โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

'ดิศกุล' เร่งเพิ่มเขี้ยวเล็บให้เจ้าหน้าที่ เดินหน้า 'คุรุสภา ONE' ติดอาวุธบริการออนไลน์ไม่ต้องเดินทาง

MATICHON ONLINE

อัพเดต 24 มิ.ย. 2564 เวลา 04.38 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. 2564 เวลา 04.38 น.

‘ดิศกุล’ เร่งเพิ่มเขี้ยวเล็บให้เจ้าหน้าที่ เดินหน้า ‘คุรุสภา ONE’ ติดอาวุธบริการออนไลน์ไม่ต้องเดินทาง

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เป็นองค์กรมหาชน ลำดับแรกๆ ที่ได้ปรับการทำงานให้เป็นรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและลดการใช้เอกสาร ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ โดยจัดทำระบบสารสนเทศเพื่อให้บริการผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (Teachers and Education Personnel Information System : TEPIS) พร้อมร่วมมือกับภาคเอกชนเปิดให้บริการแอปพลิเคชัน ‘คุรุ On Mobile’ อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะรวมทุกบริการของคุรุสภาไว้ในแอปพลิเคชันนี้ รวมถึงการประชาสัมพันธ์งานของคุรุสภาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง เช่น ผ่านทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก LINE Official IG Twitter  เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ และเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 คุรุสภา ก็สามารถปรับตัวทำงานผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างราบรื่น ถือเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เพราะทำให้เจ้าหน้าที่และผู้รับบริการได้ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง และสามารถใช้งานและขอรับบริการ ผ่านระบบออนไลน์ของคุรุสภาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายดิศกุล กล่าวต่อไปว่า ระบบ TEPIS ให้บริการทุกงานของคุรุสภา ตั้งแต่งานมาตรฐานวิชาชีพ งานใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ งานพัฒนาวิชาชีพ งานยกย่องวิชาชีพ และงานจรรยาบรรณวิชาชีพ นอกจากนี้ ยังมีระบบ KSP e-Service ประกอบด้วย 1) ดำเนินการด้วยตนเอง (KSP Self-Service) ให้บริการขอขึ้นทะเบียนและขอต่ออายุใบอนุญาตฯ การยื่นผลงานวิจัยของคุรุสภา และครูอาวุโส 2) ดำเนินการผ่านสถานศึกษา (KSP School) ให้บริการข้อมูลทะเบียน การต่ออายุใบอนุญาต การขอหนังสืออนุญาตให้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แบบประเมินปฏิบัติการสอน การขอรับรองคุณวุฒิทางการศึกษา และ 3) ดำเนินการผ่านสถาบันผลิตครู (KSP Bundit) ให้บริการรับรองหลักสูตรการผลิตครู ข้อมูลผู้เข้ารับการศึกษา และข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษา

“นอกจากนี้ คุรุสภามีการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาระหว่างหน่วยงานผ่านระบบบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ (Linkage Center) เช่น การขอใช้ประโยชน์ข้อมูลทะเบียน ประวัติราษฎรจากฐานข้อมูลทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน เป็นต้น โดยใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ในการตรวจสอบข้อมูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและเพื่อเป็นปัจจุบัน รวมถึงการการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยีผ่านบริการ Web Service กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ” นายดิศกุล กล่าว

นายดิศกุล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาคุรุสภาได้ดำเนินการตามมาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้เป็นไปตามแผนปฏิรูปประเทศ โดยกำหนดให้กำลังคนภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสม และมีสมรรถนะสูง พร้อมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศ ปัจจุบันคุรุสภามีเจ้าหน้าที่ประจำที่ส่วนกลาง 188 คน และเจ้าหน้าที่คุรุสภา ณ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัด 166 คน โดยดูแลครูและบุคลากรทางการศึกษามากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งคณะกรรมการคุรุสภาที่มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน ได้รับทราบและให้คุรุสภาดำเนินการวางแผนในการบริหารจัดการกำลังคน พัฒนาการทำงาน และใช้คนที่มีอยู่ทำงานให้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสริมสร้างสมรรถนะก่อให้เกิดประโยชน์ที่สุด โดยทำงานออนไลน์ร่วมกันผ่านระบบ TEPIS ระบบ KSP e-Service และระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ (MIS) ซึ่งจะทำให้การทำงานทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยระบบเครือข่ายอินทราเน็ตของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา (VPN.)

“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมา คุรุสภาได้ปรับลดเวลาและวันทำงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มอบหมายให้บุคลากรในสังกัดปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัยตามความเหมาะสมและส่งเสริมให้ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของคุรุสภาในการปฏิบัติงานทุกชนิด พบว่า     มีผลเป็นที่น่าพอใจ และผมกำลังผลักดันให้มีการติดอาวุธให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคนภายใต้นโยบาย ‘คุรุสภา ONE’ หรือ One Network for Everyone  เพื่อให้สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ผมเชื่อว่า ถ้าสามารถสร้างเครือข่ายของคุรุสภาได้อย่างเข้มแข็ง คุรุสภาจะสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัว ทำให้การทำงานทั้งส่วนกลางและภูมิภาคเป็นเนื้อเดียวกันได้ นอกจากนี้จะใช้หลักการทำงานเสริมอำนาจ หรือ Empowerment  ให้แก่เจ้าหน้าที่ส่วนภูมิภาคทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง เช่น จัดสรรอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ส่วนภูมิภาค ช่วยปฏิบัติงานตามภารกิจของส่วนกลาง แต่ยังปฏิบัติงาน ณ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด โดยมีการกำหนดแผนการมอบหมายงานอย่างชัดเจน และมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการปฏิบัติงานเป็นหลัก การพัฒนาให้เจ้าหน้าที่คุรุสภาจังหวัดเป็นตัวแทนของคุรุสภาส่วนกลาง ทำงานด้านการสอบสวนทางจรรยาบรรณ  โดยจะมีการอบรมองค์ความรู้ เพิ่มเขี้ยวเล็บการทำงานด้านนี้ ซึ่งจะทำให้การดำเนินคดีต่างๆรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายดิศกุล กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...