เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายพงศ์ประพันธ์ นิตยารัมภ์พงศ์ ผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยื่นหนังสือถึง นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน คนที่สอง เรื่องขอร้องเรียนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เนื่องจากบกพร่องต่อหน้าที่ความรับผิดชอบ กรณีไม่สามารถกำกับดูแลสถาบันการเงินธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ปิดช่องโหว่มิจฉาชีพออนไลน์ พร้อมขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพานิชย์ทุกแห่ง รับผิดชอบความเสียหายต่อประชาชน
โดยนายวรภพ กล่าวภายหลังการยื่นหนังสือว่า สืบเนื่องจาก ธปท. ได้ออกประกาศให้ทุกธนาคารต้องเร่งปิดช่องโหว่มิจฉาชีพออนไลน์ภายใน 1 เดือน หากไม่สามารถทำได้ตามกำหนด ธนาคารต้องรับผิดชอบเต็มจำนวน แต่ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคารไม่สามารถปิดช่องโหว่เพื่อป้องกันความเสียหายจากมิจฉาชีพออนไลน์ได้ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนกว่า 7.95 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศ ธปท. บกพร่องต่อหน้าที่ในฐานะที่กำกับดูแลสถาบันการเงินธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งในประเทศไทย การที่ไม่สามารถปิดช่องโหว่มิจฉาชีพในรูปแบบออนไลน์ได้ เป็นสาเหตุสำคัญของความเสียหายต่อประชาชนและสถานะการเงินของประเทศอย่างร้ายแรง
นายวรภพ กล่าวอีกว่า จึงขอเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยแสดงความรับผิดชอบ ดังนี้ 1.ขอให้ ธปท. และธนาคารพานิชย์ทุกแห่ง รับผิดชอบความเสียหายต่อประชาชนเต็มจำนวน และติดตามเส้นทางการเงินผู้เสียหายจนถึงการเข้าระบบคริปโตเคอร์เรนซีโดยเร็ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทำสำนวนคดีส่งฟ้องฟ้องศาลได้โดยเร็ว 2.ให้ ธปท. กำกับดูแลอย่างใกล้ชิดต่อการกระทำผิดโดยเจตนา เช่น สาขาธนาคารรับจ้างเปิดบัญชีม้า พนักงานธนาคารขายข้อมูลลูกค้าแก่มิจฉาชีพ และให้กำหนดบทลงโทษอย่างรุนแรง รวดเร็ว และทำการแจ้งการกระทำความผิดนั้นอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน
นายวรภพ กล่าวอีกว่า 3.ให้ ธปท. พัฒนาระบบการแจ้งเตือนเจ้าของบัญชี ผู้ใช้บริการธนาคารในการโอนเงินที่ผิดปกติ พร้อมพัฒนาระบบการชะลอการโอนเงินที่น่าสงสัยของผู้ใช้บริการ พร้อมการติดต่อต่อทักท้วงเจ้าของบัญชี เพื่อลดปัญหาความล่าช้าในการอายัดเงิน 4.ให้ ธปท. ยกเลิกระบบการเปิดบัญชีออนไลน์ ตลอดจนกำกับดูแลเส้นทางการเงินที่สงสัยว่าเป็นธุรกรรมของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะจากสาขาธนาคารจากชายแดน และกำกับดูแลการโอนเงินที่สงสัยว่าเป็นของมิจฉาชีพ ออกนอกราชอาณาจักรไทย
ด้านนายวรภพ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะ กมธ. พร้อมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและสร้างเสริมให้กระบวนการต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น