โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เลิกกันแล้วยังเป็นเพื่อนกันได้ไหม ? - เพจบันทึกนึกขึ้นได้

TOP PICK TODAY

อัพเดต 24 เม.ย. 2563 เวลา 02.34 น. • เผยแพร่ 23 เม.ย. 2563 เวลา 13.06 น. • เพจบันทึกนึกขึ้นได้

 

เรากลับไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ไหม ?

ผมว่าเราน่าจะเคยถามตัวเองด้วยคำถามนี้
ในวันที่กำลังทะเลาะกันแบบที่หาจุดตัด จุดลงตัวกันไม่ได้
วันที่ต้องบอกว่า มันเป็นแฟนกันไม่ได้แล้ว มันไปต่อด้วยกันไม่ได้แล้ว
มันไม่ได้รู้สึกแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว

ไม่ใครสักคนที่กำลังจะตัดสินใจตัดความสัมพันธ์
เลือกที่จะตั้งคำถามนี้ออกมากลางโต๊ะ
ว่า เราถอยกลับมาเป็นเพื่อนกันได้มั้ย

บางคนก็อยากที่จะมีเขาอยู่ในชีวิต
อยากให้มีความสัมพันธ์สักทางใดทางหนึ่งกับเขาไว้สักหน่อย
เรายังเห็นอะไรบางอย่างในอนาคตกับเขาหรือเธอคนนี้อยู่

แต่บางคนก็ส่ายหน้า บอกได้เลยว่า หน้ายังไม่อยากเห็น
เพื่อนก็ไม่ได้เป็นมาก่อน มาถึงก็เป็นผัว เป็นเมียเลย
จะขอย้อนกลับไปเป็นเพื่อนได้ยังไง
ไม่มีวัน…

หรือบางคนก็บอกว่า ก็ขอคิดดูก่อน
แต่ก็ไม่ได้ลบเพื่อนออกจากเฟซบุ๊ค
ยังฟอลโล่กันในไอจี หรือทวิตเตอร์
แล้วก็ยังมีอะไรบางอย่างที่ยังแอบกลับไปหากันตามสถานการณ์และเวลาที่เอื้ออำนวย

ซึ่งอ่านๆ อยู่ตอนนี้คุณก็น่าจะรู้ว่าตัวเองอยู่ฝั่งไหน

ทีนี้เรามานั่งคิดกันต่อดีกว่าว่า อะไรคือเหตุผลที่แท้จริงของคำถามนี้
ผมหรือคุณควรใช้วิธีคิดแบบไหนเพื่อที่จะมาทำความเข้าใจตัวเองกัน

อย่างแรกที่ผมว่าเราควรตั้งคำถามกับตัวเองเลยน่าจะเป็น
เมื่อไหร่ที่เราควรจะตัดความสัมพันธ์กับเขาหรือเธอสักที ?

เพราะบางความสัมพันธ์ที่เราเจอ ที่มันไม่ค่อยโอเค
หลอกลวง โกหก เป็น Toxic relationship มันจะกลับกลายมาเป็น
ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนได้จริงๆ นะหรอ

สิ่งหนึ่งที่ผมบอกตัวเองอยู่ตลอด
คือเราต้องอย่าปล่อยให้ความเหงามาทำให้เราได้รับอะไรที่จริงๆ แล้วเราไม่ควรได้รับ

คุณคิดว่า คนที่เคยทำร้ายเรา เคยโกหก
เคยชี้หน้าด่าเรา เคยทำให้เราเจ็บทั้งทายกายหรือทางใจ
เพราะเลิกเรียกว่าแฟน มาเป็นเพื่อนแล้ว ทุกอย่างมันจะเปลี่ยนไปรึเปล่า

