นี่มันปี 2020 แล้ว เรื่องความเท่าเทียมทางเพศสภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนเข้าใจได้ กระแสเคลื่อนไหวเรียกร้องของผู้คนและผู้หญิงทั่วโลกเกิดขึ้นมากมายเพื่อให้เกิดมาตรฐานทางชีวิตที่เท่าเทียมกัน แต่รู้ไหมว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันวงการบันเทิงยักษ์ใหญ่อย่าง Hollywood ที่เป็นอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดของโลก กลับกลายเป็นพื้นที่ที่เหลื่อมล้ำด้านรายได้ระหว่างเพศหญิง-เพศชายมากที่สุด ซึ่งปัญหานี้ไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังเลยแม้แต่น้อย แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีการเรียกร้องอย่างต่อเนื่องจากนักแสดงทั้งชายและหญิงให้คนในแวดวง Hollywood ใส่ใจในความเท่าเทียมของทุกคน ทั้งเรื่องการปฏิบัติจากทีมงานและจากสื่อมวลชน
.
จากข้อมูลเชิงสถิติด้านรายได้ของนักแสดง Hollywood ทั้งเพศชายและเพศหญิง นิตยสารอย่าง The Irish Times และ Forbes ได้เปิดเผยอันดับนักแสดงที่มีค่าตัวสูงที่สุดในปี 2019 พบว่า Dwayne Johnson คือนักแสดงชายที่มีค่าตัวสูงสุด ค่าตัวของเขาสูงกว่า 89 ล้านเหรียญ ขณะที่ Scarlett Johansson คือนักแสดงหญิงที่ได้รับค่าตัวสูงสุดในปี 2019 แต่ค่าตัวของเธออยู่ที่ 56 ล้านเหรียญเท่านั้น ความต่างของรายได้ทั้งคู่เรียกว่าทำให้หลายคนต้องอ้าปากค้างเลยทีเดียว ต่อให้เป็นนักแสดงในวงการทั่วไป ค่าเฉลี่ยของรายได้นักแสดงชายและหญิงก็ยังแตกต่างกันเป็นอย่างมากอยู่ดี ค่าเฉลี่ยรายได้ของนักแสดงชายอยู่ที่ 65-89 ล้านเหรียญ ในขณะที่นักแสดงหญิงนั้นได้รับเพียง 35-56 ล้านเหรียญ
.
ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมานักแสดงหญิงและคนในวงการจะยอมทนกับความเหลื่อมล้ำ พวกเขาได้คร่ำหวอดผ่านประวัติศาสตร์การต่อสู้เรื่องนี้มาอย่างไม่จบไม่สิ้น
อย่างภาพยนตร์ crime-thriller เรื่อง All the Money in the World ( 2017) ที่มีการถ่ายซ่อมนั้น พระเอกอย่าง Mark Wahlberg ได้รับค่าตัวสำหรับการมาถ่ายซ่อมสูงถึง 1.5 ล้านเหรียญ แต่ Michelle Williams นางเอกที่ต้องยกเลิกงานอื่นเพื่อมาถ่ายให้ทีมงาน กลับได้รับค่าตัวของการถ่ายซ่อมเพียง 1,000 เหรียญ คุณพระ เธอได้ค่าตัวเพียง 0.7% เมื่อเทียบกับค่าจ้างของนักแสดงชาย นี่มันเกินไปแล้ว!
