็นต้น ซึ่งร้านค้าที่เข้าร่วมบริการส่งเร็วพิเศษจะมีไอคอนรถบรรทุกสีน้ำเงินปรากฏในหน้าเลือกซื้อสินค้า

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้ทดลองเข้าไปสั่งซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มลาซาด้ากับร้านค้าที่มีบริการส่งเร็วพิเศษ พบว่าจะมีการระบุระยะเวลาในการรับสินค้าภายใน 1-2 วันทำการ ขณะที่ร้านค้าที่จัดส่งแบบปกติจะระบุระยะเวลาในการรับสินค้าที่ 2-3 วันทำการหรือไม่ระบุจากหลายปัจจัย เช่น การจัดการสต๊อกของผู้ขาย การให้บริการของขนส่งหรือเป็นสินค้าต้องรอการพรีออร์เดอร์จากต่างประเทศ เป็นต้น

ขยายศูนย์คัดแยกสินค้าเทพารักษ์

“เจมส์ มาร์แชนท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโลจิสติกส์ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ลาซาด้าให้บริการส่งเร็วพิเศษได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาจากการมีศูนย์คัดแยกพัสดุในพื้นที่ที่เหมาะสม ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์คัดแยกพัสดุสุขสวัสดิ์, ศูนย์คัดแยกพัสดุ จ.ฉะเชิงเทรา และแห่งล่าสุดที่เทพารักษ์ สมุทรปราการ ที่มีจุดเด่นในการนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติมาใช้ถึง 75% และมีขนาดใหญ่ที่สุดที่ลงทุนในประเทศไทยด้วยพื้นที่กว่า 35,000 ตารางเมตร

“เรานำเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่างเข้ามาใช้ เช่น ระบบการจดจำใบหน้าบันทึกข้อมูลเข้า-ออกพนักงาน, กล้อง AI ที่ทำงานร่วมกับสแกนเนอร์ใต้สายพาน สามารถอ่านบาร์โค้ดบนกล่องพัสดุได้ 360 องศา และเซ็นเซอร์คัดแยกขนาดของพัสดุ เป็นต้น”

และการมีศูนย์คัดแยกพัสดุ 3 แห่ง ทำให้สามารถคัดแยกพัสดุเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านชิ้นต่อวัน สามารถรองรับปริมาณคำสั่งซื้อในช่วงแคมเปญใหญ่ ๆ ได้ โดยศูนย์คัดแยกพัสดุที่เทพารักษ์เป็นศูนย์ที่เราใช้เงินลงทุนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะคืนทุนภายใน 2-3 ปี

“ศูนย์คัดแยกพัสดุเทพารักษ์ช่วยประหยัดเวลากว่าการคัดแยกแบบเดิม 3-4 เท่า ทำให้พัสดุอยู่ในศูนย์คัดแยกไม่เกิน 2 ชั่วโมง การนำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้พนักงานด้วย ปัจจุบันเรามีพนักงานรวมกันในศูนย์ทั้ง 3 แห่งราว 500-1,000 คน แต่ถ้าเป็นช่วงที่มีแคมเปญใหญ่จะต้องใช้มากกว่าพันคน”

มากกว่า “โลจิสติกส์”

“เจมส์” กล่าวถึงแผนงานในอีก 1 ปีข้างหน้าของลาซาด้า โลจิสติกส์ด้วยว่า จะให้ความสำคัญกับ “LEX network” หรือการขยายเครือข่ายการให้บริการที่แข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่น และขยายการบริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยมุ่งไปยัง 1.การบริหารจัดการต้นทุนให้คุ้มค่ามากที่สุด (optimal cost) นำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้ทำน้อยแต่ได้มาก 2.ความสม่ำเสมอด้านการบริการ (consistency) และ 3.ฝึกอบรมพนักงาน (training) ที่มีหลายพันคนให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมต่อการให้บริการ เพื่อสร้างความประทับใจกับลูกค้า

“ณัฏฐพล” เสริมด้วยว่า ลาซาด้า โลจิสติกส์ ไม่ได้มีแค่การขนส่ง แต่ยังมีบริการจัดการคลังสินค้าและระบบหลังบ้านให้ผู้ขายด้วย จึงสามารถตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายที่เป็นผู้ใช้ในอีโคซิสเต็มอีคอมเมิร์ซ

“ในแง่การแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการขนส่งพัสดุ เรามองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ผู้บริโภคจะมีตัวเลือกในการใช้บริการมากขึ้น เราจึงลงทุนไปกับการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้”

อย่างไรก็ตาม แม้การขยายบริการส่งเร็วพิเศษให้ครอบคลุมทั่วประเทศจะเป็นความท้าทาย แต่บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เกิดขึ้นให้ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณของพัสดุที่จะต้องดำเนินการจัดส่งด้วย ส่วนโอกาสที่พัสดุภายใต้การจัดการของลาซาด้า โลจิสติกส์ จะให้บริการโดย LEX ทั้งหมดหรือไม่คงต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น พื้นที่การให้บริการ ขีดความสามารถของพาร์ตเนอร์แต่ละราย และประเภทของสินค้า เป็นต้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...