โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

สัมภาษณ์คนขับไลน์แมนแท็กซี่ คุณตู่ - ธนากฤต มณีวรรณ

LINE MAN TAXI

เผยแพร่ 11 มิ.ย. 2561 เวลา 04.34 น.

“รายได้ต่อเดือนพีคสุดอยู่ที่ประมาณแสนหนึ่งแสนสอง” 

         คุณตู่-ธนากฤต มณีวรรณ จากคนที่ปิดใจไม่คิดจะรับงานแอพ แต่พอเปลี่ยนทัศนคติ ทำให้วันนี้เขาติดอันดับต้นๆ ของผู้ขับไลน์แมนแท็กซี่ที่ทำรายได้สูงสุด จนเพื่อนในกลุ่มไลน์แมนแท็กซี่ให้ฉายาว่า “มหาเทพ และ เจ้ากรมแผนที่” 

เพราะโดนเลย์ออฟทำให้รู้ว่าต่อไปนี้จะต้องเป็นนายตัวเอง

“หลังจากโดนเลย์ออฟช่วงฟองสบู่แตก ทำให้ผมคิดได้ว่าจะไม่เป็นลูกน้องใครอีกแล้ว ต่อแต่นี้เราจะเป็นนายตัวเอง ก็เริ่มจากเพื่อนเอาแท็กซี่มาให้ลองขับ ขับเดือนเดียวเห็นเงินก็เลยตัดสินใจเอาเงินก้อนที่มีไปผ่อนรถมาขับเอง เก็บเงินได้อีกก้อนก็ไปถอยรถออกมาให้คนขับแท็กซี่เช่าซื้อ ตอนนั้นมีรถอยู่ประมาณ 5-6 คัน ผมเห็นแท็กซี่บางคนเป็นคนดีก็อยากให้เขามีอาชีพ มีอนาคต เลยให้เช่าซื้อรถเราโดยเอาเงินประกันแค่ 5,000 บาท แล้วก็ผ่อนให้เราวันละ 800 บาท ขับ 10 วันให้ขับฟรี 1 วัน บางคนก็บอกว่าเราโง่ที่ทำแบบนี้คนมันจะโกง แต่ผมไม่สน เราอยากช่วย เพราะถ้าเขาผ่อนรถกับเราหมด รถก็ยังวิ่งได้อีกปีครึ่ง เขาใช้หารายได้เลี้ยงครอบครัวได้ 

ขับแท็กซี่มา 21 ปีไม่เคยขาดทุน

“ขับแท็กซี่รายได้มันมีอยู่แล้วแต่ล้อคุณต้องหมุนนะ ใกล้ก็ต้องไป ไกลก็ต้องวิ่ง รถติดก็ต้องไป ยิ่งโซนรถติดคุณไปส่งคนยังไงก็ได้คนออกมา เพราะแท็กซี่ไม่เข้ากัน ผมขับทุกวันไม่ค่อยหยุด วิ่งวันละ 15 ชั่วโมง ใครขาดทุนเราไม่เคยขาดทุน เพราะผมวิ่งไปทั่ว เมื่อก่อนอยู่ปิ่นเกล้า ใครเรียกไปไหนก็วิ่งไปทั่ว เมื่อก่อนวิ่งได้วันละ 2,000 กว่าบาท ต่อเดือนพีคสุดก็อยู่ที่ 75,000 บาท”

เมื่อก่อนมองว่าแท็กซี่รับแอพฯ เป็นงานเสริมผู้โดยสารโบกมันเห็นตัวเงิน

“เมื่อก่อนต่อต้านแอพฯ เพื่อนชวนสมัครก็สมัครไปงั้นๆ มีอคติไง มองว่าเป็นงานบังคับเราให้ไปรับ เราไม่ได้มองตัวเลข งานขึ้นยังไม่รับเลย ผมรับแต่ลูกค้าโบก มองงานแอพฯ เป็นงานเสริม งานหลักคือผู้โดยสารโบก จนวันหนึ่งมาเจอไลน์แมนแท็กซี่ ผมไปเติมก๊าซแถวบางนา มีน้องเดินเข้ามาถามว่าอยากสมัครแอพฯ มั้ย ผมก็ถามว่าแอพฯ ของอะไร เขาบอกเป็นของไลน์แมนแท็กซี่ มันเริ่มอยากรู้เพราะเราก็มีไลน์ เลยถามว่ามีรถบ้านมาวิ่งมั้ย เขาบอกว่าไลน์แมนแท็กซี่มีเฉพาะแท็กซี่ ทำเพื่อแท็กซี่โดยเฉพาะ เป็นของคนไทย ได้ฟังแค่นี้ผมก็เปิดใจเลย คำว่า “ทำเพื่อแท็กซี่โดยเฉพาะและเป็นคนของคนไทย” เรารู้สึกภูมิใจ คิดว่ามันต้องมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นแน่ๆ 

เห็นคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้

“เดือนแรกที่สมัครยังรับงานไม่เยอะ ก็ยังมองเป็นงานเสริมอยู่นะ คือเปิดใจกับไลน์แมนแท็กซี่แต่ยังมองไม่ออกว่าเงินมาจากไหน จนกระทั้งเดือนธันวาคมปีที่แล้วมีโปรโมชั่นออกมารับงานตามจำนวนที่กำหนดจะได้เงินโบนัส 5,000 บาท ก็คิดว่า….เออ น่าลอง แต่สิ่งที่กระตุ้นให้ผมอยากวิ่งจริงจังคือพี่สมพร ปรีชา เป็นคนจุดประกายผมเลย ในไลน์บ้านใหญ่ พี่สมพรจะเป็นคนวิ่งงานแล้วแกโชว์รายได้ตลอด มันทำให้ผมคิดว่า ทำไมเขาวิ่งได้แล้วทำไมเราวิ่งไม่ได้ ทำให้ผมสปีดตัวเองขึ้นมา ผมคุยกับพี่สมพรตรงๆ เลยว่าทำยังไง แกก็บอกว่าถ้าอยากรู้ต้องวิ่ง ต้องรู้ด้วยตัวเองแล้วจะเก่ง ตั้งแต่นั้นผมตั้งเป้าหมายให้ตัวเองเลยว่า ใน 1 เดือนต้องทำโบนัสให้ได้”   

เอาโปรโมชั่นมาตีโจทย์….วิ่งยังไงให้ได้ตามเป้า

 “หลังจากตั้งเป้าสิ้นเดือนผมทำโบนัสได้จริงๆ เห็นเงินก็ดีใจ มันได้เยอะมาก จากนั้นมีโปรโมชั่นอะไรมา เริ่มอ่าน เริ่มตีโจทย์ แล้วก็มาได้พี่อนุชามาช่วยสอน ผมถามเขาว่าจะตีโจทย์ยังไงดี เหมือนผมมีเซียนมาสอนให้ทั้งคู่ทั้งพี่สมพรกับพี่อนุชา พอตีโจทย์ได้ อาทิตย์แรกได้มา 9,000 กว่าบาท จนมีอาทิตย์หนึ่งผมวิ่งได้ 24,000 บาท ทุกวันนี้มีโปรโมชั่นเช้า โปรโมชั่นเย็น ผมจะไม่พลาดเลย ผมตื่นตั้งแต่ตี 3 ครึ่ง เพื่อออกจากรังสิต คลอง 4 วิ่งเข้าโซนแถวๆ สุทธิสาร ถึงโซนประมาณตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มทำงานกันแล้ว 

