โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

SMEs-การเกษตร

สาวแม่แตง เชียงใหม่ ปลูกส้มสายน้ำผึ้งออร์แกนิก ออร์เดอร์ข้ามปี

เทคโนโลยีชาวบ้าน

อัพเดต 20 มี.ค. 2566 เวลา 03.04 น. • เผยแพร่ 21 มี.ค. 2566 เวลา 01.00 น.
18ส้มแม่แตง

รู้หรือไม่ว่า ส้มโชกุน ส้มสายน้ำผึ้ง และส้มเขียวหวาน แท้จริงแล้วเป็นส้มสายพันธุ์เดียวกัน “ส้มโชกุน” ภาคใต้จะเรียกส้มสายพันธุ์นี้ว่า ส้มโชกุน “ส้มเขียวหวาน” หรือส้มเขียวหวานบางมด มาจากคนที่ปลูกส้มอย่างหนาแน่นในภาคกลาง “ส้มสายน้ำผึ้ง” เป็นชื่อเรียกส้มที่ปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ และมีชื่อเสียงอย่างมากคือ ส้มสายน้ำผึ้งอำเภอฝาง

ส้มสายน้ำผึ้ง ลักษณะโดยทั่วไป ผลส้มเมื่อสุกเต็มที่แล้วจะมีสีเหลือง บางที่ก็มีสีเหลืองสลับเขียว ส้มสายน้ำผึ้งที่มีชื่อเสียงที่สุด ต้องยกให้แหล่งผลิตที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ รสชาติทั่วไปของส้มสายน้ำผึ้งจะมีรสเปรี้ยวนำและหวานตาม รสเปรี้ยวจะโดดขึ้นมาก่อนที่จะได้รสหวาน ผลส้มสายน้ำผึ้งมีความฉ่ำน้ำ เนื้อแน่น ทำให้น้ำหนักผลมากกว่าสายพันธุ์อื่น

การขยายพันธุ์ส้มสายน้ำผึ้ง นิยมขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง เพราะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็ว ส้มสายน้ำผึ้งเป็นพืชผลที่จำเป็นต้องการให้น้ำปริมาณมาก และเป็นพืชที่ไม่สามารถเติบโตได้ในดินเปรี้ยวหรือดินด่าง ดังนั้น ก่อนจะทำการปลูกส้ม คุณสมบัติแหล่งปลูก ควรเป็นดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย มีหน้าดินลึกอย่างน้อย 60 เซนติเมตร มีค่า pH ประมาณ 5.5-6.5 และควรเลือกพื้นที่ที่สามารถระบายน้ำได้ดีเพื่อไม่ให้เกิดน้ำขังในช่วงฤดูฝน

คุณลลิตภัทร อำนาจปลูก อายุ 32 ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ มีอาชีพเสริมเป็นเกษตรกรปลูกส้มสายน้ำผึ้ง

คุณลลิตภัทร เล่าว่า เดิมทีพื้นที่สวนส้มแห่งนี้เป็นมรดกที่คุณตาคุณยาย คุณลลิตและครอบครัวได้อาศัยอยู่ในอำเภอเมือง ทำให้ไม่ค่อยมีเวลามากนักที่จะได้กลับไปดูแลพื้นที่แห่งนี้

วันหนึ่งคุณพ่อได้พูดคุยกับคุณลุงในเรื่องของการทำการเกษตร ในตอนนั้นเองคุณลุงกำลังปลูกส้มอยู่และได้ผลผลิตที่ดีมาก คุณพ่อเลยเกิดความสนใจอยากทดลองปลูกในพื้นที่สวนแห่งนี้ เพราะคุณพ่อและคุณแม่ก็เป็นเกษตรกรมาก่อน เดิมทีเคยปลูกลำไย คุณพ่อได้สั่งซื้อต้นพันธุ์ส้มสายน้ำผึ้งจากอำเภอฝางมาทดลองปลูก โดยเริ่มแรกก็มีเพียงไม่กี่ต้นเท่านั้น

แต่การทำการเกษตรในครั้งนี้มีเป้าหมายคือ การทำเกษตรออร์แกนิก ปลอดภัย ไร้สารเคมี ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับครอบครัวของเราเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากส้มเป็นพืชผลที่มีทั้งโรคพืชและแมลงมาก่อกวนเยอะมาก โดยไม่ใช้สารเคมี เพื่อให้ปลอดภัยต่อสุขภาพคนปลูกและผู้บริโภค

ปัจจุบันสวนส้มสายน้ำผึ้งแห่งนี้มีอายุ 6 ปีแล้ว ถือเป็นความสำเร็จในธุรกิจครอบครัว โดยมีคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ดูแลและจัดการภายในสวน คุณลลิตภัทรเป็นคนทำการตลาด และช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลสวนส้มสายน้ำผึ้งออร์แกนิก หากใครอยากกินต้องจองกันล่วงหน้า และมีราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ โดยราคาส้มลูกใหญ่ ราคา 50 บาทต่อกิโลกรัม และส้มลูกเล็กสำหรับคั้นน้ำ ราคา 10 บาทต่อกิโลกรัม

