โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

วิเคราะห์หุ้น SPRC หลังปิดดีลซื้อปั๊ม ‘คาลเท็กซ์’ รุกธุรกิจปลายน้ำเต็มสูบ

The Bangkok Insight

อัพเดต 09 ม.ค. 2567 เวลา 16.16 น. • เผยแพร่ 09 ม.ค. 2567 เวลา 02.14 น. • The Bangkok Insight

วิเคราะห์หุ้น SPRC หลังปิดดีลซื้อธุรกิจปั๊มคาลเท็กซ์ในประเทศไทย มูลค่าเงินลงทุน 5,562.5 ล้านบาท รุกธุรกิจปลายน้ำเต็มสูบ

เปิดศักราชปี 2567 ก็มีการปิดดีลใหญ่เรียบร้อยไปอีกหนึ่ง สำหรับ SPRC หรือ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ประกาศเสร็จสิ้นการซื้อธุรกิจจัดจำหน่ายปิโตรเลียมจาก Chevron Asia Pacific Holdings Limited (CAPHL) ภายใต้แบรนด์ “Caltex” หรือ ปั๊มคาลเท็กซ์ ไปเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ถือเป็นการจุดไฟให้สมรภูมิการแข่งขันธุรกิจปั๊มน้ำมันในไทยทวีความรุนแรงขึ้นอีกรอบ

จุดเริ่มต้นของดีลดังกล่าว เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2566 หลังจากที่ SPRC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าบริษัทมีแผนเข้าลงทุนในบริษัทเป้าหมายที่ดูแลธุรกิจปั๊มคาลเท็กซ์ในประเทศไทย ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 5,562.5 ล้านบาท ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

คาลเท็กซ์

1. เข้าลงทุนในธุรกิจปั๊มน้ำมันแบรนด์คาลเท็กซ์ จำนวน 450 แห่ง ผ่านการซื้อหุ้น 100% ของบริษัท เชฟรอน ลูบริแคนท์ (ประเทศไทย) จํากัด จากกลุ่ม Chevron

2. เข้าลงทุนในสัดส่วนการถือครองหุ้นบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS 2.51%
3. เข้าลงทุนในสัดส่วนการถือครองหุ้นบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด 9.91%
4. เข้าลงทุนในที่ดินการประกอบธุรกิจและคลังน้ำมัน ในจังหวัดสงขลาและสุราษฎร์ธานี ผ่านการเข้าถือหุ้น 49% ในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ 2 บริษัท

คาลเท็กซ์

สำหรับเงินที่ใช้ในการลงทุนครั้งนี้ SPRC ใช้เงินทุนจากกระแสเงินสดภายในและกู้ยืม เนื่องจาก SPRC มีสัดส่วนหนี้ต่อส่วนผู้ถือหุ้นต่ำ ทำให้ยังกู้ยืมได้ โดย SPRC จะเริ่มรับรู้รายได้และกําไรจากธุรกิจปั๊มน้ำมัน รวมถึงเงินปันผลตามสัดส่วนถือหุ้น ตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปี 2567 เป็นต้นไป

การเข้าทําธุรกรรมครั้งนี้จะช่วยให้ SPRC ได้มาซึ่งธุรกิจจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม จากการเป็นเจ้าของสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์คาลเท็กซ์ และแบรนด์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 450 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ดําเนินการในรูปแบบผู้ค้าปลีกเป็นเจ้าของและเป็นผู้ดําเนินการ (RORO) โดยมีส่วนแบ่งการตลาดราว 4-5% ของปริมาณจําหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในปั๊มน้ำมันในประเทศไทย

ตลอดจนทรัพย์สินทั้งหมดที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ทั้งการลงทุนในธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อ 3 เส้นทางหลัก ระยะทางรวม 360 กิโลเมตร รองรับการขนส่งน้ำมันจากโรงกลั่นและคลังน้ำมันใหญ่ในภาคตะวันออก มายังคลังน้ำมันที่จังหวัดปทุมทานีและสระบุรี ซึ่งจะเป็นแหล่งสํารองน้ำมัน และศูนย์กลางการจ่ายน้ำมันไปยังพื้นที่อื่นๆ รวมถึงธุรกิจให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน ซึ่งจะช่วยให้ SPRC สามารถดําเนินธุรกิจปลายน้ำของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมได้อย่างต่อเนื่องและครบวงจร

คาลเท็กซ์

มุมมองของบทวิเคราะห์ บล. เอเซีย พลัส คาดว่า SPRC จะรับรู้กําไรจากธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และเงินปันผลรับจากธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อ รวมประมาณ 400-650 ล้านบาทต่อปี ทำให้มีการปรับเพิ่มประมาณการกําไรของบริษัทตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป

ส่งผลให้เพิ่มมูลค่าหุ้น SPRC ขึ้น 0.7 บาทต่อหุ้น ราคาพื้นฐานหุ้นใหม่อยู่ที่ 10.90 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม ช่วงระยะสั้นสั้นคาดกําไรไตรมาส 4/2566 จะปรับตัวลดลง สอดคล้องกับภาพรวมของกลุ่ม จึงแนะนำให้เน้นการ “เก็งกำไร TRADING” ตามประเด็นบวกจากการเข้าลงทุนดังกล่าวด้วยความระมัดระวัง

มุมมองระยะยาวในภาพรวมผลประกอบการปี 2567 ประเมินว่าปริมาณจําหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2% ภายใต้สถานการณ์มีการเดินทางภายในประเทศมากยิ่งขึ้น รวมถึงกําหนดสมมติฐานอัตรากําไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตร คงที่ในระดับ 0.55 บาทต่อลิตร ซึ่งอิงจากค่าเฉลี่ยในปี 2562-2564 ที่อยู่ในกรอบ 0.33-0.67 บาทต่อลิตร

ดังนั้น ฝ่ายวิจัย บล. เอเซีย พลัส จึงปรับเพิ่มประมาณการกําไรปกติตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ส่งผลให้กําไรปกติปี 2567-2568 เพิ่มขึ้น 10.3% และ 17.7% จากเดิม มาอยู่ที่ 4.3 และ 3.3 พันล้านบาท ตามลําดับ

สุดท้ายนี้ เชื่อว่าดีลการเข้าซื้อปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ น่าจะกระทบต่อตลาดปั๊มน้ำมันในประเทศไทยแน่นอน จากล่าสุดที่ OR ครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ตามมาด้วยบางจาก และพีทีจี ส่วนคาลเท็กซ์ แม้จะยังตามมาห่างๆ แต่การที่ SPRC เข้ามาดูแลแบบเต็มตัว ก็อาจเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาธุรกิจ เร่งขยายสาขา ขึ้นมาเบียดแย่งส่วนแบ่งตลาดในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...