ทำงานกันเป็นทีมมีแต่ได้กับได้ 

“กลุ่มผมจะวิ่งงานเช้าประมาณ 3-4 คัน ทุกคนจะไม่วิ่งซ้ำทางกัน เราจะวางแผนว่าใครจะวิ่งตรงไหน ทำงานกันเป็นทีมเลย โซนจุฬาผมน่าจะเป็นชุดแรกที่เข้ามาทำให้เด็กจุฬาฯ รู้จักไลน์แมนแท็กซี่ และยิ่งช่วงสงกรานต์รายได้ท่วมท้นมาก วันที่ 13 เมษายน ผมวิ่งไป 42 งาน ช่วงสงกรานต์ 4 วันเงินสะพัดกันมาก ผมทำเงินได้ 3 หมื่นกว่าบาท วิ่งรถมาไม่เคยทำเงินได้เยอะขนาดนี้ เล่าให้ใครฟังไม่มีใครเชื่อ นอกจากคนที่วิ่งไลน์แมนด้วยกันถึงจะเชื่อ”  

วางแผนสร้างรายได้กันอาทิตย์ต่ออาทิตย์

“มาขับไลน์แมนแท็กซี่เราไม่มองรายได้เป็นรายเดือนแล้ว มองกันต่อวัน ต่ออาทิตย์เลย ทุกวันอาทิตย์พอโปรโมชั่นออกปุ๊บ ในกลุ่มทุกคนจะส่งแผนที่มาให้ผม ซึ่งผมจะมีฉายาในกลุ่มว่า “มหาเทพ และ เจ้ากรมแผนที่” พอผมได้แผนที่มาปุ๊บดูเลยว่าขอบเขตนี้อยู่ไหนถึงไหน เอาแค่สี่มุม ก็วางแผนว่าจะวิ่งยังไง รับงานตรงไหนถึงจะได้” 

ผมคือตัวอย่างของคนที่เปลี่ยนทัศนคติแล้วชีวิตเปลี่ยน

“แท็กซี่ถ้าไม่รักการขับรถมันขับไม่ได้นะ มันต่างกันนะระหว่างคำว่า “อาชีพแท็กซี่” กับ “แท็กซี่มืออาชีพ” ถ้าอาชีพแท็กซี่คือวันๆ ขับๆ ไป แต่ถ้าคุณเป็นแท็กซี่มืออาชีพ คุณจะขับรถด้วยจิตสำนึกของการบริการลูกค้า นี่คืออาชีพเรา เราจะทำเสียไม่ได้ ดังนั้นถ้าทัศนคติคุณเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน ดูผมเป็นตัวอย่าง ผมเปลี่ยนทัศนคติจากอคติกับการวิ่งแอพฯ ลองมาขับไลน์แมนแท็กซี่ ชีวิตผมเปลี่ยนไปเลยนะ รายได้เพิ่มขึ้น ความเป็นอยู่เปลี่ยนไป เงินเก็บมีเยอะขึ้น ใช้หนี้ได้เกือบหมด” 

เชื่อมั่นเต็มร้อย เดินหน้าเต็มตัว 

“ทุกวันนี้ไม่มีข้ออ้างในการวิ่งไลน์แมนแท็กซี่ เชื่อเต็มร้อย เดินหน้าอย่างเดียว สิ่งที่ไลน์แมนแท็กซี่มอบให้นอกจากรายได้คือ เราได้เพื่อน ได้คนที่ดีๆ เข้ามาอยู่ในสังคมที่ดี ทุกคนไม่มีการเอาเปรียบกัน ทุกคนแชร์งานกัน แชร์เทคนิค พอเดือนหนึ่งก็นัดเจอกัน กินเลี้ยงกันเต็มที่มันเป็นสังคมที่คนขับแท็กซี่ต้องการ” 

        ต้องขอบคุณไลน์แมนแแท็กซี่ที่เกิดขึ้นมาในช่วงที่คนขับแท็กซี่ทุกคนแทบจะหมดหวัง เพราะเศรษฐกิจตกต่ำ ทุกอย่างแพงหมด ทุกคนเป็นหนี้ แต่แท็กซี่ที่มาวิ่งไลน์แมนแท็กซี่ ทุกคนปลดหนี้ได้ ทุกคนมีเงินเก็บ ถ้าไม่มีไลน์แมนพวกผมไม่ได้ลืมตาอ้าปากแบบนี้ 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0