คิดๆ ดูแล้วก็ไม่น่าใช่แบบนั้น มันก็คงเป็นเหมือนเดิมนั่นแหละ แค่เปลี่ยนชื่อเรียก

แต่ถ้าคุณกำลังจะบอกว่า แต่ความสัมพันธ์ของเรามันไม่ได้แย่นะ
มันไม่ได้โดนทำร้าย หรือรุนแรงอะไรขนาดนั้น
มันก็เป็นรักธรรมดาๆ นี่แหละ แต่แค่ตอนนี้มันไปด้วยกันไม่ได้แล้วแค่นั้น

ซึ่งก็ต้องคิดให้ดีอีกนั่นแหละว่า
เราควรกลับไปเป็นเพื่อนกับเขารึเปล่า

มีผลการวิจัยนึงของ New York Therapist บอกเอาไว้ว่า
ความสัมพันธ์ในการกลับไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่ามีแนวโน้มไปในทางลบ
มากกว่าในทางบวก โดยเฉพาะกับคู่ที่ไม่เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน ก่อนที่จะเป็นแฟนกัน

สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้ว่า ทำไมมันถึงมีแนวโน้มไปในทางลบ
เพราะการที่ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ มันทำให้เราเริ่มต้นใหม่กับใครไม่ได้สักที

บางทีก็พะว้าพะวงว่า มันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย
เขายังจะมีใจให้เราเหมือนกันรึเปล่า แล้วเราก็เอาความรู้สึกเก่าๆ
ความสัมพันธ์ครั้งนั้นมาเป็นตัวบล็อกความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของเรา

การที่เราต้องมีความสัมพันธ์กับใครสักคน ไม่ว่าจะในสถานะไหนมันใช้เวลานะ
เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน กินข้าว ทำงาน ไปนู่นนี่ เสาร์อาทิตย์ ไปไหนทำอะไร
ไปด้วยกันมั้ย ไปรับมั้ย มาส่งหน่อย มันมีอะไรมากมายในความสัมพันธ์นั้น

พอมันนานๆ เข้า มันเลยกลายเป็นนิสัย กลายเป็นกิจวัตร
ที่เราคิดไปเองว่า มันต้องมี มันจะต้องเป็นแบบนั้นอยู่

ซึ่งจริงๆ แล้วมันต้องเป็นแบบนั้นรึเปล่า อันนี้เราต้องถามตัวเองดู

ทีนี้ลองมาคิดไปพร้อมๆ กันว่า

ถ้าเรามีแฟนใหม่
แล้วเราบอกแฟนใหม่ของเราว่า เพื่อนสนิทของเราคือแฟนเก่า
คิดว่าแฟนคนใหม่ของเราเขาจะรู้สึกยังไง

นี่เป็นคำถามที่ผมได้รับจากคุณผู้อ่านบ่อยมากเช่นกันว่า
แฟนหนูสนิทกับแฟนเก่ามาก
แต่เขาบอกว่ามันไม่มีอะไรเกินเลย
หนูควรคิดยังไงดีคะ ?

เเอาจริงๆ เราจะไม่คิดอะไรเลยกับคนที่เค้าเคยมีความสัมพันธ์ฉันท์แฟนกันได้ด้วยหรอ ?

ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรคิดให้หนักเลยว่า
ถ้าจะกลับไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า
ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของเราจะเดินหน้าไปในรูปแบบไหน ?

จริงๆ พอเลิกกันแล้ว มันใช้เวลา
กว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมกับตัวเองได้
การเลิกกับใครสักคนเนี่ย มันทำให้เราสูญเสียความเป็นตัวเองไปเยอะเหมือนกันนะ
เราสูญเสียความมั่นใจ สูญเสียความรู้สึกดีๆ กับตัวเอง
ซึ่งช่วงเวลาที่ต้องเลิกกันนี่แหละ ควรจะต้องเป็นเวลาที่เราได้คุยกับตัวเอง
เป็นเวลาที่เราได้ ทำให้ตัวเองกลับมาเป็นปกติ
แบบที่เรามีความสุขกับทุกวันได้แบบที่ไม่ต้องมีเขา