พอเรื่องนี้แดงขึ้นมาก็กลายเป็นเรื่องสั่นสะเทือนสร้างความโกรธแค้นให้กับนักแสดงผู้หญิงหลายคนในวงการเลยทีเดียว จนมาร์กตัดสินใจบริจาคค่าตัวทั้งหมดให้กับมูลนิธิต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศในนามของมิเชล เพื่อแสดงจุดยืนว่าเขาเองก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการสร้างค่านิยมความต่างนี้เช่นกัน
อีกกรณีนี้เพิ่งเกิดไปไม่กี่ปีมานี้ นั่นก็คือภาพยนตร์เอเชียที่ตีตลาดโลกได้สำเร็จอย่างเรื่อง Crazy Rich Asians ที่ประสบความสำเร็จจากฝั่งเอเชียและอเมริกาอย่างมหาศาล ทำให้ทีมงานมุ่งมั่นที่จะปั้นภาคต่อของหนังเรื่องนี้อีกมากทันที แต่ Adele Lim นักเขียนบทหญิงที่ร่วมสร้างภาคแรกได้ประกาศลงโซเชียลมีเดียของตัวเองทันทีว่าถอนตัวจากการเขียนเรื่องนี้ถาวร เพราะเพิ่งทราบว่าค่าจ้างของเธอน้อยกว่าเพื่อนร่วมเขียนบทชาย 10 เท่า แม้พวกเขาจะทำงานร่วมกันก็ตาม นี่แสดงให้เห็นเลยว่าการเป็นนักแสดงหรือคนเบื้องหลังก็ไม่มีผล เพราะความคิดนี่ต่างเป็นสิ่งที่เพื่อนร่วมวงการเจอกันทั้งนั้น
หรือแม้แต่ภาพยนตร์ Romantic Comedy ในตำนานรักหลงรักร้าวของแบรด พิตต์ และแอนเจลีนา โจลี อย่างเรื่อง Mr.&Mrs. Smith ที่ทั้งสองแสดงได้โดดเด่นและสมน้ำสมเนื้อไม่แพ้กัน แต่นางเอกอย่างโจลีกลับได้ค่าจ้างแค่ครึ่งเดียวของอดีตสามี ต้องบอกว่าค่าตัวการเล่นหนังเรื่องนั้นของแบรด พิตต์สูงอยู่ที่ 20 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
.
แถมอีกนิดว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในที่ Hollywood อย่างเดียว อุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ด้านวงการบันเทิงอีกแห่งหนึ่งอย่าง Bollywood เองก็พบเช่นเดียวกัน ค่าตัวนักแสดงชายบางเรื่องนั้นสามารถเอามาแบ่งจ่ายให้นักแสดงผู้หญิงชั้นนำของประเทศได้ 3-5 คน แต่ในกรณีของ Bollywood นั้นมีความเข้มข้นของค่านิยมที่เชื่อว่าชายเป็นใหญ่ในสังคมมาเกี่ยวข้อง นักแสดงหญิงส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าออกมาเรียกร้อง เพราะเสี่ยงที่จะถูกโปรดิวซ์หรือผู้กำกับปลดออก
.
กรณีของสื่อมวลชนและการตั้งคำถามจากคนทางบ้านที่มีต่อนักแสดง Hollywood เพศหญิงเองก็ตกเป็นประเด็นเช่นเดียวกัน ว่าแท้จริงแล้วในสังคมนักแสดงหญิงเคยได้รับการปฏิบัติจากสังคมเท่าเทียมกับเพศชายจริงๆ หรือไม่ พวกเธอจำเป็นต้องโชว์เนื้อหนังมากกว่าอยู่เสมอเพื่อให้ได้รับความนิยมและค่าจ้างที่เหมาะสมงั้นหรอ
อย่างนักแสดงสาวมากฝีมือ Scarlett Johansson ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากภาพยนตร์ของ Marvel เธอเจอปัญหาว่าในช่วงประชาสัมพันธ์หนังกลับไม่มีนักข่าวคนไหนพูดถึงฝีมือการแสดงหรือบทบาทของเธอ เธอกลับได้รับคำถามจากนักข่าวที่สัมภาษณ์ในช่วงนั้นทำนองเดียวกันว่า เธอลดน้ำหนักอย่างไรเพื่อให้ใส่ชุดในหนังได้ หรือไม่ก็คำถามประเภทว่าเธอมีเคล็ดลับในการใส่ชุดชั้นในอย่างไรใต้ชุดหนังรัดแน่นขนาดนั้น ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่พอใจกับคำถามที่ถามออกมาเป็นอย่างมาก เธอไม่เคยได้รับคำถามที่โชว์ความคิดเห็นและความสามารถของตัวเอง เมื่อเทียบกับนักแสดงชายที่ให้สัมภาษณ์ในห้องเดียวกัน
.
