การทดลองขังคนในถ้ำ ขังเดี่ยว นาน 4 เดือน ผลปรากฎว่า …
จากกรณีที่เด็ก ๆ นักเตะ และโค้ชทั้ง 13 คน ได้ติดอยู่ในถ้ำหลวงนางนอนเตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา จนกระทั่งวันนี้ 2 กรกฎาคม เป็นเวลา 9 วัน ที่พวกเขาต้องอยู่ในความมืด และอีกไม่นานพวกเขาจะได้ออกมาสู่โลกภายนอก หลายคนอาจจะสงสัยว่า อยู่ในถ้ำมืด ๆ ตั้ง 9 วัน ออกมาพวกเขาจะเป็นอย่างไรกันบ้าง วันนี้เรามีเคสการทดลองมาให้ดูกันเล่น ๆ เป็นการทดลองขังคนในถ้ำ เป็นเวลา 4 เดือน แต่ในกรณีนี้ ผู้เข้าร่วมการทดลองจะอยู่ในถ้ำที่ปราศจากแสงอาทิตย์ แต่มีแสงจากดวงไฟ ผลจะเป็นอย่างไรบ้าง ลองไปดูกันได้เลย
การทดลองขังคนในถ้ำ นาน 4 เดือน
ในปี 1965 นักวิทยาศาสตร์ต้องการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบทางด้านจิตใจ และร่างกายในมนุษย์ ที่เกิดจากการถูกขังไว้ในที่มืดเพียงลำพัง ในการทดลองครั้งนั้นมีอาสาสมัคร 2 คน คือ โจซี่ ลอเรส หมอตำแย และ แอนโทนี เซนนิ ช่างทำเฟอร์นิเจอร์ ทั้งสองถูกขังอยู่ในถ้ำที่แยกจากกัน บริเวณเทือกเขาแอลป์ ประเทศฝรั่งเศส
88 วันผ่านไป โจซี่ ได้ออกมาจากถ้ำ เธอคิดว่าวันนั้นเป็นวันที่ 25 กุมภาพันธ์แต่จริง ๆ แล้ว มันคือวันที่ 12 มีนาคม ส่วนเซนนิ ได้ออกมาจากถ้ำหลังจากผ่านไป 126 วัน เขาคิดว่ามันเป็นวันที่ 4 กุมภาพันธ์ แต่ความจริงแล้วเป็นวันที่ 5 เมษายน
การทดลองขังคนในถ้ำ ขังเดี่ยว นาน 4 เดือน
อยู่โดดเดี่ยว ในถ้ำ ไม่มีแสงสว่าง
หลังจากที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวในถ้ำ ที่ไม่มีแสงสว่างบ่งบอกวันและเวลา พวกเขามีสุขภาพกายและสุขภาพจิตเป็นปกติดีทุกอย่าง แต่การนอนหลับ และการรับรู้ด้านเวลาของทั้งสองคนกลับรวนไปหมด
มีอยู่ครั้งหนึ่งเซนนิต้องการจะนอนเพียวครึ่งชั่วโมง แต่เขากลับหลับยาวไปถึง 30 ชั่วโมง และตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกเหมือนว่าเขาได้งีบไปแค่ไม่ถึงชั่วโมง
นักวิทยาศาสตร์พบในภายหลังว่า..
เมื่อไม่มีสิ่งที่บ่งบอกเวลาอย่างแสงอาทิตย์ หรือนาฬิกา มนุษย์สามารถนอนหลับได้ยาวถึง 48 ชั่วโมง
อาสาสมัคร…
ถึงแม้ว่าอาสาสมัครทั้งสองจะผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ แต่พวกเขาก็ยอมรับว่ามันไม่สนุกเอาซะเลย หลังจากที่ออกมาจากถ้ำ ลอเรสได้ให้สัมภาษณ์ว่า
“ฉันมีความสุขมากที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ ตอนอยู่ข้างในถ้ำมันทำให้ฉันลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก ตอนแรกฉันพยายามจะอ่านหนังสือ แต่อ่านได้นิดเดียวก็เริ่มเบื่อ เทปที่จะเอาเข้าไปฟังก็พังตั้งแต่สามวันแรก ฉันเลยพยายามซ่อมจนใช้ได้ นอกจากนั้นก็มีถักนิตติ้งบ้าง แต่ที่สำคัญคือฉันตั้งหน้าตั้งตารอวันที่จะได้ออกไปเจอแสงอาทิตย์ข้างนอก”
ขอบคุณที่มาจาก: mentalfloss
Written by: Typrn