ขึ้นชื่อว่าทำงานแล้วหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำร่วมกับคนอื่น ๆ ถูกไหมคะ อีกอย่างการทำงานมันก็มีอุปสรรคบ้าง ตึงเครียดบ้าง ไม่ได้ถูกใจเราตลอดเวลา ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ ที่จะต้องพบเจอ แต่ว่าจะมีวิธีอย่างไรที่จะช่วยให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างแฮปปี้ที่สุด ห้องแนะแนวมีคำแนะนำเล็กน้อยมาให้ผู้อ่านลองนำไปปฏิบัติตามกันค่ะ หวังใจว่าทุกท่านจะได้พบการทำงานเป็นทีมที่มีความสุขมากกว่าเดิม
ให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน
ไม่ว่าคุณจะอยู่ตำแหน่งไหน จะเป็นเจ้านายหรือเป็นลูกน้อง สิ่งสำคัญที่สุดในการทำงานร่วมกันคือต้องให้เกียรติกัน แสดงออกต่อฝ่ายตรงข้ามแบบที่เราต้องการให้เขาแสดงออกต่อเราค่ะ ควรพูดจาสุภาพ จริงใจ อ่อนน้อมถ่อมตน โฟกัสที่เป้าหมายของตัวงานเป็นหลัก เคารพความคิดเห็นผู้อื่นด้วยนะคะ พยายามบอกตัวเองอยู่เสมอ แม้ว่าเราจะมาจากต่างที่ ร้อยพ่อพันแม่ หลากหลายนิสัยใจคอ แต่หากเราเคารพซึ่งกันและกันจะทำให้การทำงานด้วยกันเป็นไปได้ราบรื่นมากขึ้นค่ะ
ตั้งสติก่อนส่งข้อความ
สมัยนี้นิยมกันมากใช้ไหมคะ คุยงานผ่าน LINE เพราะการพิมพ์ข้อความตัวอักษรมีข้อดีคือง่าย รวดเร็ว มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรมากกว่าการพูดปากเปล่า แต่ก็ข้อเสียอย่างหนึ่งที่ชัดเจนมากคือ เราไม่สามารถคาดเดาน้ำเสียง ลักษณะท่าทางของผู้พูดได้เลย ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของตัวอักษรเป็นอย่างไร กำลังโกรธ กำลังดีใจ ไม่รู้บวกรู้ลบเลยค่ะ นั่นจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ง่าย เพราะฉะนั้นหากต้องพิมพ์สื่อสารกัน ต้องมีสติ ใช้ถ้อยคำอย่างเหมาะสม ก่อนส่งออกไปลองอ่านทบทวนก่อนสักครั้งว่าข้อความนั่นหากคนอ่านรับสารไปแล้วจะเข้าใจตรงกันกับเราไหม โอกาสเกิดความเข้าใจผิดระหว่างกันก็ลดน้อยลงไปด้วย
แต่ไม่ว่าอย่างไรการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการพูดคุยต่อหน้ากันและกัน อย่างที่บอกว่าเราสามารถเห็นอวัจนภาษาของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างชัดเจน น้ำเสียง ท่าทาง สีหน้าต่าง ๆ ซึ่งมีผลต่อการสนทนาเกินกว่า 90% ทำให้เข้าใจสิ่งที่สื่อสารได้ง่ายกว่า รวมไปถึงการพูดคุยทางโทรศัพท์แม้จะให้เห็นสีหน้าท่าทางแต่น้ำเสียงก็ยังสามารถคาดเดาได้ว่าคู่สนทนารู้สึกอย่างไร แต่ช่วงนี้ก็เข้าใจได้ว่าการทำงานคงต้องพึ่งพาการส่งข้อความผ่านตัวอักษรเป็นหลัก จึงแนะนำให้ทุกท่านมีสติ รอบคอบก่อนส่งข้อความใด ๆ ออกไปค่ะ
ถามเมื่อสงสัย
หากมีข้อสงสัยในการทำงาน ควรคุยกัน สอบถามทำความเข้าใจกันก่อนจะต่อบทสนทนายืดยาวออกไป หรือกว้างขวางออกไปยังบุคคลอื่น ๆ ไม่เช่นนั้นการทำงานอาจผิดพลาดได้มากขึ้น พยายามลดการคาดเดาไปเอง เพราะนั่นสร้างปัญหามานักต่อนักแล้ว ต้องมาตามแก้ไขกันภายหลังอีกซึ่งจะยิ่งทำให้การทำงานร่วมกันยากมากขึ้น เพราะฉะนั้นหากสงสัยอะไรให้ถามจนเคลียร์นะคะ
ติเพื่อก่อ-ให้กำลังใจกัน
การตำหนิติเตียนก็จำเป็น เมื่อต้องทำงานด้วยกัน การให้ฟีดแบ็กกันและกันอย่างมีเหตุผล อยู่บนพื้นฐานความจริง ไม่ใส่อารมณ์จะช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้น เคยมีผลสำรวจนึงของฝรั่งบอกว่า 98% ของคนมักจะรู้สึกไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เมื่อทำงานกับหัวหน้าที่ไม่ค่อยจะให้ฟีดแบ็กเท่าไหร่ เพราะการบอกกล่าวข้อดีข้อเสียในการทำงานนั้นจะช่วยให้เกิดการพัฒนาตัวเองได้อย่างตรงจุด และแสดงออกถึงความสนใจความใส่ใจในการทำงาน หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงานด้วยกันเองก็สามารถให้ฟีดแบ็กเองได้เช่นกัน
อีกด้านหนึ่งการปกป้องและสนับสนุนกันก็ต้องทำควบคู่ไปด้วย เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญในการเพิ่มพูนพลังในการทำงาน ไม่ว่าจะสนับสนุนในเรื่องการทำงานหรือซัพพอร์ตทางจิตใจก็เป็นสิ่งที่แนะนำให้ทุกคนทำเป็นประจำนะคะ จะช่วยให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานร่วมกันต่อไปในอนาคตได้อีกค่ะ
หลีกเลี่ยงการสร้างบรรยากาศทางลบ
หมู่มวลความอึมครึม ความเนกาทีฟ (negative) ลอยอยู่ที่ไหน ที่นั่นจะเต็มไปด้วยความเครียด และนั่นคงไม่ใช่ความปรารถนาของใครทั้งนั้นจริงไหมคะ เพราะฉะนั้นเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าอย่าสร้างบรรยากาศทางลบเวลาทำงานร่วมกับคนอื่น พยายามไม่ใช่อารมณ์เป็นใหญ่ พูดคุยทำงานกันด้วยเหตุผล ไม่พูดจาค่อนแคะหรือแขวะกัน จริงใจและสุภาพซึ่งกันและกันจะช่วยให้บรรยากาศการทำงานน่าอยู่มากยิ่งขึ้น รู้จักขอบคุณและขอโทษให้ติดปากจะเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำแนะนำในการทำงานร่วมกันเป็นทีมนะคะ เพื่อลดโอกาสเครียด หรือความไม่สบายใจที่อาจเกิดขึ้นได้ ลองทำไปปรับใช้กันได้ตามอัธยาศัยค่ะ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการทำงานนะคะ
.
อ้างอิง