แต่การที่ต้องมีแฟนเก่าเป็นเพื่อนในช่วงเวลานี้
มันจะทำให้เราไม่ได้เยียวยาความรู้สึกของตัวเอง
คุณรับได้ใช่มั้ย ที่จะเห็นแฟนเก่าที่เป็นเพื่อน ไปคุยกับคนอื่น
ไปเที่ยวกับคนอื่น เราสามารถมีความสุขได้จริงๆ รึเปล่า

แทนที่จะเอาเวลาตรงนี้มาเยียวยาตัวเอง มาค้นหาบางอย่างของตัวเองที่เคยหายไป
คนเราพอมันเป็นแผล ไม่ว่าจะที่ไหน มันก็ต้องหยุดพักให้มันหายก่อน
หัวเข่าถลอกปอกเปิก แต่แฟนเก่าบอกว่าไปวิ่งกันเถอะ เราก็แถแถ่ดๆ ไปวิ่งกับเค้าต่อ
เข่าเราก็พังอยู่คนเดียวนะ

 

 

อีกข้อที่สำคัญที่เรารู้สึกว่า เราควรกลับไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่ามั้ย คือ
ความรู้สึกกดดันจากเพื่อนๆ จากครอบครัว
น้องคนนึงเคยเล่าให้ผมฟังตอนที่เค้าจับได้ว่าแฟนไปมีคนอื่น แล้วกำลังคิดว่าจะเลิกกับแฟนดีมั้ย
แต่แฟนเค้ากับเค้า มีกลุ่มเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ถ้าเลิกกันไป ก็เหมือนทุกอย่างมันหายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือแฟน แถม แม่ก็ชอบแฟนเอามากๆ แม่เค้าก็ชอบเราเหมือนกัน ทุกอย่างมันลงตัวไปหมด
ถ้าสูญเสียเค้าไป แล้วชีวิตเราจะเอายังไงดี

ก็ต้องคิดกันดีๆนะครับว่า ถ้ายังเดินหน้าต่อ เราก็ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ในความรู้สึกทุกๆ วัน
ไหวใช่มั้ย กับอะไรแบบนี้ อย่างที่บอกว่า การมีความสัมพันธ์มันใช้แทบจะทุกวินาทีในชีวิตเลยนะ

แล้วใครบ้างที่ต้องเจอกับความรู้สึกแบบนั้นตลอดเวลา
ถ้าไม่ใช่ตัวเราเอง

บางคนอาจเข้าใจว่า
การที่เรากลับไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้
นั่นหมายความว่า เรามีวุฒิภาวะที่ดีแล้ว เราโตแล้ว
เราเลยบอกตัวเองว่า เราควรกลับไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้สิ

นี่แหละที่เป็นความกดดันที่เกิดขึ้นกับคนรอบๆ ตัว
ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่เกี่ยวกันเลย ไม่ใช่ว่าเราไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าไม่ได้
เราจะไม่รู้จักโต เราจะไม่มีวุฒิภาวะที่ดี มันคนละเรื่องกัน

สิ่งที่เราควรจะถามตัวเองอีกกับคำถามนี้
คืออะไรคือจุดประสงค์ของเราในการกลับไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า

จริงๆ เราก็ควรถามตัวเองในทุกๆ ความสัมพันธ์นั่นแหละ
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน แฟน คนรู้จัก หรืออะไรก็ตามครับว่า
ทำไมเราถึงต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับความสัมพันธ์นี้ด้วย
อะไรคือความต้องการของเราจริงๆ

ซึ่งมันมี 2 ข้อจากการวิจัยว่าทำไมเราถึงอยากกลับไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า

1.