แต่ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องแย่ๆ ในสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำนี้ ช่วงปีที่ผ่านมาก็มีนักแสดงหลายคนใน Hollywood ลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อความเท่าเทียมระหว่างนักแสดงหญิงและชายมากขึ้น นักแสดงชายชั้นนำหลายคนที่ออกมาประกาศกับทางผู้จัดและสตูดิโอว่า หากงานไหนให้ค่าตัวของนักแสดงชายและนักแสดงหญิงไม่เท่ากัน เขาจะไม่รับร่วมงานด้วยเด็ดขาด หนึ่งในคนที่ประกาศแบบนั้นก็คือสุดหล่อ Benedict Cumberbatch ด้วย!
.
ถ้าพูดกันแบบเจาะลึกไปแล้ว ความเหลื่อมล้ำในเชิงปฏิบัติของคนในวงการ Hollywood นั่นยิบย่อยมาก ไม่ใช่แค่การแบ่งแยกชายและหญิงเท่านั้น ไม่นานมานี้เพิ่งมี Beauty Blogger ระดับโลกที่เป็นหญิงข้ามเพศออกมาเปิดเผย ยามที่เธอได้รับเชิญไปออกรายการ Talk Show ดังต้นๆ ของอเมริกา เธอได้รับการต้อนรับที่ไม่น่าประทับใจ ไม่มีการทักทายจากเจ้าของรายการ มีเพียงนักศึกษาฝึกงานเท่านั้นที่ต้อนรับเธอด้วยความหงุดหงิด เธอไม่มีห้องพักและห้องน้ำส่วนตัวเหมือนนักแสดงและแขกรับเชิญคนอื่น ซึ่งนั่นทำให้เธอสงสัยในจุดยืนของตัวเองไม่น้อย
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนอาจจะยกมือบอกว่า 'ไม่ต้องเป็นนักแสดง หรือเรื่องของวงการ Hollywood เรื่องการแบ่งแยกและถือปฏิบัตินี้ก็เกิดขึ้นได้' ซึ่งถูกต้องแล้ว เพราะงั้นเอาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำในทุกด้านของสังคมจะหมดไปจากโลกเมื่อไหร่ แต่เราก็หวังว่าหอคอยของโลกอย่างวงการ Hollywood ที่มีพลังในการชี้นำและมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่บนโลก จะหาวิธีแก้ปัญหาและหันมาเคารพความเท่าเทียมของทุกเพศสภาพกันมากขึ้น เพราะเมื่อมีผู้นำที่ดี สามารถสื่อสารในสิ่งที่เหมาะสมและสร้างความเข้าใจได้แล้ว เราเชื่อว่าจะมีผู้ตามที่ดีอีกมากมายที่จะเริ่มเคารพและปฏิบัติต่อทุกคนรอบข้างอย่างเท่าเทียม ทั้งในแง่การยอมรับและรายได้
ลองดูอย่างหนุ่ม Benedict เป็นตัวอย่าง! พอเขาออกมาก็มีนักแสดงชายวัยไล่เลี่ยกันอีกมากมาย รวมถึงคนเบื้องหลังที่เริ่มคล้อยตามและแสดงจุดยืนสนับสนุนนโยบายการจ้างงานที่เป็นธรรมมากขึ้น มองในแง่ดีและมีความหวังในชีวิต ถ้าเราเริ่มชี้ชวนให้คนอื่นรู้สึกแบบเดียวกัน หอคอยเหลื่อมล้ำนี่ก็จะทลายได้ แม้ต้องใช้เวลาก็ตาม
.
ติดตามบทความของเพจพื้นที่ให้เล่า ได้บน LINE TODAY ทุกวันเสาร์
.
