โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ICHI เมื่อนักลงทุนต้องการอะไรที่เป็นมากกว่า "ชาเขียว"

Stock2morrow

อัพเดต 11 มิ.ย. เวลา 03.24 น. • เผยแพร่ 11 มิ.ย. เวลา 03.24 น. • Stock2morrow
ICHI เมื่อนักลงทุนต้องการอะไรที่เป็นมากกว่า

ICHI เมื่อนักลงทุนต้องการอะไรที่เป็นมากกว่า "ชาเขียว"

.

ผลประกอบการของ ICHI ในไตรมาสแรกของปี 2568 ดูน่าเป็นห่วงไม่น้อย … ยังไง ?

วันนี้ Stock2morrow จะเล่าให้ฟัง

- ยอดขาย ทำได้ 1.74 พันล้านบาท ลดลง 13% จากไตรมาสก่อน และ 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

- กำไรปกติ อยู่ที่ 239 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน แต่ ลดลงแรง 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน

- อัตรากำไรขั้นต้น ลดลงเหลือ 23.6% จากเดิมที่เคยทำได้ประมาณ 25%

- สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือ ธุรกิจใน อินโดนีเซีย ซึ่งเคยเป็นความหวังสำคัญ กลับมีส่วนแบ่งกำไรเพียง 6 ล้านบาท ลดลงถึง 22.4% จาก 12 ล้านบาทในปีก่อน โดยบริษัทชี้แจงว่าเกิดจากความต้องการซื้อที่ลดลงจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง, เศรษฐกิจอินโดนีเซียที่ชะลอตัว, และผลกระทบจากอุทกภัยในบางพื้นที่

สรุปง่ายๆ คือ ยอดขายและกำไรของ ICHI หดตัวลงอย่างมาก โดยมีสาเหตุหลักมาจากยอดขายทั้งในและต่างประเทศที่ลดลง ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา สภาพอากาศที่ไม่ร้อนเหมือนปีที่ผ่านมา การเข้ามาของคู่แข่งรายย่อยถึงกลาง รวมถึงประเด็นสำคัญที่สุดคือ ธุรกิจต่างประเทศที่เคยถูกมองว่าเป็น "Growth Engine" ให้กับ ICHI กลับสร้างกำไรได้เพียงไม่กี่ล้านบาทเท่านั้น

.

ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่บทวิเคราะห์หลายแห่งเริ่ม ปรับลดประมาณการ ผลประกอบการของ ICHI ลง จากเดิมที่เคยมองในแง่ดีมากๆ สำหรับปีนี้ ก็อาจไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง ประกอบกับภาพรวมตลาดหุ้นไทยที่ค่อนข้างซบเซา ทำให้บทวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองในแง่ลบต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569

.

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลย เพราะจุดเดียวที่ยังน่าสนใจคือ ธุรกิจเครื่องดื่มประเภท Non-Tea หรือเครื่องดื่มที่ไม่ใช่ชาเขียว

โดยเฉพาะ น้ำด่าง ที่สร้างยอดขาย All-Time High ได้เกือบทุกเดือน และกลายเป็นเสาหลักของรายได้บริษัทไปแล้ว คิดเป็น 7% ของรายได้รวมทั้งหมด และถ้ารวมกับน้ำประเภทอื่นๆ อีก 12% เท่ากับว่าเครื่องดื่มกลุ่ม Non-Tea มียอดขายรวมกันเกือบ 20% ของรายได้ทั้งหมด

.

นี่หมายความว่า ตอนนี้นักลงทุนกำลังมองว่า ICHI ควรมีอะไรที่ "มากกว่าชาเขียว" เพราะผลิตภัณฑ์หลายๆ อย่างของ ICHI มีจุดเด่นและความแตกต่างจากเครื่องดื่มในตลาด การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะช่วยเพิ่มยอดขาย และด้วยฝีมือของคุณตันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่สินค้าสักอย่างของ ICHI จะกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ ทำให้ยอดขายกลับมาเติบโตได้ไม่ยาก

.

ในงาน OppDay ที่ผ่านมา คุณตันแสดงความมั่นใจว่า ภาพรวมไตรมาส 2/2568 จะเห็นทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะยอดขายต่างประเทศที่กลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม) ในขณะเดียวกัน อัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 70% จากไตรมาส 1/2568 ซึ่งอยู่ที่ 64%

และในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ ICHI จะวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ "ตัน พาวเวอร์" ซึ่งเป็นเครื่องดื่มชูกำลังในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา

.

สำหรับปี 2568 บริษัทฯ ยังคง เป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 9,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 8,671.14 ล้านบาท แม้ไตรมาส 1/2568 จะมีรายได้รวมที่ 1,754.02 ล้านบาท แต่ก็เริ่มเห็นยอดขายจากตลาดต่างประเทศฟื้นตัวกลับมา และ Utilization Rate ในไตรมาส 3/2568 และ 4/2568 จะอยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าไตรมาส 2/2568 ที่ 70% ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้ดีขึ้น

.

โดยภาพรวมแล้ว ICHI เป็นหุ้นที่มีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน่าสนใจ มีผู้บริหารที่มีความสามารถ และมักจะสร้างปรากฏการณ์ให้ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์เสมอ ไม่แปลกที่นักลงทุนจะมองว่า ICHI เป็น "หุ้นเติบโต" (Growth Stock) ที่กำลังมุ่งสู่ประเทศที่มีประชากรมากถึง 270 ล้านคน แม้ในช่วงแรกจะเผชิญกับความท้าทาย แต่ก็เคยประสบความสำเร็จและสร้างรายได้กลับมาอย่างงดงาม

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ดูเหมือนว่าการบุกตลาดต่างประเทศอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดหวังอีกต่อไป เพราะผลประกอบการรอบนี้บ่งบอกถึง การชะลอตัว ทั้งรายได้ กำไร และยอดขายที่ลดลงเกือบทุกมิติ

ICHI อาจจะต้องออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สร้างกระแสและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีกว่าเดิม และหากผลประกอบการออกมาดูดี นักลงทุนก็น่าจะกลับมามีความหวังอีกครั้ง

.

สุดท้าย เราต้องไม่ลืมว่า ราคาหุ้น ICHI ได้ปรับตัวลงกว่า 42% แล้วในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ Valuation ของหุ้น ICHI อยู่ที่ P/E 11 เท่า และมีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ราวๆ 11%

แต่ถ้ากำไรลดลง เงินปันผลก็อาจจะเหลือประมาณ 8−9% ซึ่งก็ยังถือว่าสูงอยู่

นี่อาจเป็นสัญญาณว่าราคาหุ้นได้รับข่าวร้ายไปมากพอสมควรแล้ว และอาจเป็น โอกาสสำหรับนักลงทุนที่มองเห็นโอกาส ก็เป็นไปได้

.

หมายเหตุ : บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาให้เชียร์ซื้อหรือขายแต่อย่างใด

การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

#Stock2morrow #สื่อสถาบันความรู้และสังคมของนักลงทุน #ICHI #SET #ตลาดหุ้นไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...