เมื่อเวลา 18.55 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้ราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลวันที่สาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ เป็นครั้งที่สอง โดยช่วงต้นระบุว่า ตนเป็นห่วง ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยที่พูดไปก่อนหน้านี้จะเจ็บคอปวดท้อง เพราะพูดเน้นทุกเรื่อง ซึ่งเราก็ 608 (กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัว) ด้วยกันแล้ว แต่ตนไม่โกรธเป็นการส่วนตัว พร้อมยืนยันตนเข้ามาโดยกระบวนการสภาฯ เพราะได้รับการเสนอชื่อเข้ามา และ ส.ว.ตนก็ไม่ได้เลือกทั้งหมด พร้อมยืนยันว่าตนไม่เคยไปก้าวล่วงทางการเมือง ไม่สามารถไปสั่งใครได้ไม่ว่าพรรคไหน
พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงถึงงบประมาณที่บอกตนเองเคยโทรไปขอว่า ตนจำไม่ได้จริงๆ และก็ไม่บังอาจไปขอ เพราะไม่รู้จักใครเลยไม่รู้จักนักการเมืองทั้งสิ้น แต่เป็นเพียงผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งก็มาชี้แจง กมธ.ที่สภา พร้อมยืนยันไม่เคยไปขออะไรพิเศษ แต่ขอแค่ในสิ่งที่ควรจะได้จำเป็น
ส่วนที่ฝ่ายค้านบอกว่าหลายเรื่องไม่ดีตั้งแต่เข้ามาตั้งแต่วันแรกที่บอกเศรษฐกิจพังพินาศล้มเหลวระดับประเทศไม่สามารถสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่รั้งท้ายในภูมิภาค นายกฯ ชี้แจงว่า กรุณาฟังจากตนบ้าง ประเทศไทยเราไม่ได้ป่วยรั้งท้ายในภูมิภาค หากดูจีดีพีเราใหญ่อันดับ 2 ในอาเซียนแม้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันประเทศไทยไม่เกิดเหตุการณ์อย่างศรีลังกา(ล้มละลาย)แน่นอน และคาดว่าปีหน้าเศรษฐกิจจะโตขึ้นและสร้างความมั่นใจกับต่างชาติได้ ส่วนที่นักลงทุนย้ายฐานการผลิตถือว่าเป็นเรื่องปกติของนักลงทุนซึ่งเราต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุด ซึ่งตนให้ได้เท่าที่ให้ได้โดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่ก็ยังมีนักลงทุนที่ย้ายฐานเข้ามาในไทย
พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงอีกว่า หลายอย่างไม่ต้องการบอกว่าเสร็จเรียบร้อย เก่งที่สุด ตนไม่เคยพูด เพียงแค่อยากจะเล่าให้ฟังว่าทำทุกอันก็แล้วแต่จะเชื่อหรือไม่ ส่วนการท่องเที่ยวที่บอกล้มเหลวด้วยการบริหารแบบประยุทธ์ ประยุทธ์ ประยุทธ์ ที่ไม่คำนึงถึงประชาชน ซึ่งเมื่อเกิดโควิด-19 นักท่องเที่ยวต้องลดลงแน่นอน ฉะนั้นถ้าทุกคนทำให้เมืองสงบน่าเที่ยวเดี๋ยวนักท่องเที่ยวก็มา และตอนนี้ก็เริ่มฟื้นขึ้นมาพอสมควรแล้ว
ส่วนการแก้โควิด-19 ตนพยายามแก้ไขผ่อนผัน และทำให้เราเดินมาถึงวันนี้ ดังนั้นอย่าลืมอดีตว่าเป็นยังไง อย่ามาทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน ตนไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้าไม่เริ่มต้นก่อนตนก็จะไม่พูดถึงทั้งสิ้น
ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ประเทศไทยใช้ทางสายกลาง ใช้มาตรการเท่าที่จำเป็น ส่วนการชุมนุม ตนไม่ต้องการให้ติดโควิดเพราะจะเกิดปัญหา เรื่องของกฎหมายก็เป็นกฎหมาย ตนไม่ได้สั่งใครทั้งสิ้น เขาก็ต้องทำหน้าที่เพื่อให้สถานการณ์เดินไปได้ ซึ่งผมเสียใจไม่ว่าใครจะเจ็บป่วยเพราะคือคนไทย และในห้องประชุมสภาฯ ก็คือคนไทย ซึ่งตนจะไปทำร้าย เกลียดยังไง ตนทำทุกอย่างก็นึกถึงประเทศทุกเรื่องไม่ว่าจะผิดจะถูก
