โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ทุกคน...ต่างกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่เราคาดไม่ถึงอยู่ - อั๋น ภูวนาท

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 08 มี.ค. 2563 เวลา 17.00 น. • อั๋น ภูวนาท

“ทุกคน…ต่างกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่เราคาดไม่ถึงอยู่” 

ทุกชีวิตคือตำราเล่มใหญ่ ผมรู้สึกซาบซึ้งใจและเป็นเกียรติทุกครั้งในฐานะพิธีกรที่แขกรับเชิญไว้ใจแบ่งปันหลายมุมจากประสบการณ์จริงของชีวิตเขามาเล่าให้เราฟัง ทั้งใน "รายการคลับฟรายเดย์โชว์" หรือแม้แต่ล่าสุดกับ "ต้มยำอัมรินทร์" **ที่อั๋นทำอยู่ เคยมีบางคนมาคอมเม้นต์ว่าทำไมพี่อั๋น พี่อ้อยพี่ฉอดถึงชอบเอาเรื่องชีวิตรักของคนอื่นมาแชร์ให้คนเค้ามีปัญหากัน เชื่อไหมว่าคนที่พูดอย่างนั้นมั่นใจได้เลยว่าไม่เคยดูรายการและเมื่อคลับฟรายเดย์โชว์คือพื้นที่ของการรับฟังกันเรื่องของชีวิตและความรัก ใจคอจะให้หักมุมไปคุยเรื่องหุ้นกันรึยังไงละจ๊ะ 

ล่าสุด แคทรียา อิงลิช เพื่อนสาวสวยคนเก่งของผม หนึ่งในนางเอกดังดาวค้างฟ้าของวงการ แวะเวียนมาเปิดใจคุยกัน โดยไม่คาดฝัน อั๋นเพิ่งรู้จากปากเธอว่าเกือบตลอด 10 ปีที่ผ่านมานั้น แคทป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจนถึงขั้นต้องพบแพทย์และทานยามาโดยตลอด อาการเริ่มตั้งแต่ช่วงเพลงฮูลาฮูล่า-ผีเสื้อราตรีกำลังดังสุด ๆ ยุคนั้นเลยแหละ

“Everyone is fighting a battle you know nothing about.

Be Kind.

Always” -Brad Meltzer

ทุกคนที่เราพบเจอ ล้วนกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างที่เราคาดไม่ถึงอยู่กันทั้งนั้น เพราะฉะนั้น มีเมตตาต่อผู้อื่นเสมอกันเถอะนะ

ข้อความนี้ลอยขึ้นมาในหัวสมองทันที ก็ใครจะเชื่อว่าผู้หญิงที่มีพร้อมทุกอย่างในสายตาของคนทั้งโลกที่รู้จักเธอ สวย เก่ง ฉลาด เต้น ร้อง แสดง ชื่อเสียง เงินทองและเกียรติยศมากมาย จะกลับกลายเป็นคนที่มีมุมมืดมนเศร้าจนป่วยได้ขนาดนี้

“เคยดำดิ่งจนถึงเกือบจะคิดสั้นฆ่าตัวตายไหม” ผมถามด้วยความอยากเข้าใจจริง ๆ เชื่อไหม ในมุมที่ผมไม่เคยเห็น และไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็น เธอร้องไห้สะอื้นออกมาทันทีในแบบที่พวกเราต้องน้ำตาไหลตามกัน

“3วันที่แล้วนี่เอง! แคทปีนหน้าต่างจะโดดตึกต่อหน้าแม่ของแคท แม่ตกใจมาก จนทำอะไรไม่ถูกไปหมด”

