ชีวิตของเหล่าตัวละครหญิงใน ‘สืบสันดาน’ ที่ไม่ว่าจะรวยหรือจน ก็อาจถูกกดทับทางเพศ เพียงแต่คนรวยยังมีโอกาสร้องไห้บนเบาะ ขณะที่คนจนต้องทุ่มทั้งชีวิตเพื่อจะรอด
*มีการเปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์
แม้จะปล่อยออกมาให้รับชมกันยังไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ แต่ซีรีส์ดราม่าสุดเข้มข้นอย่าง ‘สืบสันดาน’ (Master of the House) ได้กลายเป็นซีรีส์ที่มีผู้ชมมากที่สุดบน Netflix ประเทศไทยในช่วงนี้ แถมยังกลายเป็นคอนเทนต์บน Netflix ที่มีผู้ชมมากที่สุด อันดับ 2 ของโลกด้วยเช่นกัน! ซึ่งเป็นที่น่าปลื้มใจแทนผู้กำกับ ศิวโรจณ์ คงสกุล และเหล่านักแสดง พร้อมด้วยทีมงานเบื้องหลังทุกคน กับความสำเร็จที่ช่วยกันพาซีรีส์ไทย และโปรดักชันไทย ออกสู่สายตาคนทั่วโลกได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น
สืบสันดาน เล่าเรื่องราวหลังการจากไปของ เจ้าสัวรุ่งโรจน์ จากตระกูลเทวสถิตย์ไพศาล ผู้เป็นเจ้าของ Theva Gems อาณาจักรเพชรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่ชวนให้ผู้คนได้ร่วมลุ้นว่า ใครกันที่ฆ่าเจ้าสัว และฉายให้เห็นสงครามภายในบ้าน ที่ทายาทในตระกูล พากันแย่งชิงมรดกมาเป็นของตัวเอง ไปพร้อมๆ กับการพาไปเห็นสันดานของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ผู้ดี’ ที่เบื้องหลังเต็มไปด้วยการกดขี่ และใช้อำนาจเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้คนที่มีสถานะทางสังคมต่ำกว่าตน โดยมี‘ไข่มุก’ (ญดา-นริลญา กุลมงคลเพชร) สาวใช้ในบ้านผู้ได้กลายเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเจ้าสัว เป็นแกนหลักสำคัญในการดำเนินเรื่องราวไปจนจบ
เป็นธรรมดาของหนังหรือซีรีส์ทุกเรื่อง ที่หากมีคนชอบ ก็คงต้องมีคนไม่ชอบด้วยเช่นกัน บางคนมองว่า สืบสันดาน ดูเหมือนจะเป็นซีรีส์ดราม่าที่คล้ายกับละครไทยหลังข่าวซึ่งมีสูตรสำเร็จตายตัว ตบตี ใช้ความรุนแรง เหยียดคนจน และพล็อตเกี่ยวกับการแย่งชิงมรดกที่อาจไม่ได้แปลกใหม่อะไร หากไม่นับเรื่องโปรดักชันที่ทำดี น่าประทับใจ และการรวมตัวของนักแสดงมากฝีมือมาไว้ในเรื่องเดียว ถึงอย่างนั้น เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่ซีรีส์นำเสนอนั้น แม้จะไม่ใหม่ แต่ก็เป็นประเด็นสังคมที่เกิดขึ้นจริงในสังคมเรา และหากเจาะลึกลงไปในรายละเอียดซีรีส์ นอกจากปัญหาภายในครอบครัวที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมทั้งหมด หนึ่งประเด็นที่น่าหยิบมาพูดถึง และซีรีส์เรื่องนี้ก็ถ่ายทอดออกมาให้เห็นค่อนข้างชัด คือการกดทับ ‘เพศหญิง’ ให้ไร้ซึ่งอำนาจที่จะยืนหยัดด้วยตัวเอง ที่หลายตัวละครในเรื่อง ไม่ว่าจะรวย หรือจะจน ก็ต่างถูกกดทับไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง เพียงแต่หากเป็นผู้หญิงที่จน บางครั้งกลับต้องสู้เพื่อเอาตัวรอดมากกว่าผู้หญิงรวยหลายเท่าตัว โดยเฉพาะในบริบทของซีรีส์เรื่องนี้ ที่ผู้หญิงหลายคนถูกกดทับให้จมดิน และมีทางเลือกชีวิตเพียงไม่กี่ทาง มีแค่จะสู้กับอำนาจ (ด้วยวิธีใดก็แล้วแต่) หรือจะยอมต่อไป