"ตอนนี้ก็เครียดเรื่องโควิดแล้วยังจะขัดแย้งกันอีกมันไม่สมควร ผมว่ามันจะยิ่งหนักกว่าโควิด ผมขอเตือนไว้ก่อนนะ ผมไม่อยากเป็นรัฐบาลที่ต้องมาแก้ไขปัญหาแบบนั้นอีก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ในอีกช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า การแก้ปัญหาใครจะทำก็ทำ ไม่ต้องห่วง ตนไม่ผูกขาด ใครจะทำต่อก็ทำไป ถ้ามันดีก็ทำต่อ อะไรดีตนก็ทำต่อ ทั้งนี้เชื่อว่าการทำไม่มีใครได้ประโยชน์และไม่มีใครกล้าทุจริต ใครกล้าก็ลองดูถ้าจะทุจริตกันตอนนี้
นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่มีรัฐบาลไหนเจอเหมือนที่รัฐบาลตนเจอ แต่ยืนยันตนทำเต็มที่มาตลอด และยืนยันวันนี้เรายังรักษาเสถียรภาพได้
"สถานะการเงินการคลังของไทยยังแข็งแกร่ง เอสแอนด์พียังไม่เคยลดระดับสถานะของไทย" พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงตอนหนึ่งตอนที่ประชุมสภาฯ
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า "วันนี้เรามีที่ดินราคาถูก ที่อยู่อาศัยแห่งหนึ่งของโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นแหล่งที่ทุกคนอยากมาเกษียณในประเทศไทยมากมาย เขาอยากอยู่ประเทศไทย ไม่ต้องกลัวเขามาแย่งที่อยู่ในประทศไทยหรอก ผมเห็นหลายคนจะไปอยู่ต่างประเทศคงพอดีกันมั้ง ไม่เป็นไรหรอก เวลาที่เหลือ 250 กว่าวันของรัฐบาลนั้นผมและรัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้ออกจากวิกฤตดังกล่าวให้เร็วที่สุด"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายกฯ กำลังชี้แจง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่านายกฯ อภิปรายวนเวียน ขอให้นายกฯ พักเหนื่อยแล้วไปเรียงลำดับเอกสารที่เตรียมมาให้ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล่าวตอบว่า "ขอบคุณที่เป็นห่วง ผมก็ฟังท่านบ่นมาหลายวัน โจมตีผม พูดแล้วพูดอีกพูดแล้วพูดอีก เวลาผมพูดก็ฟังหน่อยก็แล้วกัน ก่อนที่นายกฯ จะชี้แจงต่อ และกล่าวว่า "นิดเดียวนะ ทนอีกนิด ผมทนกับท่านมา 3 วันแล้ว"
ในช่วงท้ายนายกฯ กล่าวว่า มีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้พูด แต่จะพยายามชี้แจงให้มากที่สุดตามเวลาที่เหลือ พูดไม่ไหวเจ็บคอ ไม่ได้แข็งแรงเหมือนครูมานิตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชี้แจงในวันนี้นายกฯ ได้มีการเปิดคลิปรายงานผลงานอยู่ 2 ช่วง ซึ่งเป็นครั้งแรกในการอภิปรายในครั้งนี้ โดยคลิปวิดีโอยังระบุถึงการประกาศให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน
อย่างไรก็ตามในการชี้แจงการอภิปรายครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ พยายามชี้แจงสภาด้วยท่าทีที่นิ่งขึ้น และน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่แสดงอาการฉุนเฉียวหรืออารมณ์โกรธแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความเห็น 0