โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

เปิดหัวใจ “ปั้น Basher” ทำไมถึงกลับมา!

TheHippoThai.com

เผยแพร่ 20 ก.ย 2561 เวลา 11.00 น.

เปิดหัวใจ “ปั้น  Basher” ทำไมถึงกลับมา!

เรียกได้ว่าเป็นความทรงจำสมัยมัธยมที่น่ารักโรแมนติกมากๆ สำหรับผลงานของหนุ่มๆ วงแบชเชอร์ในสมัยนั้น การกลับมาของ ปั้น Basher” ในฐานะศิลปินเดี่ยว จึงทำให้แฟนเพลงที่โตมาด้วยกัน ได้หัวใจพองโตอีกครั้ง กับ single เพลงอกหักโดนใจ ที่ทยอยปล่อยออกมาในปี 2018 นี้ แอบได้ยินว่า ทุกเพลงของปั้น Basher มาจากเรื่องจริง! วันนี้จึงต้องขอมาอัพเดตชีวิต และส่องหัวใจหนุ่มปั้นกันหน่อย ว่ารักพังๆ ที่บอกเล่าในเพลงนั้น ในชีวิตจริงพังเบอร์ไหน ?

ชีวิตการเป็นศิลปินเดี่ยวของ “ปั้น Basher” 

จุดเริ่มต้นของการเป็นศิลปินเดี่ยว จริงๆ แล้วมันเกิดจากความรู้สึกที่เราอยากกลับมาทำงานเบื้องหน้า  หลังจากที่วงของเราได้มีโอกาสไปทำงานเบื้องหลัง ทำเพลงให้น้องๆรุ่นใหม่ ทำแล้วทุกคนติดใจงานเบื้องหลังกันหมดเลย แต่เรายังอยากกลับไปร้องเพลงต่อ เราก็เอ๊ะ ทำยังไงดีนะ ก็เลยได้คุยกัน เหมือนว่าทุกคนได้เจอทางที่ใช่ของตัวเองแล้ว

สำหรับบทบาทศิลปินเดี่ยวกับจีนี่เรคคอร์ดในปัจจุบัน เริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นปี 2560 ก็มีพี่ๆ โทรหา ให้เราเข้ามาพบที่ตึกแกรมมี่ชั้น 33 ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าชั้นนี้เขาทำอะไรนะ (หัวเราะ) ก็ได้เจอพี่สัน โปรโมเตอร์ ประโยคแรกที่ผมได้ยินหลังจากเดินเข้าไปวันนั้น คือ ยินดีต้อนรับสู่จีนี่เรคคอร์ด ตอนนั้นผมดีใจมาก แล้วก็ตกใจมากเหมือนกัน ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาอยู่ค่ายจีนี่ฯ ผมก็จับมือพี่สัน บอกว่า ขอบคุณมากครับพี่ จริงเหรอครับ เป็นความรู้สึกที่ยังอึ้งๆ อยู่เลย ทุกวันนี้ก็ยังดีใจและมีความสุขที่ได้เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ ผมรู้สึกว่า จีนี่ฯ เป็นครอบครัว มีพี่ๆ ที่เราคุ้นเคย ทั้งพี่ๆ Bodyslam, Big Ass, Instinct ฯลฯ เป็นบ้านที่สมาชิกเคมีเข้ากันมากๆ 

สิ่งที่เราได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากการมาเป็นศิลปินเดี่ยว คือ เราเริ่มหันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้น แล้วก็ได้มีบทบาทในการคิดและออกแบบงานเพลงของตัวเองที่มากไปกว่าการร้องนำด้วย  ถือว่าเป็นความท้าทายใหม่ๆ ของชีวิตในช่วงนี้

ทุกเพลงอกหักของ “ปั้นBasher” เขียนจากเรื่องจริง!

ทุกๆเพลงของเราตั้งแต่เป็นวง Basher จนมาถึงการเป็นศิลปินเดี่ยวกับค่ายจีนี่เรคคอร์ด เราจะใช้เรื่องราวความรักที่เป็นเรื่องจริง ทั้งเรื่องของตัวเองและเรื่องของเพื่อนซึ่งเราอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ทำให้เวลาที่เราร้องเพลง เราสามารถสื่อสารและถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีกว่า ภาพมันจะชัด จะรู้สึกเชื่อหว่ะเรื่องนี้ ขนลุกหว่ะ อะไรแบบนี้ ซึ่งเราก็อยากที่จะคงความเป็นเอกลักษณ์นี้ไว้ในงานเพลงของเรา อีกอย่างนึง ผมว่ามันคือ time Machine ของเราด้วยนะ พอเราร้องเพลง อย่าง "เพลงมือ" เราจะนึกได้ว่า เออ นี่ไง สมัยตอนที่เราอายุ 20 นะ เราเจอแบบนี้ มันสามารถพาเราย้อนอดีตไปเจอเรื่องราวของเราเองด้วย

มุมมองความรักของ ปั้น Basher” 

จริงๆแล้วสมัยเด็กๆ เราก็ไม่เคยเข้าใจหรอกว่า ความรักมันคืออะไร ต้องโทรหากันทุกวัน มาเจอกันแบบนี้เหรอ? พอโตขึ้น เราได้ผ่านความเจ็บปวด ผ่านชีวิตมาประมาณนึง ก็เลยเข้าใจว่า อ๋อ ความรักคือการยอมรับด้านลบของอีกฝ่ายให้ได้ เท่านั้นเอง เพราะการที่เรามาอยู่ด้วยกัน ทั้งสองคนมีด้านลบของตัวเองกันทั้งนั้น มันคือสิ่งที่เราต้องยอมรับ ความรักมันต้องอาศัยความเข้าใจ 

