โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

สมาคมมีเดียฯ เอเยนซี่ เผยเม็ดเงินโฆษณาปี 60 โต 10% ค่าโฆษณาทีวีปรับขึ้นเฉลี่ย 8%

Positioningmag

อัพเดต 08 ก.พ. 2560 เวลา 11.24 น. • เผยแพร่ 08 ก.พ. 2560 เวลา 11.15 น.

สมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย หรือ MAAT (Media Agency Association of Thailand) เปิดเผยถึงแนวโน้มของเม็ดเงินของอุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวมในปี 2560 คาดว่าจะเติบโตขึ้น 10% จากปี 2559 หรือคิดเป็นเม็ดเงินโฆษณารวม 133,666 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับเม็ดเงินในปี 2558

โดยปัจจัยบวกมาจากการคาดการณ์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จะเพิ่มขึ้น 3.3%  สภาพเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และรายการโทรทัศน์เริ่มออกอากาศเป็นปกติ ทำให้การใช้เงินโฆษณากลับมาเป็นปกติและเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% และได้พยากรณ์สื่อโทรทัศน์รวมจะเติบโตเพิ่มขึ้น 16%             

1_tv

ณัฐพล ชโยดม ที่ปรึกษาสมาคมมีเดียเอเจนซี่ และธุรกิจสื่อ และInvestment Management Director บริษัทเอ็มอีซี ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า เม็ดเงินรวมจากทีวี 82,000 ล้านบาท เติบโต 16% แบ่งเป็น ดิจิตอลทีวี 27,000 ล้านบาท  เติบโตเพิ่มขึ้น 32% โทรทัศน์ (Free TV ช่อง 3,7) 52,000 ล้านบาท  เติบโต 10% และเคเบิลทีวีและโทรทัศน์ดาวเทียม (Cab/Sat) 3,000 ล้านบาท ลดลง 13%

สื่อในโรงภาพยนตร์ 5,900 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 8% ในขณะที่สื่อนอกบ้าน (Out-of-Home) 6,200 ล้านบาท  และสื่อในการเดินทาง (Transit) 5,800 ล้านบาท  เติบโตเพิ่มขึ้นเท่ากันคือ 9% และสื่อในห้างสรรพสินค้า (In-store) 2,200 ล้านบาท เติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 10% และสื่อดิจิตอล 12,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 31%

ส่วนสื่อที่เม็ดเงินโฆษณายังคงลดลงต่อเนื่อง คือ หนังสือพิมพ์ 11,000 ล้านบาท ลดลง 22% นิตยสาร 2,566 ล้านบาท ลดลง 20%

สมาคมมีเดียฯ ยังได้ระบุถึงอัตราค่าโฆษณาทีวีในปี 2517 เพิ่มขึ้น 8% โดยเป็นผลมาจากช่องดิจิทัลทีวีที่มีเรทติ้งสูงขึ้นได้ทยอยปรับค่าโฆษณาขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2516 จนถึงต้นปี 2517 ยกเว้นช่อง 3 และ 7 ที่ยังไม่ขึ้นราคา

2_tv

ไตรลุจน์ นวมะรัตน นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย มองว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณาในปี 2516 ลดลงไปค่อนข้างมากถึง 11%  เนื่องจากคนไทภาวะเศร้าโศกเสียใจ และยังคงต่อเนื่องมาถึงเดือนมกราคม ปี 2560 ที่ภาพรวมการใช้เงินโฆษณายังไม่ได้กระเตื้องขึ้นมากนัก แต่ก็ยังคาดว่าตลอดทั้งปี เม็ดเงินโฆษณาจะเติบโตได้ตามที่คาดไว้

ทั้งนี้สำหรับอุตสาหกรรมที่เริ่มกลับมาใช้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นแล้ว คือ  สินค้าอุปโภคบริโภค ซุปเปอร์มาเก็ต ยังคงใช้เงินโฆษณาในทุกสื่อ

ผลิตภัณฑ์ที่เป็น "นิช" มาร์เก็ต เช่น จักรยาน ยังมีโฆษณาต่อเนื่อง สินค้าหรู หรือ Luxury ที่มีลูกค้าระดับ A หรือ B+  ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ  อสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนียม เริ่มกลับมาใช้เงินโฆษณา รวมทั้งอุตสาหกรรมการเงินเม็ดเงินโฆษณาปี 2559 ติดลบ 11%