การปลูกส้มสายน้ำผึ้ง

ควรเลือกปลูกในพื้นที่ราบเชิงเขา ที่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี เนื่องจากส้มชื่นชอบอากาศที่เย็น ส่งผลให้ส้มมีรสชาติที่หวานและเจริญเติบโตได้ดี พื้นที่ในการเพาะปลูกเนื่องจากเป็นพื้นที่เชิงเขา จึงไม่ได้มีการไถกลบหน้าดิน ใช้วิธีการขุดหลุมปลูก โดยกำหนดแถวในการปลูกเพื่อให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน

หลุมปลูกขนาด 50x50x50 เซนติเมตร (โดยประมาณ) รองก้นหลุมปลูกด้วยปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอกผสมกับดินเพาะปลูกก่อนนำต้นพันธุ์ลงหลุมปลูกและกลบหน้าดิน การปลูกส้มจะนิยมปลูกในช่วงฤดูฝน ทำให้ต้นพันธุ์เจริญเติบโตได้ดีและได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอ เกษตรกรไม่ต้องรดน้ำในช่วงนี้

การรดน้ำ ใช้ระบบสปริงเกลอร์ จะเปิดสปริงเกลอร์ไล่ไปเป็นแถวๆ การรดน้ำ 1 แถว ใช้ระยะเวลา 1 ชั่วโมง รดน้ำไล่ไปที่ละแถว สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

การใส่ปุ๋ย เริ่มต้นใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อบำรุงลำต้นและดิน เมื่อต้นพันธุ์ลงแปลงปลูกอายุครบ 1 เดือน ใส่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง การใส่ในแต่ละครั้งก็จะไล่ไปเป็นโซนๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใส่ปุ๋ย เมื่อใส่ปุ๋ยอินทรีย์แล้ว ก็จะสลับกับการฉีดพ้นน้ำหมักจุลินทรีย์เพื่อบำรุงใบและผล โดยน้ำหมักจุลินทรีย์เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านที่นำส่วนผสมหลัก เช่น เปลือกไข่ น้ำหมักสังเคราะห์แสง กะปิ ชูรส เป็นต้น มาเป็นส่วนผสมอย่างหนึ่งในการทำน้ำหมักจุลินทรีย์

แมลงและโรคพืช การปลูกส้มออร์แกนิกทำให้ไม่สามารถใช้สารเคมีได้ ทางสวนจึงกำจัดศัตรูพืช เช่น หญ้า 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ โรคที่พบเจอบ่อยคือ โรคเชื้อรา ใบเหลือง วิธีแก้ไข หากบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์หรือน้ำหมักจุลินทรีย์แล้วโรคยังไม่หาย ก็จำเป็นต้นปล่อยให้ต้นตายและปลูกขึ้นมาใหม่เพื่อทดแทน

โรคแมลงพบเจอได้บ่อยในช่วงติดผลและออกผล มีแมลงมาเจาะกินผลผลิต ทางสวนใช้วิธีแก้ปัญหา คือ นำน้ำผึ้งมาทาลงบนแผ่นฟิวเจอร์บอร์ด เพื่อล่อให้แมลงมากินน้ำหวานจากฟิวเจอร์บอร์ดแทนการเจาะกินผลผลิต เพื่อช่วยลดการเจาะกินผลผลิต

ผลผลิต เนื่องจากส้มสายน้ำผึ้งปลูกในรูปแบบออร์แกนิก ทำให้ 1 ปี สามารถเก็บผลผลิตได้เพียง 1 ครั้ง ในช่วงตุลาคม-ธันวาคม

หลังจากเก็บผลผลิต จำเป็นต้องตัดแต่งกิ่งให้เหลือกิ่งหลักที่ใหญ่และแข็งแรงที่สุด เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีในครั้งต่อไป เมื่อตัดแต่งกิ่งแล้ว ใส่ยาแก้อักเสบ (แอมพิซิลลิน) เพื่อลดอาการอักเสบของต้นส้มที่ถูกตัดผลออกไป และทำการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อบำรุงลำต้นและดิน ควบคู่กับการรดน้ำ

“การทำเกษตรออร์แกนิก แตกต่างจากการทำเกษตรทั่วไป แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยากหากศึกษาและทำความเข้าใจเกษตรออร์แกนิกอย่างแท้จริง ปลอดภัย ไร้สารเคมี แต่ต้องยอมรับว่าผลผลิตอาจไม่มาก ผิวและสีของผลผลิตอาจไม่สดใสนัก หากเทียบกับการปลูกส้มทั่วไป แต่รับรองได้ว่าสิ่งที่กินไปนั้น ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค และเกษตรกรผู้ดูแล”

สำหรับท่านใดที่สนใจ ส้มสายน้ำผึ้งออร์แกนิก ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณลลิตภัทร อำนาจปลูก หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก บ้านสวนส้มพอใจ หรือ Laliphat Umnatpluk

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0