โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รู้จักชนิดของหลอดไฟ พร้อมวิธีเปลี่ยนหลอดไฟง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

DDproperty

เผยแพร่ 22 เม.ย. 2563 เวลา 12.22 น.
รู้จักชนิดของหลอดไฟ พร้อมวิธีเปลี่ยนหลอดไฟง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งภายในบ้านคือ "หลอดไฟ" ที่ช่วยให้แสงสว่างภายในบ้าน แต่เชื่อว่าหลายคนต้องเคยพบกับปัญหาของหลอดไฟเสีย หมดอายุการใช้งาน ซึ่งบางครั้งไม่สามารถตามช่างมาแก้ไขหรือติดตั้งได้ทันที ลองมาดูรู้จักตั้งแต่ชนิดของหลอดไฟ หลอดไฟแบบไหนประหยัดพลังงาน และวิธีเปลี่ยนหลอดไฟง่าย ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิง หรือคุณผู้ชายก็สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง

 

รู้จักชนิดของหลอดไฟ

ก่อนจะไปถึงวิธีเปลี่ยนหลอดไป ลองมาทำความรู้จักก่อนว่าหลอดไฟมีกี่ชนิด ซึ่งใหลอดไฟแต่ละชนิดมี ข้อดี และข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. หลอดไส้ (Incandescent Lamp)

หลอดไฟที่มีการใช้งานมาอย่างยาวนาน เรียกอีกชื่อว่า "หลอดดวงเทียน" เพราะสีของแสงคล้าย ๆ กับแสงเทียน มีทั้งชนิดแบบแก้ว และฝ้า วิธีการทำงานคือ กระแสไฟฟ้าจะผ่านไส้หลอดเปลี่ยนจากพลังงานไฟฟ้าเป็นความร้อน เมื่อไส้หลอดร้อนจะเปล่งแสงออกมา ข้อดีคือ มีขนาดเล็ก ข้อเสียคือ อายุการใช้งานสั้น และกินไฟมาก ทำให้ค่าไฟแพง

2. หลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent tube)

หลอดหลูออเรสเซนต์ หรือหลอดเรืองแสง ตัวหลอดจะมีไส้โลหะทังสเตนติดอยู่ที่ปลายทั้ง 2 ข้างของหลอด ผิวภายในฉาบด้วยสารเรืองแสง โดยมีการใส่ไอปรอทไว้เล็กน้อย หลักการทำงานคือ กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านปรอทแล้วคายพลังงานในรูปแบบรังสีอัลตราไวโอเลต เมื่อกระทบสารเรืองแสงที่ฉาบไว้ในหลอดก็จะเปล่งแสงออกมา

ข้อดีคือให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไส้ถึง 5 เท่า อายุการใช้งานนานกว่าหลอดไส้ประมาณ 7-8 เท่า หรือประมาณ 6,000-20,000 ชั่วโมง

3. หลอดฮาโลเจน (Halogen)

พัฒนามาจากหลอดไส้ โดยใช้ก๊าซฮาโลเจนบรรจุภายในทำให้ทนทานกว่าหลอดไส้ปกติ จะให้ค่าความถูกต้องของสีถึง 100% เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างเป็นพิเศษ เช่น มุมอับของบ้าน ห้องทำงาน อายุการใช้งานประมาณ 1,500-3,000 ชั่วโมง

4. หลอดคอมแพคต์ฟลูออเรสเซนต์ (Compact fluorescent)

หลอดคอมแพคต์ฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดตะเกียบ มีการทำงานคล้ายหลอดฟลูออเรสเซนต์ มีทั้งแบบที่มีบัลลาสต์ในตัว และแบบอยู่ภายนอก มีรูปร่างที่หลากหลาย เช่น แบบเกลียว แบบหลอด แบบหลอดสี่แถว โดยจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์

5. หลอด LED

หลอดไฟ LED (Light-Emitting Diode) มีหลักการทำงานจะต่างจากหลอดทั่ว ๆ ไป โดยแสงสว่างเกิดขึ้นจากการเคลื่อนของอิเล็กตรอนภายในสารกึ่งตัวนำ มีข้อดีหลายด้าน เช่น ไม่มีความร้อน เพราะไม่มีการเผาไส้หลอด อายุการใช้งานยาวนานถึง 50,000 ชั่วโมง ใช้วัตตน์น้อย แต่ให้แสงสว่างมาก แต่ถนอมสายตา

ข้อดีที่สำคัญมาก ๆ ของหลอด LED คือ ประหยัดค่าไฟได้สูงสุดถึง 60% และไม่มีสาร UV และสารปรอท เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และช่วยลดภาวะโลกร้อน

ค่าไฟขึ้นหรือไม่ ถ้าใช่ หาคำตอบว่าทำไม "ค่าไฟแพง"

 

เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟประหยัดพลังงานก็เป็นตัวเลือกที่ดี

เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟประหยัดพลังงานก็เป็นตัวเลือกที่ดี

 

วิธีการตรวจสอบหลอดไฟ

หลอดไฟเสียมักมีอาการหลายแบบ โดยสามารถตรวจสอบอาการและวิธีแก้ไขเบื้องต้นได้ดังนี้

1. หลอดเสื่อมสภาพ

การเสื่อมสภาพของหลอด สังเกตได้ง่าย ๆ คือ ขั้วหลอดจะมีสีดำ หากมีสภาพนี้ต้องเปลี่ยนหลอดไฟ

2. อาการหลอดสั่น หรือมีแสงกะพริบตลอดเวลา

อาจเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น บัลลาสต์เสีย สตาร์ตเตอร์เสีย หากเกิดจากสาเหตุข้างต้นก็ต้องเปลี่ยนบัลลาสต์ หรือสตาร์ตเตอร์ หรืออาจเกิดจากแรงดันไฟฟ้าภายในบ้านต่ำ วิธีนี้ต้องเปลี่ยนหม้อแปลงให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้ไฟฟ้า