เหมือนที่ไข่มุกได้ลั่นวาจาไว้ว่า “เป็นคนรวยเนี่ย ดีจังเลยนะคะ ทำอะไรก็ไม่ผิด พอมีอำนาจ ก็กลับผิดเป็นถูกได้” และหากจะว่ากันที่ชีวิตอันแตกต่างระหว่างผู้หญิงรวยและผู้หญิงจน มีอะไรที่ซีรีส์เอามาเปรียบเทียบให้เห็นกันจะจะบ้าง อ่านไปพร้อมกันเลย แต่ใครยังไม่ได้ดู หรือยังดูไม่จบ แล้วอยากหลบสปอยล์ แนะนำให้ไปดูให้จบก่อนนะ
เมียคนรวย: ทั้ง ไข่มุก และ พัดชา (นุส-นุสบา ปุณณกันต์) ต่างได้เข้ามาเป็นเมียของผู้ชายตระกูลคนรวย โดย ‘ไม่เต็มใจ’ ด้วยกันทั้งนั้น โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ ‘หลุดพ้น’ จากผู้ชายที่ไม่ได้รัก แต่สิ่งต่างกันคือ สิ่งที่ต้องแลกเพื่อออกจากปัญหา
พัดชา ภรรยาของภูพัฒน์ ลูกชายคนโตของเจ้าสัว คาแรกเตอร์ของเธอชัดเจนว่า เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อม ไม่หือไม่อือ เป็นช้างเท้าหลังที่คอยทำตามคำสั่งสามี ตามแบบฉบับเมียที่ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนคาดหวัง และแน่นอนว่า เหตุผลที่เธอได้กลายเป็นสะใภ้บ้านนี้ เป็นเพราะถูกบังคับให้แต่งงาน และเมื่อเรื่องราวดำเนินไปอย่างเข้มข้น เราก็จะค่อยๆ เห็นว่า เธอมีเป้าหมายที่จะหย่ากับสามี ที่กดขี่เธอมาตลอด และอย่างที่เธอเคยพูดกับไข่มุกว่า บางครั้ง คนรวยบางคนก็ไม่มีอำนาจเสมอไป เพราะเธอก็ไร้ซึ่งอำนาจในบางประการจากการเกิดมาเป็นผู้หญิง
ขณะที่ ไข่มุก ที่เปิดเรื่องมา ดูเหมือนว่าเธอกับเจ้าสัวนั้นรักกันดี และดูเป็นความรักที่เกิดจากความเต็มใจ แต่ตอนท้ายเรื่อง ก็มีการเฉลยว่า เธอถูกเจ้าสัวข่มขืนอย่างน่าเจ็บปวด ต้องกินยาคุมกำเนิดเพื่อกันท้อง และหนทางที่เธอจะรู้สึกว่าคุ้มค่ากับความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นในชีวิต อาจเป็นการเอาคืนทีหลัง ดังกว่า ที่ต้องอาศัยเวลา และยอมทนเจ็บปวดสารพัด จนถึงแสร้งว่าไม่เจ็บปวดที่อยู่ร่วมกับคนที่ข่มขืนเธอ และแสร้งว่าใจตรงกันกับเขาไปเสียเลย เพื่อไปถึงเป้าหมายที่เธอตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่ ในโลกที่คนรวยทำอะไรก็ไม่ผิด และแม้แต่ตำรวจก็อาจช่วยไม่ได้ ไข่มุกจึงมีไพ่ที่เหนือกว่าอยู่แค่ใบเดียว นั่นคือการเล่นกับความไว้เนื้อเชื่อใจของเจ้าสัว ที่คิดว่าคนใช้ที่ภักดีอย่างเธอคงทำอะไรใครไม่ได้หรอก
ในตอนจบ พัดชา ได้ทำข้อตกลงกับสามีโดยใช้ทรัพยากรที่เธอมีอยู่แล้ว และได้กลับมาเป็นตัวเอง เธอเปลี่ยนลุคเป็นในแบบที่เธอต้องการ และไม่จำเป็นต้องดูเป็นผู้หญิงเพียบพร้อมเพื่อใครต่อไป และกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองอย่างสงบสุข แต่สำหรับไข่มุก กว่าจะมีชีวิตใหม่ เธอผ่านการถูกกดขี่สารพัดทั้งจากเจ้าสัว และคนในบ้านหลายๆ คนที่คุกคามทางเพศเธอ ใช้ความรุนแรง และเพิกเฉยต่อความรุนแรง เธอจึงสูญเสียอะไรไปหลายอย่าง และแม้ทางเลือกสุดท้ายของเธอจะไม่ใช่สิ่งที่ถูก แต่ในสถานการณ์ตอนนั้น ผู้หญิงที่อยู่ในสถานะคนใช้ที่ถูกกดขี่ ถ้าไม่สู้กลับ ก็อาจตายได้เลยภายในเสี้ยววินาทีเหมือนกัน เพราะเธอไม่ได้มีเบาะรองรับเหมือนผู้หญิงรวยแบบพัดชา ที่ยังคงมีทางเลือกอะไรมากกว่า