เพื่อเติมเต็มความต้องการในแบบที่เคยมีอยู่
คนส่วนใหญ่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เราไม่ชอบอยู่คนเดียว
ไม่ชอบอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นชิน
การมีใครสักคนอยู่ด้วยข้างๆ ในสถานการณ์แบบนี้ ก็น่าจะดี

แต่ถามตรงๆ ว่า ต้องเป็นแฟนเก่ารึเปล่า ที่ต้องมาทำหน้าที่นี้
เราจะเอากุญแจแห่งความสุขของเราไปไว้ในมือเขาอีกครั้งใช่มั้ย
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่ามันจะไม่เป็นเหมือนเดิม

เลิกหาคนที่ใช่ เพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนในสถานการณ์แบบนี้
แต่ลองเป็นคนที่ใช่ซะเอง เป็นเพื่อนให้ตัวเองในเวลาที่เราอาจจะต้องการแค่ตัวเองเราเองจริงๆ

2.

เราคาดหวังว่า ทุกอย่างมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

ยอมรับมาซะดีๆ ว่าที่ยังอยากเป็นเพื่อนกับเค้า เพราะยังอยากให้เค้ากลับมา

แต่ระวังข้อนี้ไว้ดีๆ
เวลาเราใช้เวลาร่วมกับใคร ยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งปล่อยมือออกไปยาก
แต่การถือมันเอาไว้ตลอด ไม่ปล่อยไปสักที
ความเจ็บปวดจะอยู่กับเราตั้งแต่ตอนนี้ ไปจนกว่าเราจะยอมปล่อยมือจากมันเอง

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่

คุณอาจจะมีเหตุผลมากมายว่าทำไมควรจะกลับไปเป็นเพื่อนกับเขา
เพราะเราช่างเข้ากันดีเหลือเกิน เรามีลูกด้วยกันแล้ว

แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม
เมื่อความสัมพันธ์จบลง
เราควรมีเวลาที่จะอยู่กับตัวเอง เพื่อให้ความรู้สึกมันตกตะกอน
ก่อนที่จะไปเริ่มความสัมพันธ์แบบเพื่อน หรืออะไรก็ตาม

อย่าเพิ่งกลับไปเป็นเพื่อน หลังจากที่เพิ่งเลิกกันได้ไม่กี่ชั่วโมง ไม่กี่วัน
เพราะเรายังไม่พร้อมที่จะตัดสินใจอะไรในตอนนี้

อย่าเอาความรู้สึกหรืออารมณ์ชั่ววูบในตอนนี้
มาตัดสินความเป็นไปในชีวิตของเราในอนาคต

อย่าเพิ่งกลับไปมีความสัมพันธ์ทางร่างกาย หลังจากที่เลิกกันไป
เพราะมันจะทำให้ความตั้งใจ หรือจุดประสงค์ของเรามันไขว้เขว ซับซ้อน
และหาทางออกยากขึ้นเรื่อยๆ

และสุดท้าย
ถ้าตัดสินใจจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าแล้ว
ต้องยอมรับให้ได้ว่า
เราไม่ได้ต้องการเพื่อนทุกเวลา
เราหรือเค้าไม่ได้อยากอยู่กับเพื่อนตลอด
ไม่ได้ต้องการให้เพื่อนโทรหา หรือรายงานว่าไปไหน ทำอะไร อยู่กับใคร

เพื่อนไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง
เพื่อนจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของกันและกัน

อย่างที่บอกว่า ตอนนี้ ผมไม่ได้มาบอกว่า คุณควรจะไปเป็นเพื่อนกับแฟนเก่ามั้ย
แต่เท่าที่เรานั่งอ่านกันมา
ผมว่าคุณควรจะต้องนั่งคุยกับตัวเองอย่างจริงจังว่า

ตอนนี้คุณต้องการอะไรในความสัมพันธ์
ในชีวิต

ผ่านความคิดที่ผมเอามาเล่าให้ฟัง

ก่อนจะหาเพื่อนเพิ่มเข้ามาในชีวิตอีกคน
ลองถามตัวเองก่อนว่า
เราเคยเป็นเพื่อนที่ดีให้กับตัวเองแล้วรึยัง

ถ้ายัง
ลองเป็นดูก่อนไหม ?

ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก เพจบันทึกนึกขึ้นได้  ได้บน LINE TODAY ทุกวันศุกร์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0