“ช่วยให้มีสมาธิจดจ่อต่อกิจกรรมตรงหน้าได้มากขึ้น”
“ช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้มีความสุขมากขึ้น”
“ช่วยเพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์ได้”
อ่านแล้วคิดว่าเป็นสรรพคุณของยาชนิดไหนคะ จะบอกว่าไม่ใช่ค่ะ แต่นี่คือประโยชน์ของ ‘ต้นไม้’ สีเขียว ๆ รอบตัวเรานี่เอง หลายคนอาจเกิดคำถามว่า จริงหรือ แค่ปลูกต้นไม้ก็หายเครียดได้ ห้องแนะแนววันนี้จะชวนทุกคนอ่านเรื่องราวดี ๆ ของการปลูกต้นไม้กันค่ะ
หลังจากใช้ชีวิตในบ้านกันมาสักพักใหญ่แล้วนะคะ หลายคนแทบไม่ได้ออกไปไหนเลย กิจกรรมทำอยู่บ้านกลายเป็นเรื่องป๊อปปูล่าในโลกออนไลน์ ทำอาหาร, ขายของออนไลน์, อัดคลิปเต้น อีกอย่างหนึ่งที่บูมไม่แพ้กันก็คือ ‘ต้นไม้’ โดยเฉพาะเทรนด์การปลูกต้นไม้ในห้อง มาแรงจริง ๆ ค่ะ ทั้งยางอินเดีย, ไทรใบสัก, ซานาดู ฯลฯ แม้แต่ผู้เขียนเองก็กำลังอินกับการสร้างพื้นที่สีเขียวรอบตัว วัน ๆ สั่งแต่ต้นไม้ออนไลน์ เวลาว่างก็รดน้ำ เช็ดใบ เพลิดเพลินใจ
ต้นไม้ช่วยคลายเครียดได้จริงไหม
จากผลสำรวจของ Arboretum พบว่า 42% จาก 2,000 คน หรือประมาณ 840 คน รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเมื่อได้อยู่ท่ามกลางต้นไม้หรือบรรยากาศเขียวขจี ย้ำกันอีกต่อด้วยงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Chungnam เกาหลีใต้ ที่ได้ทำการทดลอง โดยแบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งคนเหล่านี้จะเป็นตัวแทนของวัยทำงานยุคโมเดิร์นแบบปัจจุบัน เริ่มจากให้กลุ่มแรกทำงานหน้าคอมตามปกติ ส่วนอีกกลุ่มให้ทดลองทำกิจกรรมเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ จากนั้นก็สลับบทบาทกัน ผลลัพธ์พบว่า เมื่อแต่ละกลุ่มได้ใช้เวลาปลูกต้นไม้ กลับเกิดประโยชน์ต่อทั้งทางกายและใจอย่างมีนัยยะสำคัญ
อย่างแรก ห้วงอารมณ์ของคนทั้งหมดในขณะปลูกต้นไม้จะรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ และรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่าตอนทำงานหน้าคอม ลามไปถึงการทำงานของร่างกาย พบว่าความดันโลหิตจะสูงขึ้นเมื่อต้องทำงานหน้าคอม และผ่อนคลายลงเมื่อได้ปลูกต้นไม้ รวมไปถึงการทำงานของหัวใจที่มีแนวโน้มเชิงบวกเช่นกัน เห็นไหมล่ะคะว่า แค่มีต้นไม้อยู่รอบกายก็ช่วยให้จิตใจสงบลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
และในอีกหลายงานวิจัยช่วยยืนยันว่าการปลูกต้นไม้ดีต่อใจของมนุษย์เรา ไม่ว่าจะเป็น
-ช่วยให้มีสมาธิจดจ่อต่อกิจกรรมตรงหน้าได้มากขึ้น
-ช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้มีความสุขมากขึ้น
-ช่วยเพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมี ‘สวนบำบัด’ หรือ Social and therapeutic horticulture ซึ่งคิดค้นขึ้นมาโดย เบนจามิน รัช จิตแพทช์ชาวอเมริกัน เป็นการใช้ธรรมชาติบำบัดสภาพจิตใจของผู้ป่วย ซึ่งบางคนรักษาตัวจนเกิดความเครียด,บางคนไม่สบายทางใจ โดยให้ผู้ป่วยได้ใช้เวลาอยู่กับต้นไม้ใบหญ้าในสวน ควบคู่ไปกับการรักษาอื่น ๆ พบว่า ธรรมชาติสามารถบำบัดผู้ป่วยได้ในหลายมิติ ทั้ง
1.ทางกาย
การทำกิจกรรมต่าง ๆ ขณะใช้เวลาในสวนสามารถพัฒนาความแข็งแรง และฟื้นฟูการใช้งานกล้ามเนื้อในร่างกายได้ เช่น ออกกำลังกายในสวน, ปลูกต้นไม้
2.ทางใจ
แน่นอนว่าการได้พักสมอง พักความทุกข์ ช่วยเยียวยาจิตใจที่ห่อเหี่ยวให้กลับมามีความสุขได้อีกครั้ง
3.ทางสังคม
การเข้าร่วมกิจกรรมบำบัดกับผู้ป่วยคนอื่น จะช่วยให้มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ดียิ่งขึ้น
4.ทางสติปัญญา
การใช้เวลาพักผ่อนในสวนจะทำให้มีสมาธิ มีสติมากยิ่งขึ้น ช่วยพัฒนาการใช้ชีวิตและทำหน้าที่อื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
และในปัจจุบันในประเทศไทยเองก็เริ่มใช้การบำบัดทางเลือกนี้มากขึ้นเช่นกัน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะค่ะ แค่ต้นไม้เพียง 1 ต้นก็ช่วยให้เราแฮปปี้ขึ้นมาได้ ซึ่งหลังจากที่ผู้เขียนได้ทดลองปลูกต้นไม้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ช่วง Work from home เดือนกว่า ๆ ที่ผ่านมา ยืนยันอีกเสียงค่ะว่า มีความสุขมากขึ้นจริง ๆ เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเครียดมากเกินไปแล้วก็จะหันไปรดน้ำต้นไม้, อ่านบทความการปลูกต้นไม้, ดูเพื่อน ๆ อวดภาพต้นไม้ในเฟซบุ๊ก รวมไปถึงกด CF ต้นไม้จากแหล่งขายต่าง ๆ เรียกได้ว่า มีอะไรทำเพื่อผ่อนคลายจิตใจมากขึ้นเยอะเลยค่ะ ตอนนี้จาก 2-3 ต้นก็เต็มห้องไปหมดแล้วจ้า
เห็นไหมคะว่าต้นไม้ให้ประโยชน์กับเราได้มากกว่าร่มเงา เพราะการปลูกต้นไม้ก็เหมือนการปลูกหน่อความสุขในใจนั่นแหละค่ะ ใครที่ยังรู้สึกเครียด ลองหันมาเลี้ยงต้นไม้เล็ก ๆ สักต้นสองต้นดูนะคะ จะช่วยให้คุณแฮปปี้ขึ้นอีกเป็นกองเลยล่ะค่ะ
.
อ้างอิง