ลูกสาวคนรวย และ ลูกสาวคนจน: คีตา (แพรว-นฤภรกมล ฉายแสง) เป็นลูกสาวของภูพัฒน์และพัดชา ที่เป็นเด็กเอาแต่ใจ และใช้เงินแก้ปัญหาทุกสิ่ง โดยมีมายด์เซตว่า แค่มีเงินทุกอย่างก็เสกขึ้นมาได้ แม้เงินนั้นจะเอาไปใช้กดขี่คนอื่นก็ตาม ส่วน บี (พิม-ลัทธ์กมล ปิ่นโรจน์กีรติ) เป็นลูกสาวที่ทำงานหนักแลกเงินเดือน 70,000 บาทในบ้านหลังนี้ เพื่อนำไปรักษาแม่ที่ต้องฟอกไต และส่งน้องสาวเรียน จนตัวเองไม่สามารถที่จะไปทำตามความฝันของตัวเองได้ แม้จะมีความสามารถก็ตาม
ต้นทุนชีวิตที่ต่างกัน ทำให้ชีวิตของลูกสาวทั้งสองนี้ต่างกันลิบลับ คีตา ที่ทำตัวเป็นดีไซเนอร์สาว ได้หน้าจากการทำแบรนด์ แม้ทั้งหมดนั้นจะมาจากการให้ บี เป็นคนทำทั้งหมด และกดขี่ ทำร้ายร่างกายบีสารพัดเพื่อเป้าหมายที่ต้องการ และเกิดความอิจฉาความสามารถของบี เพราะตัวเองมีดีแค่รวย แต่ไร้ความสามารถ ซึ่งคนที่คอยรับฟังเธอ กลับไม่ใช่พ่อหรือแม่ แต่เป็นน้องชายในตระกูลเดียวกัน จนทำให้เกิดความสัมพันธ์ผิดๆ ขึ้นมา
ขณะที่ บี เป็นหญิงสาวที่มีความสามารถในเรื่องของแฟชั่น แต่เธอไม่มีต้นทุนที่จะต่อยอดอาชีพของเธอได้ เพราะเป้าหมายของเธอคือการหาเงินเพื่อดูแลทุกคนในบ้านอย่างครบถ้วน ทำให้เธอแทบจะไม่มีเงินส่วนตัวเลยที่จะตั้งตัว หรือสร้างโอกาสให้ตัวเอง และเธอก็ต้องยอมถูกทำร้ายอย่างหนัก เพื่อเงินอย่างเดียว
ในตอนจบ หลังจากจบเรื่องราวยุ่งๆ ทั้งหมด คีตา ก็ได้ไปเรียนต่อที่นิวยอร์ก ความผิดที่เธอก่อไว้ ไม่ได้ถูกชดใช้ มากสุด เธอแค่อายจากบางเหตุการณ์ที่เป็นข่าว แต่เธอก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ เหมือนร้องไห้บนกองเงินกองทอง ขณะที่บีกว่าจะได้ทำอาชีพที่ตัวเองรัก ก็ผ่านความยากลำบากมาไม่น้อย นี่จึงเป็นประเด็นที่สะท้อนสังคมจริงๆ ว่า บางครั้ง ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสที่จะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก หากไม่มีต้นทุนมากพอ ผู้มีอำนาจจึงควรกระจายโอกาสนั้นให้ทั่วถึงคนทุกคนมากขึ้น
เมียหลวง และ เมียน้อย: เมียหลวงของ มาวิน เทวสถิตย์ไพศาล ลูกชายคนเล็กของเจ้าสัว คือ อารยา (คลาวเดีย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา) ส่วนเมียน้อยที่ถูกทรีตเหมือนวัตถุทางเพศคือ แก้ว (ตูนลี่-ณัฐนันท์ ขุนเพชร)
อารยา เป็นตัวละครผู้หญิงร้ายๆ ที่แสดงออกชัดเจนว่าดูถูกคนจน และเหยียดผู้หญิงด้วยกันอย่างตรงไปตรงมา เธอทำเลวกับเมียใหม่พ่อผัวของเธออย่างไข่มุก ทั้งหักหน้า ทำร้ายร่างกาย และจิตใจ กระทั่งสามารถทำร้ายคนอื่นอย่างโหดเหี้ยมโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะเธอมองว่านั่นเป็นชะตากรรมที่คนจนต้องเจอ จนถึงวันที่เธอเริ่มเผชิญความสูญเสียคนสำคัญในชีวิตของตัวเอง ที่ล้วนมาจาก ‘การกระทำ’ ของคนในครอบครัวเหล่านั้นเอง และปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอก็มีส่วนในการทำให้เกิดการกระทำนั้นด้วย