สำหรับผลการใช้สื่อโฆษณาในปี 2559 ที่ผ่านมา สื่อที่ใช้ลดลงคือ สื่อเคเบิลทีวีและทีวีผ่านดาวเทียม ลดลงมากที่สุดถึง 43%  ในขณะที่ดิจิตอลทีวีเติบโตลดลง 3% และสื่อโทรทัศน์ (Free TV) ลดลง 18% สื่อสิ่งพิมพ์ พบว่า หนังสือพิมพ์และนิตยสารลดลง 20% และ 29% ตามลำดับ

สำหรับสื่อที่เติบโตในปีที่ผ่านมา คือ สื่อนอกบ้าน ได้แก่ สื่อในโรงภาพยนตร์ เพิ่มขึ้น 4% สื่อนอกบ้าน (Outdoor) เพิ่มขึ้น 5% และสื่อในการเดินทาง (Transit) เพิ่มขึ้น 4% สื่อในห้างสรรพสินค้า เพิ่มขึ้น 2% โดยเป็นผลมาจากมีจำนวนจุดติดตั้งที่เพิ่มขึ้น  สำหรับสื่ออินเทอร์เน็ตยังเป็นสื่อที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ 8%

โดยหมวด (Section) ที่ใช้เงินในสื่อโฆษณามากที่สุด 3 อันดับแรก คือ รถยนต์ เครื่องดื่ม อุปกรณ์สื่อสาร แต่ทุกอุตสาหกรรม ใช้เม็ดเงินลดลงเมื่อเทียบกับปี 2015 จะมีที่เพิ่มขึ้น 2 กลุ่ม คือ ท่องเทียว และอุปกรณ์ใช้ภายในบ้าน ซึ่งหลักๆ มาจาก กระทะโคเรีย คิง ที่มีการใช้งบโฆษณาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

3_tv

เมื่อจำแนกตามกลุ่ม (Category) คือ หน่วยงานราชการ รถกระบะ และการใช้สื่อหรือการตลาดเพื่อสร้างภาพลักษณ์ ตามลำดับ  เมื่อจำแนกตามผู้โฆษณา พบว่า ยูนิลีเวอร์ รถยนต์โตโยต้า และ เอไอเอสจับตา 4 เทรนด์บริโภคสื่อเปลี่ยน

แนวโน้มของอุตสาหกรรมสื่อนั้น สร เกียรติคณารัตน์ กรรมการสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทาย และ Chief Exclutive Officer,Strategy & Innovation / Inventure Research & Consultancy บริษัท ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส จำกัด ระบุถึงว่า อุตสาหกรรมสือ กำลังได้สู่ยุค Data Intelligence ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลได้อย่างกว้างขวางทุกเพศทุกวัย  และมีข้อมูลมากมายที่ต้องจัดเก็บและนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ  ส่งผลให้แนวโน้มการวางแผนกลยุทธ์และการบริโภคสื่อของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไป ดังนี้

  • การรับข้อมูลผสมผสานข้ามทุกจอ หรือ Total Screen Planning ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้หลายทาง แต่สิ่งที่นักการตลาดต้องคำนึงคือ จะทำให้ตอบโจทย์ทางการตลาดในแต่ละกลุ่มเป้าหมายที่มีความแตกต่างได้อย่างไร
  • การสร้างสรรค์ Content โดยเริ่มจากการใช้ Big Data และวิธีการในการเข้าถึงให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายอย่างมีการวัดผลได้ชัดเจน
  • การเข้ามาของเทคโนโลยี “สิ่งของกับอินเทอร์เน็ต” หรือ Internet of Thing ซึ่งก็คือ ยุคที่ไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้  ต่อไปสิ่งของต่าง ๆ ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตและสามารถติดต่อสื่อสารกันได้
  • การสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายแบบผสมผสานที่รวมช่องทางปกติ Ecommerce, Scommerce และ Fcommerce เข้าด้วยกันอย่างตรงความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค

ไตรลุจน์ เสริมด้วยว่า นอกจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ เหตุการณ์บ้านเมืองต่าง ๆ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลต่ออุตสาหกรรมสื่อแล้ว ภายในองค์กรของสื่อเองก็ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับตัวด้วย  การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน และเลือกใช้วิธีการในการเข้าถึงอย่างถูกต้องจะทำให้ผ่านวิกฤตการณ์ไปได้ด้วยดี  นอกจากนี้ ควรสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านสื่อดิจิตอลให้มากขึ้น ก็จะช่วยให้การทำตลาดสำเร็จได้ง่ายขึ้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...