ผมว่าเรื่องราวความรักของทุกคน คงไม่ได้ต่างอะไรกันมากนัก เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยเคยเรื่องอกหัก โดนทิ้ง นอกใจ ฯลฯ ต้องเคยเฉียดเหตุการณ์เหล่านี้บ้างแหละ เราเองก็เหมือนกัน ถ้าถามว่าอินหรือชอบโมเมนต์ความรักตอนไหนมากที่สุด จริงๆ ผมก็อินทุกเรื่องเลยนะ ชอบทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา แต่ไม่ได้ฝังใจนะ (หัวเราะ) ผมว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามามันดีหมดเลย แม้จะเป็นรักพังๆก็ทำให้เราแข็งแรงขึ้นถึงแม้วันนึงต้องเลิกรากันไป ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเอง เวลามีใครพูดถึงแฟนเก่าของเราให้ฟัง เราก็ยังรู้สึกว่า ดีจังเลย ยินดีที่รู้ว่าเค้าได้มีชีวิตที่ดี อย่างน้อยครั้งนึงเราก็เคยรักกัน เรายังหวังดีต่อกันเสมอ มันเป็นอะไรที่ดีนะ

จุดเปลี่ยนในชีวิตของ ปั้น Basher”

อาการป่วยของคุณแม่ ในช่วงปี 2559 – 2560 ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนทางความคิดของชีวิตผมเลยนะ ช่วงนั้นคุณแม่ผมเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก จากคนที่เคยตื่นเช้ามา สามารถทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ เขากลายเป็นคนที่ทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เลย มันเป็นจุดที่ทำให้ผมคิดว่าชีวิตมันเร็วมากนะมันไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง เราไม่ควรที่จะต้องคิดมากหรือเครียดกับงานที่ทำ ทุกวันนี้เวลาเครียดๆ ผมจะกลับไปหาแม่ ซึ่งปัจจุบันคุณแม่ดีขึ้นมาก คุณหมอยังตบมือให้เลย มันเกิดจากการที่ทุกคนในบ้านช่วยกันดูแล และทำทุกวันให้ดีที่สุด

เรื่องของคุณแม่ ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เราต้องทบทวนชีวิต ต้องคิดใหม่ หันมาดูแลตัวเอง ใส่ใจคนที่เรารัก มีความสุขกับปัจจุบัน ชีวิตมันก็เท่านี้เอง ไม่สร้างความเดือดร้อนใคร และทำทุกอย่างให้มันพอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป ทุกวันนี้ผมกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยโกรธอะไรแล้ว ไม่ยึดติดกับสิ่งของ (จากเมื่อก่อนที่หวงและบ้ารองเท้ามากๆ) ตอนนี้เน้นใช้ชีวิตให้มีความสุขครับ

ผลงานของ “ปั้นBasher” ในเร็วๆนี้

สำหรับปีนี้ผมมี single ออกมา 3 เพลง ก็คือ เพลงมือ เพลงทดลองใช้ และเพลงขอบใจที่พูดแรง ปลายปีนี้ก็อาจจะปล่อย single ใหม่อีกสัก 1 เพลงนะ หรืออาจจะเป็นช่วงต้นปีหน้า ก็ต้องรอดูกันต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากทำมากๆและกำลังวางแผน คือ การออกอัลบั้ม ถึงแม้ว่าสมัยนี้ศิลปินนิยมออก single กันมากกว่า แต่ผมว่าอัลบั้ม มันก็ยังคงมีเสน่ห์ ที่ซิงเกิ้ลไม่มี ยังจำได้เลยว่า สมัยก่อนเราวิ่งไปซื้อเทปอัลบั้มใหม่ของพี่เบิร์ด มานั่งไล่ดูไล่ฟังแต่ละเพลง รู้สึกว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจมีความคลาสสิคมากๆ เป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากออกอัลบั้ม เพื่อเป็นแพคเกจให้แฟนเพลงได้เก็บไว้ ต่อให้วันนึงเครื่องเล่น CD มันจะไม่มีแล้ว เหมือนเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ทในสมัยนี้ที่หาไม่ได้แล้วก็ตาม แต่เชื่อว่าการฟังเพลงที่มาจากอัลบั้ม มาเป็นแพคเกจ มันให้ความรู้สึกที่ต่างกันจริงๆ

ฝากถึงแฟนเพลงที่เติบโตมากับเราและ แฟนเพลงรุ่นใหม่ในยุคนี้

รู้สึกขอบคุณมากๆ สำหรับแฟนเพลงที่โตมากับเรา หลายคนบอกว่า ฟังเพลงพี่ตั้งแต่เด็กๆนะ แต่งงานกันเพราะเพลงพี่นะ จนถึงตอนนี้แฟนเพลงของเราเปลี่ยนสถานะ เปลี่ยนบทบาทเป็นคุณพ่อคุณแม่ เป็นสามีภรรยา ก็ยังคงพาคนที่เขารักมาฟังเพลงเรา เป็นความรู้สึกอิ่มใจ ดีใจมากๆ ที่ยังเป็นกำลังใจให้กัน และเราก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำดีๆ

สำหรับน้องๆ รุ่นใหม่ที่เพิ่งได้มาติดตามเรา สมัยนี้ก็มีช่องทางบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น มีการตั้งกรุ๊ปไลน์เพื่อติดตามผลงานของเรา อยากจะบอกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นความน่ารักและเป็นความรู้สึกอบอุ่น  ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกๆ กำลังใจครับ

 

ขอบคุณสถานที่ : V8 Diner สุขุมวิท 11

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0