3. หลอดไฟใช้เวลานานกว่าจะสว่าง

อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น สตาร์ทเตอร์เสื่อม ก็ต้องเปลี่ยนสตาร์ตเตอร์ หรืออาจเกิดจากหลอดไฟเสื่อมก็จะต้องแก้ไขด้วยการเปลี่ยนหลอดไฟ นอกจากนี้อาจเป็นเพราะแรงดันไฟฟ้าภายในบ้านต่ำก็ต้องเปลี่ยนหม้อแปลงให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้ไฟฟ้า

4. มีเสียงดังขณะเปิด

หากเกิดเสียงดังขณะเปิด และใช้เวลานานกว่าเสียงนั้นจะหายไป อาจเกิดจากแกนเหล็กของบัลลาสต์หลวม ต้องเปลี่ยนบัลลาสต์

การตรวจรับบ้านในส่วนระบบไฟฟ้า เรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ

 

เตรียมตัวก่อนเปลี่ยนหลอดไฟง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

วิธีเปลี่ยนหลอดไฟง่าย ๆ เริ่มต้นคุณจะต้องเตรียมตัวก่อนจะเปลี่ยนหลอดไฟ ดังนี้

1. ทำการปิดสวิชต์ของหลอดที่เสียให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันการถูกไฟช็อต หรือไฟดูด

2. เตรียมบันไดให้พร้อมใช้งาน เพื่อทำการเปลี่ยนได้อย่างสะดวก ไม่ควรใช้เก้าอี้ หรือวัสดุอื่น เพราะอาจเกิดอันตรายได้ง่าย

3. หากมีถุงมือผ้า สามารถนำมาใส่ในขณะจับหลอดไฟได้ เพื่อความปลอดภัย แต่ระวังหลอดไฟลื่นหลุดมือ หรือหากถุงมือหนาเกินไปอาจจับหลอดไฟไม่ถนัดมือ

4. หากหลอดไฟยังมีความร้อน ให้พักและรอให้เย็นก่อน จึงค่อยเปลี่ยน

 

วิธีเปลี่ยนหลอดไฟง่าย ๆ คุณผู้หญิงก็ทำได้ด้วยตัวเอง

วิธีเปลี่ยนหลอดไฟง่าย ๆ คุณผู้หญิงก็ทำได้ด้วยตัวเอง

 

วิธีการเปลี่ยนหลอดไฟง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

1. การเปลี่ยนหลอดไฟแบบขาสปริง

หลอดไฟแบบขาปริง จะมีวิธีเปลี่ยนหลอดไฟแตกต่างจากหลอดแบบขาทั่วไป โดยวิธีการเปลี่ยนคือ ให้ดันไปข้างใดข้างหนึ่งก่อนแล้วจึงดึงลง จากนั้นก็นำหลอดไฟใหม่มาใส่ โดยใส่ทีละข้างให้ดันข้างใดข้างหนึ่งเข้าไปก่อน แล้วค่อยใส่อีกข้าง

2. การเปลี่ยนหลอดแบบขาทั่วไป

หลอดไฟแบบขาทั่วไปจะเป็นลักษณะการหมุนเกลียวลงล็อก วิธีการเปลี่ยนหลอดไฟชนิดนี้คือ ให้หมุนหลอดไฟไปมาให้ขาหลุดออกจากล็อกทั้งสองข้างแล้วค่อยดึงลงมา จากนั้นนำหลอดไฟใหม่มาใส่ โดยจะใส่หลอดไฟใหม่เข้าไปทีละข้างด้วยการหมุนให้เข้าล๊อคเหมือนเดิม

3. การเปลี่ยนบัลลาสต์

ก่อนอื่นให้ปิดสวิตซ์ไฟก่อน จากนั้นให้ถอดฝาครอบออก ตัวบัลลาสต์จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดตั้งอยู่บนรางไฟ จากนั้นใช้ไขควงปากแบนถอดขั้วต่อสายบัลลาสต์ แล้วดึงสายออก ไขเอาบัลลาสต์ออกมา แล้วนำตัวใหม่มาใส่แทนที่ แล้วไขสกรูให้แน่นและต่อสายเข้าเหมือนเดิม ปิดฝากครอบเท่านี้ก็เรียบร้อย

4. การเปลี่ยนสตาร์ตเตอร์

ให้ถอดสตาร์ตเตอร์ของเดิมออกมาก่อน โดยให้หมุนเอาสตาร์ตเตอร์ออกจากล็อก แล้วปลดออกใส่อันใหม่กลับเข้าไป ให้หันด้านที่มีขั้วเสียบเข้าไปในช่องเดิมแล้วหมุนให้แน่นก็เรียบร้อย

ทั้งนี้ หลอดไฟปัจจุบันหลายแบบ อาทิ หลอดตะเกียบจะไม่มีสตาร์เตอร์และบัลลาสต์แล้ว เมื่อหลอดเสีย ก็เพียงหมุนถอดหลอดเก่า เปลี่ยนหลอดใหม่เข้าไปก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

 

อย่างไรก็ตาม วิธีการข้างต้นนั้นเป็นเพียงพื้นฐานของการเปลี่ยนหลอดไฟเท่านั้น หากมีปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับระบบไฟ อย่าชะล่าใจ เรียกหาสมาชิกในบ้านที่มีความรู้ในด้านนี้ หรือช่างผู้ชำนาญการมาเปลี่ยนจะปลอดภัยกว่า เพราะเรื่องของไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องเล่น หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอาจสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้

วิธีป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรก่อนวอดวาย

 

สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...