เราทุกคนต่าง "บ้าดารา"กันคนละนิดละหน่อยทั้งนั้น
ลองนึกดูเล่น ๆ ก็ได้ว่าตั้งแต่เล็กจนโต คุณผู้อ่านน่าจะเคย "กรี๊ด" ดารา นักกีฬา หรือคนดังสักคนกันบ้าง อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะเคยแอบติดตามข่าวคราวคนดังที่กำลังเป็นประเด็นแซ่บในสังคมบ้างแหละ ที่จริงการชื่นชอบคนมีชื่อเสียง เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งของมนุษย์ เป็นกลไกธรรมชาติที่สิ่งมีชีวิตจะเฝ้ามองหรือสังเกตการณ์สัตว์ที่แข็งแรง หรือสวยงามที่สุดในฝูง
แต่ถ้าการชื่นชอบนั้นเริ่มหนักข้อขึ้น กลายเป็นการแอบชอบที่ไม่ได้หยุดแค่การติดตามเขาแล้วจิตใจเป็นสุข แต่ความรักเริ่มกลายเป็นความหมกมุ่น และความคาดหวังเกินพอดี ก็อาจกระทบใจ ไปจนถึงความสัมพันธ์ในชีวิตจริงได้!
วิทยาศาสตร์ของการ "บ้าดารา"
คนส่วนมากรับมือกับอาการ "บ้าดารา" ของตัวเองในระดับไม่น่าห่วง คือก็รักเขาแหละ แต่ก็ยังมีชีวิตปกติ ตื่นเช้าไปทำงาน คิดเรื่องส่วนตัว มีปฏิสัมพันธ์กับคนรัก แต่กับบางคน อาการบ้าดารากลับรุนแรงกว่าคนอื่น คือการนำเรื่องดาราหรือไอดอลที่ตนรักมาปะปนกับชีวิตส่วนตัว พอมากเข้าก็ไม่สามารถจดจ่อกับชีวิตตรงหน้าได้ ซึ่งอาการเหล่านี้หากปล่อยปละละเลย จะเป็นต้นเหตุของอาการวิตกกังวล โรคซึมเศร้า ไปจนถึงขาดความนับถือตัวเอง (Self Esteem) เหตุจากการที่ใช้พลังงานทั้งหมดไปกับคนที่เราชอบ แทนที่จะใช้ชีวิตของตัวเองจริง ๆ
โดยเฉพาะในปัจจุบัน ที่โลกอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลทุกอย่างให้อ่าน คนดังคนโปรดของเราก็มีโซเชียลมีเดียให้เข้าไป "ส่อง" กันได้ตลอดเวลา ยิ่งรู้ ก็ยิ่งอยากรู้อีก ไปเรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุด ผลวิจัยยังบอกอีกว่าจากการสำรวจกลุ่มที่เป็นแฟนคลับใครสักคนจำนวน 600 คน พบว่ากว่า 1 ใน 3 มีแนวโน้มมีอาการ "โรคคลั่งดารา" (Celebrity Worship Syndrome) อาการที่หมกมุ่นหรือคลั่งไคล้อะไรมาก ๆ จนทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นศูนย์กลางชีวิต
ชอบคนดัง กระทบชีวิตรักได้ไง?
หลายคนรู้สึก "ผูกพัน" กับคนดังของตัวเอง รู้สึกเหมือนคนคนนั้นเป็นเพื่อน บางคนอาจรู้สึกผูกพันกับคนดังคนนั้นมากถึงขั้นคิดว่าเป็นคนรักกันได้ ซึ่งความปรารถนาเหล่านี้ นานไปจะกลายเป็นอาการวิตกกังวลและความเครียด เพราะมิตรภาพและความรู้สึกทางใจเหล่านี้ ไม่ได้รับการตอบรับจากอีกฝ่ายจริง ๆ
สื่อต่าง ๆ ก็มีส่วนทำให้เรายิ่งคลั่งไคล้ดารา การสร้างรายการทีวี หรือขายภาพดารานักแสดงในอิริยาบถเป็นกันเอง ขายสกู๊ปจำพวก ความลับของคนดังที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน! เหล่านี้ ยิ่งกระตุ้นให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับคนดังคนนั้นได้ไม่ยาก
อาการคลั่งไคล้เหล่านี้ยังทำให้เรามี "มาตรฐาน" ในการคบเพื่อน หรือคนรักที่สูงผิดปกติ แน่นอนว่าภาพยนตร์ รายการทีวี หรือบทเพลงที่เราฟังก็มีส่วนช่วยเพิ่มมาตรฐานดังกล่าว สื่อทำให้เราอยากมีคนรักสมบูรณ์แบบเหมือนเจ้าชายแฮร์รี่ (Prince Harry) อยากให้คนรักแต่งเพลงเพราะ ๆ ให้เราเหมือนที่แฮร์รี่ สไตล์สทำได้ (Harry Styles) การตั้งความหวังระดับ "คนดัง" แบบนี้กับความสัมพันธ์รอบตัวยิ่งทำให้ความสามารถในการเข้าสังคมของเราย่ำแย่
ไอดอล VS ไอฉันมันคนธรรมดา
อย่าลืมว่าในทีวี เราเห็นดาราหรือไอดอลของเราในรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบเสมอ ดังนั้นการชื่นชอบใครสักคนมาก ๆ โดยที่ยังไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ก็ถือเป็นลดโอกาสสานสัมพันธ์กับคนดีรอบตัวจากความคาดหวังเกินจริงได้ ทั้ง ๆ ที่ "คนธรรมดา" ที่เราพบเจอในชีวิตจริง อาจจะเหมาะสมกับเรามากกว่าอปป้าคนนั้นจากวงเกาหลีที่ดัง ๆ วงนั้นก็ได้นะ
สำรวจตัวเองกันหน่อยว่าเรายังเป็นคนที่แค่ติดตามคนที่เราชื่นชอบก็มีความสุข และไม่ได้ให้เขาคนนั้นมากินเวลาส่วนตัวกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรักมากเกินไป ก็ยังถือว่าเป็นความรักในระดับที่ทำให้ใจเต้นกำลังดีและไม่เดือดร้อนตัวเอง กลับกันหากคุณกำลังทุกข์ใจอย่างหนักที่เขาคนนั้นมีคนรักคนใหม่เหมือนตอนอกหักจริง ๆ แล้วล่ะก็ ต้องเริ่มดูแลตัวเอง และถอยห่างจากเขาได้แล้วนะ!
-
อ้างอิง