ทั้งจากการเลี้ยงดูลูก และการเป็นเมียที่คอยซัพพอร์ตความเลวของผัว ก็ทำให้เธอเริ่มคิดอะไรได้บางอย่าง ว่าเงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง และวันที่เธอต้องกลับมาทำงานด้วยตัวเอง หลังจากที่ก่อนหน้ามีสามีคอยเลี้ยงดู ก็ล้วนเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อาจจะน่าเศร้าสำหรับเธอ แต่อาจเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เธอทำร้ายคนอื่นมามากมาย
ส่วน แก้ว สาวใช้สุดเซ็กซี่ ที่เป็นอดีต Sex Worker ซึ่งกลายเป็นวัตถุทางเพศขาประจำของมาวิน ที่ไม่ต่างอะไรจากสถานะเมียน้อย เธอมีเซ็กซ์และบำบัดความสุขให้เจ้านาย และหลายครั้งก็เป็นเซ็กซ์ที่ใช้ความรุนแรงเข้ามาเกี่ยว และบางครั้งเธอก็ไม่ได้เต็มใจ แม้แก้วจะไม่ได้มองว่าการมีเซ็กซ์จะเป็นการลดทอนคุณค่าในตัวเธอ แต่ในบางครั้งเธอก็มีความคิดว่าจะไต่เต้าเป็นเมียอีกคนของมาวินขึ้นมาจริงๆ เพื่อยกระดับสถานะทางสังคมของเธอ ขณะที่เขามองเธอเป็นแค่วัตถุทางเพศ ที่มาหาเพราะจะมีเซ็กซ์เท่านั้น และการที่แก้วถูกทำร้ายทางร่างกายและถูกบังคับให้ทำอะไรที่ไม่เต็มใจ ก็เป็นความรุนแรงทางเพศที่เธอเผชิญ ไม่ว่าจะการถูกบังคับให้ทำแท้ง การถูกทำร้ายร่างกาย ฯลฯ และแก้วก็ได้สูญเสียคนสำคัญของเธอไปไม่ต่างจากที่อารยาสูญเสีย แต่จะเห็นได้เลยว่า กว่าเธอจะมีความสุขได้อีกครั้ง เธอก็ยังต้องกัดฟันทำงานต่อ เพื่อให้อยู่รอด เพื่อให้ยังได้เงินเดือน จนกว่าจะไปถึงวันที่ทุกอย่างจะ ‘เป็นใจ’
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ สืบสันดาน ในซีรีส์ยังมีอีกหลายประเด็นที่อยากให้ลองไปดูและลองวิเคราะห์กัน แล้วค่อยมาตัดสินใจกันอีกทีว่าเราชอบหรือไม่ชอบตรงไหนบ้าง และท้ายที่สุด ไม่ว่าจะผู้หญิงจน หรือผู้หญิงรวย ก็มีโอกาสที่จะเผชิญความรุนแรง และเจ็บปวดได้ด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่ในบริบทซีรีส์เรื่องนี้ และหลายครั้งในสังคมไทย ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนรวยก็มีโอกาสในการเข้าถึงปัจจัยต่างๆ ได้ง่ายกว่า
เรียกได้ว่า ถือเป็นยุครุ่งเรืองของซีรีส์และหนังไทย ที่เริ่มค่อยๆ ไปเตะตาคนนอกประเทศ และจับใจคนในประเทศมากขึ้น ทั้งในแง่โปรดักชัน ฝีมือการแสดง และความเข้มข้นของเนื้อหา ที่ถือเป็นก้าวใหม่ๆ ที่น่าจับตามากเลยทีเดียว
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- ชีวิตของเหล่าตัวละครหญิงใน ‘สืบสันดาน’ ที่ไม่ว่าจะรวยหรือจน ก็อาจถูกกดทับทางเพศ เพียงแต่คนรวยยังมีโอกาสร้องไห้บนเบาะ ขณะที่คนจนต้องทุ่มทั้งชีวิตเพื่อจะรอด
- ‘Woman's World’ เพลงใหม่โดย Katy Perry ที่ตอกย้ำว่าผู้หญิงนั้นมีหลายอารมณ์ และทำได้ทุกอย่าง แต่หลายคนกลับไม่ซื้อ เมื่อเธอร่วมทำเพลงกับโปรดิวเซอร์ชายที่เคยมีคดีข่มขืน Kesha
- Leeteuk ลีดเดอร์วง SUPER JUNIOR กับการออกมาเผยถึงความชื่นชอบที่ไม่จำกัดแค่เพศเดียว ทั้งยังสนับสนุนแฟนคลับข้ามเพศอย่างสุดกำลัง
ตามบทความก่อนใครได้ที่
- Website : Mirror Thailand.com