จากกรณีที่นางพรประภา ปิ่นสุข ได้ก่อเหตุยิงพล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข สามีจนเสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ผู้ต้องหา เริ่มมีอาการผ่อนคลายจากอาการช็อค และสามารถให้การกับตำรวจได้แล้ว เบื้องต้นทราบว่าเป็นปัญหาความเครียดในครอบครัวที่สะสมมาเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ไม่สามารถเปิดเผยได้
ขณะเดียวกันทางญาติของผู้ก่อเหตุก็ได้เตรียมหลักทรัพย์จำนวน 5 แสนบาทเพื่อยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนหลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำ โดยคาดว่าพนักงานสอบสวนอาจให้ประกันตัว เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติกรรมการหลบหนี และ ยอมรับสารภาพ ตรงตามเงื่อนไขการประกันตัว ทั้งนี้ตำรวจได้มีการตรวจสอบคราบเขม่าดินปืน และ เก็บหลักฐาน จากตัวผู้ก่อเหตุไว้เรียบร้อยทั้งหมดแล้ว เพื่อใช้ในการประกอบสำนวนคดีต่อไป
แต่ทว่าล่าสุดมีรายงานความคืบหน้าคดีจาก พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก.สน.ธรรมศาลา หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนางพรประภา ปิ่นสุข ผู้ต้องหาคดีฆ่า พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข สามีจนเสียชีวิต ให้การรับสารภาพว่าได้เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงสามีจนเสียชีวิต โดยสาเหตุมาจาก เรื่องความเครียดปัญหาส่วนตัว ภายในครอบครัว ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
สาวโรงงาน ถูกบูลลี่ หลังฝึกพูดภาษาอังกฤษ พอได้ฟังสำเนียงทำอึ้งทั้งโซเชียล
เจ้าของแทบทรุด หลังแมวหายจากบ้านนับเดือน ก่อนเจออีกทีทำเอาเสียใจหนักมาก
จอย ชวนชื่น เคลียร์ชัด หลังถูกมองตกอับ ผันตัวเป็นแม่ค้าตามงานวัด
จากนั้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 หลังจากที่บันทึกถ้อยคำและเก็บหลักฐานของผู้ก่อเหตุเสร็จสิ้นแล้ว บุตรสาวของ พล.ต.ท.ปัญญา ซึ่งมาอยู่คอยดูแลแม่ตลอดทั้งคืน และได้ยื่นเงินสดเป็นหลักทรัพย์จำนวน 5 แสนบาท ขอประกันซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้อนุญาตให้ประกันตัวเนื่องจาก มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่พบว่าจะมี พฤติกรรมการหลบหนี และจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานพร้อมกับยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา จึงเข้าหลักเกณฑ์ที่จะให้ประกันตัว
ต่อมามีรายงานว่า หลังจากที่นางพรประภา ปิ่นสุข ได้ประกันตัว จะไปอยู่อาศัยในความดูแลของลูกสาว เพราะไม่อยากเข้าไปยังจุดเกิดเหตุอีก หากกลับไปเจอสภาพบ้านจะทำให้เกิดความเครียด เพราะทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบกับบ้านหลังดังกล่าวอยู่เพียงแค่สอง เกรงว่าจะไม่มีใครดูแลสภาพจิตใจในขณะนี้
โดย นายชัยรัตน์ เชาวลิตพิเชฐ์ เพื่อนบ้านคนหนึ่งที่ได้ไปอุ้มร่างของ พล.ต.ท.ปัญญา ในวันเกิดเหตุ ได้เล่าว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนเพิ่งกลับมาจากซักผ้า ขับรถผ่านมาถูกช่างเหล็กเรียกให้เข้าไปช่วยนายตำรวจ ตอนนั้นตนไม่ได้คิดอะไร แค่จะเข้าไปช่วยเท่านั้น แต่ไม่กล้าเข้าไปในบ้านจึงรอให้ครบ 4 คนแล้วเข้าไปพร้อมกันเมื่อมาครบจึงพากันขึ้นไปชั้น 2 พบ ร่างของนายตำรวจนอนอยู่ที่พื้นในห้องทำงานฝั่งริมน้ำในลักษณะนอนหงาย จมกองเลือด และด้านข้างมีผ้าขนหนูซับเลือดวางอยู่ แต่ไม่ได้สังเกตว่ามีปืนอยู่ในจุดเกิดเหตุหรือไม่ รวมถึงยอมรับว่าวินาทีนั้นไม่ได้สังเกตว่าร่างผู้เสียชีวิตยังหายใจอยู่หรือไม่ คิดแต่เพียงว่าจะนำร่างออกมาเท่านั้น
แต่พอมาถึงชั้นล่างไม่สามารถนำร่างขึ้นรถได้ เนื่องจากมีน้ำหนักมากก่อนที่เพื่อนบ้านรายหนึ่งจะทักว่าหากเสียชีวิตไม่ควรเคลื่อนย้ายศพ ทุกคนจึงตัดสินใจวางร่างไว้กับพื้น รอการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมา พล.ต.ท.ปัญญาและภรรยา ไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่ได้ยินเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันมานานแล้วครั้งล่าสุดคือเมื่อหลายปีที่แล้ว
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่สังเกตการณ์บริเวณหน้าบ้านเกิดเหตุพบว่าประตูรั้วปิดแต่แม่บ้านยังคงเข้ามาทำงานตามปกติ แต่ไม่ออกมาพูดคุยกับผู้สื่อข่าว
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews