โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ยอดจองโรงแรมลดทั่วประเทศ ธุรกิจท่องเที่ยวลุ้น ‘คนละครึ่ง’

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 20 ก.ค. เวลา 09.21 น. • เผยแพร่ 20 ก.ค. เวลา 02.27 น.

ท่องเที่ยวครึ่งปีแรก ต่างชาติเที่ยวไทย 17.75 ล้านคน ลดลง 5% มาเลเซียอันดับ 1 ตามมาด้วยจีนและอินเดีย กังวลช่วงโลว์ซีซั่นหดตัวหนักกว่าปีที่แล้ว นายกสมาคมโรงแรมเผยยอดเข้าพักลดลงเกือบทุกภาค ยอดจองปลายปีเริ่มเห็นสัญญาณบวก พัทยายังทรงตัว-ภูเก็ตเจอข่าวร้ายกระหน่ำหดตัว เชียงใหม่คนจีนหายกว่า 70%

ครึ่งปีต่างชาติมาไทย 17.7 ล้านคน

สถานการณ์ภาพรวมการท่องเที่ยวไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2566 เผยว่า ตั้งแต่ 1 มกราคม-13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมรวม 17.75 ล้านคน ลดลง 5.62% โดยตลาดที่มีจำนวนสูงสุด 5 อันดับแรกคือ มาเลเซีย 2.45 ล้านคน จีน 2.43 ล้านคน อินเดีย 1.26 ล้านคน รัสเซีย 1.06 ล้านคน และเกาหลีใต้ 8.16 แสนคน

จำนวนนักท่องเที่ยวรายเดือนลดลงอย่างชัดเจนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ กล่าวคือ เดือนมกราคม 3.71 ล้านคน กุมภาพันธ์ 3.12 ล้านคน มีนาคม 2.72 ล้านคน เมษายน 2.54 ล้านคน พฤษภาคม 2.26 ล้านคน มิถุนายน 2.32 ล้านคน และวันที่ 1-13 กรกฎาคม 1.06 ล้านคน

จว.หลักรายได้เพิ่มถ้วนหน้า

หากแยกรายจังหวัดในช่วง 6 เดือนแรก (มกราคม-มิถุนายน 2568) จังหวัดที่มีนักท่องเที่ยว (ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ) สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ จำนวน 26.65 ล้านคน ลดลง 5.02% รายได้รวม 425,750 ล้านบาท ลดลง 4.95% อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 75.11% ลดลง 4.23% ตามด้วยชลบุรี จำนวน 13.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.38% มีรายได้ 155,799 ล้านบาท ลดลง 0.34% อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 80.00% เพิ่มขึ้น 2.38%

กาญจนบุรี จำนวน 7.33 ล้านคน ลดลง 0.06% มีรายได้ 18,706 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.86% อัตราเข้าพักเฉลี่ย 67.80% เพิ่มขึ้น 1.67% ภูเก็ต จำนวน 6.75 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.87% มีรายได้ 258,198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 79.50% เพิ่มขึ้น 0.29% และเชียงใหม่ จำนวน 6.03 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.68% มีรายได้ 54,516 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.51% มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 77.66% เพิ่มขึ้น 2.42%

เข้าเดือน ก.ค.ร่วงต่อเนื่อง

ส่วนภาพรวมตลาดท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ข้อมูลจากการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม (Hotel Business Operator Sentiment Index) ประจำเดือนมิถุนายน 2568 พบว่า เดือนมิถุนายน 2568 โรงแรมทั่วประเทศมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 54% ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่มีอัตราเฉลี่ยที่ 56% แต่สูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันในปี 2567 ที่มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 52%

หากแยกตามภูมิภาคพบว่า ภาคกลางเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงสุดที่ 61% เท่ากับเดือนก่อนหน้า รองลงมาคือ ภาคตะวันออก เฉลี่ย 58.7% ภาคใต้ เฉลี่ย 45% ลดลงจากเดือนก่อนที่มีอัตราเฉลี่ยที่ 51.1% ส่วนภาคเหนือยังคงเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเข้าพักต่ำสุด เฉลี่ยที่ 29.2% ใกล้เคียงกับเดือนก่อนที่เฉลี่ย 30.4%

โลว์ซีซั่นแย่กว่าปีที่แล้ว

คาดการณ์ว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศของธุรกิจโรงแรมไทยในเดือนกรกฎาคมนี้จะอยู่ในระดับ 52% ซึ่งต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่อยู่เฉลี่ย 59% ซึ่งเป็นการลดลงตามฤดูกาล หรือช่วงโลว์ซีซั่น และตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังคงลดลงต่อเนื่องทุกเดือนนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นมา

“โลว์ซีซั่นปีนี้หนักกว่าปีที่แล้ว เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวรวมเทียบกับปีที่แล้วลดลงทุกเดือนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และเชื่อว่าจะยังลดลงต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม สิงหาคมนี้ ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่ออัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศที่จะลดลงไปอีกเช่นกัน โดยเฉพาะโรงแรมในกลุ่มที่เดิมมีฐานลูกค้าเป็นตลาดกรุ๊ปทัวร์” นายเทียนประสิทธิ์กล่าว

เที่ยวคนละครึ่งช่วยกำลังใจ

นายเทียนประสิทธิ์กล่าวถึงโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ด้วยว่า มีงบประมาณเพียงแค่ 1,750 ล้านบาท จำนวน 500,000 สิทธิ สำหรับดำเนินโครงการ 4 เดือน หากเฉลี่ยงบประมาณจะอยู่ที่ 400 ล้านบาทต่อเดือน นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้มีโรงแรมเข้าโครงการประมาณ 3,500 แห่ง เฉลี่ยได้กันคนละไม่มาก

โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งที่ออกมานั้นเรามองว่า เป็นโครงการที่ออกมาให้กำลังใจและช่วยสร้างความหวังให้กับผู้ประกอบการโรงแรม และภาคการท่องเที่ยวของไทยมากกว่า ไม่สามารถคาดหวังในด้านอัตราการเข้าพักได้

บุ๊กกิ้งไฮซีซั่นปลายปีเริ่มขยับ

นายเทียนประสิทธิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโรงแรมในกลุ่มลักเซอรี่ส่วนใหญ่จะสามารถปรับตัวและประคองตัวเองให้อยู่รอดได้ ส่วนโรงแรมขนาดเล็กหรือระดับ 3 ดาว แม้ว่าส่วนใหญ่จะใช้กลยุทธ์ราคาถูก แต่ยังไม่สามารถดึงลูกค้าได้ จึงยังกระทบหนักเช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับสมาชิกสมาคมโรงแรมไทยพบว่า โรงแรมหลายแห่งก็เริ่มมียอดการจองล่วงหน้า (Booking Forward) สำหรับช่วงไฮซีซั่นปลายปี (ตุลาคม-ธันวาคม) เข้ามาแล้ว ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกที่ดีของภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย

ภูเก็ตอ่วมจี้รัฐกระตุ้นท่องเที่ยว

ส่วนภาพรวมการท่องเที่ยวจังหวัดหลัก ๆ เริ่มจากภูเก็ต จากการสอบถามผู้ประกอบการรายย่อย ร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ของที่ระลึก แหล่งช็อปปิ้ง ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ระบุว่า ขายของได้น้อยลง นักท่องเที่ยวหายไปประมาณ 60-70% เข้าใจว่า ช่วงนี้เป็นโลว์ซีซั่น ขณะที่เศรษฐกิจ การเมือง รวมทั้งข่าวความไม่ปลอดภัยด้านต่าง ๆ ทำให้กระทบท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในช่วงนี้เป็นนักท่องเที่ยวอินเดียและอาหรับ นิยมเดินมากกว่าที่จะซื้อสินค้า ส่วนนักท่องเที่ยวจีนมีน้อยมาก

เชียงใหม่-จีนเที่ยวน้อยลง

นางสาววารุณี คำเมรุ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะต่างชาติ ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายประการ ทั้งนี้ โดยปกติอัตราการเข้าพักของโรงแรม (Occupancy Rate) ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ก่อนช่วงโควิดจะอยู่ที่ราว 70% แต่ปีนี้ลดลงเหลือเพียง 50% และบางโรงแรมลงไปถึง 40%

กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่หายไปมากกว่า 70% จากเดิมที่เคยเดินทางผ่านสนามบินเข้าเชียงใหม่วันละ 3,000-4,000 คน คาดว่าปัจจัยสำคัญที่ตลาดจีนหายไปมากขนาดนี้ น่าจะมาจากความกังวลในเรื่องความปลอดภัย และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ส่วนกลุ่มคนไทยก็ชะลอเดินทางอย่างเห็นได้ชัด ผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างมาก ขณะที่นักท่องเที่ยวคนไทยบางส่วนอาจรอใช้สิทธิ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

“พัทยา” ทรงตัว-หวังคนละครึ่ง

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี นายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวชลบุรี กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวและยอดบุ๊กกิ้งเมืองพัทยาในช่วงโลว์ซีซั่นยังทรงตัว ด้วยเมืองพัทยามีความได้เปรียบ เพราะเป็นเมืองชายทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ตลาดเอเชียตัวเลขเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะตลาดจีนเพิ่มขึ้น 5% เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ยังถือว่าไม่ฟื้นกลับมาเต็มที่ เพราะตลาดจีนยังคงติดลบ 30% ในขณะที่ตลาดเกาหลีติดลบ 20% ส่วนตลาดยุโรปค่อนข้างเงียบเป็นปกติในช่วงโลว์ซีซั่น

ขณะที่กลุ่มตลาดไทยที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักกว่า 50% แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและกำลังซื้อของคนไทยที่อ่อนลง หวังว่าโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ตลาดนักท่องเที่ยวไทยฟื้นกลับมา นอกจากนี้ตลาดประชุมสัมมนาของภาครัฐ ยังทรงตัวไปได้จนถึงช่วงเดือนกันยายน ขณะที่การสัมมนาของภาคเอกชนกลับลดลง 20-30%

เงินบาทแข็งกระทบเช่นกัน

“นักท่องเที่ยวจีนหาย แต่ยังมีตลาดต่างประเทศอื่น เช่น อินเดีย ทำให้บางโรงแรมที่เคยรับกลุ่มลูกค้าจีนเปลี่ยนมารับอินเดียแทน ขณะที่โรงแรมมีการแข่งขันกันทำธุรกิจ มีการตัดราคาลงมา กลุ่มโรงแรม 4 ดาว ค่าห้องพักจาก 2,000-3,000 บาทต่อคืน ก็ตัดราคาลงมาเหลือ 1,000 กว่าบาทต่อคืน”

นายธเนศกล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้สถานการณ์โดยรวมทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะเรื่อง “ค่าเงินบาทแข็ง” เป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างมาก ที่ผ่านมาอัตราการแลกเปลี่ยนเงิน 1 ยูเอสดอลลาร์ แลกเป็นเงินไทย 35-36 บาท ปัจจุบันเหลือเพียง 32 บาท หรือแม้แต่เงินหยวนจีน 1 หยวน เคยแลกเป็นเงินไทยได้ 5 บาท แต่ปัจจุบันเหลือ 4.5 บาท จึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้สึกว่าเขามีกำลังซื้อลดลง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ยอดจองโรงแรมลดทั่วประเทศ ธุรกิจท่องเที่ยวลุ้น ‘คนละครึ่ง’

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...