เธอเล่าไปด้วยเสียงที่สั่นเครือ พร้อมน้ำตาที่ไหลพรากไม่หยุดจนหัวใจผมจุกแน่นไปหมด แต่แล้วในที่สุดการสัมภาษณ์ก็ดำเนินต่อไปสู่มุมอื่น ๆ ฉากใหม่ ๆ และสิ่งดี ๆ ผ่านเข้ามา รวมถึงความสำเร็จมากมายในวันนี้ที่ชีวิตของเธอกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง กับละครมากมายที่รอต่อคิวอยากให้เธอไปร่วมงานด้วยจนนับเรื่องไม่ถ้วน พร้อมกับเสียงหัวเราะและรอยยิ้มอันสดใสแบบที่พวกเราคุ้นเคยคุ้นใจในความเป็น แคทรียา อิงลิช พร้อมกับคำยืนยันย้ำ ๆ ก่อนลาว่า

"จะไม่ยอมแพ้ และไม่มีวันปล่อยให้หัวใจกลับไปสู่จุดต่ำสุดแบบนั้นอีกแล้ว"

หลังจบรายการวันนั้น เรานั่งคุยกันต่ออีกนานพอสมควร

"ถามจริง ๆ นะแคท ในช่วงเวลาแบบนั้น ถ้าบังเอิญมีใครสักคนอยู่ตรงนั้น เธออยากให้คนคนนั้นทำอะไร บางทีคนที่อยู่ตรงนั้นทำตัวไม่ถูกนะ" ผมถามต่อด้วยความคาใจ

“อยู่เฉย ๆ อย่าพูด อย่าสอน อย่าอธิบาย อย่าปลอบ อย่าพยายามเข้าใจ แล้วฟัง ฟังแบบไม่ต้องคิดว่าจะตอบอะไร หรือจะถามอะไรต่อไม่ต้องแสดงความคิดเห็นและตัดสิน แค่ฟัง..”

สิ่งที่แคทตอบทำให้ผมนึกถึงครั้งหนึ่งที่ผมมีโอกาสได้ไปฝึกอบรมสั้น ๆ กับสมาคมแห่งหนึ่งที่ดูแลคนที่คิดจะฆ่าตัวตายโดยเฉพาะ เค้าพูดถึงเรื่องเดียวกันนี้เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า เราทุกคนต้องรู้จักและฝึกที่จะฟังแบบ

“Deep Listenning” หรือ “การฟังอย่างลึกซึ้ง” ให้เป็น มันเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของบทเรียนในการช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ ความแตกแยกหรือแม้สงคราม เป็นการฟังที่สอนให้เราฟังแบบไม่ต้องคิดว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นผิดหรือถูกดี ดีหรือเลว เต็มไปด้วยความโกรธ หรือฉาบไปด้วยความเกลียดใด ๆ แค่ฟังอย่างตั้งใจเปิดใจ เห็นอกเห็นใจโดยมีจุดประสงค์เดียวใหญ่ ๆ คือคลายความเจ็บปวดในใจเขาโดยการระบายออกมา ด้วยการเริ่มต้นบอกให้เค้ารู้แค่ว่า "เรารู้ว่าเธอกำลังทุกข์ทรมานมาก เราเองยังไม่เข้าใจความยากลำบาก และทุกข์ที่เธอเป็นอยู่ได้มากเพียงพอหรอกนะ แต่เราอยากเข้าใจและเต็มใจที่จะเรียนรู้มันนะ ถ้าเธอจะเล่าให้เราฟัง"

และวันนั้นแคทก็เล่าให้ผมฟังจริง ๆ ส่วนผมก็พยายามฟังโดยพยายามจะไม่พูดอะไรเลยจริง ซึ่งทรมานคนพูดมากอย่างผมมากจนต้องนั่งฟังไปจิกเท้าตัวเองไปไม่ให้เผลอ

ก่อนจากกันวันนั้นเรากอดกันนิ่ง ๆ โดยไม่ได้พูดอะไรกันสักคำแต่กลับรู้สึกเหมือนได้คุยกันเป็นล้านคำ

4 ปีที่ไม่มีงานของ แคทลียา อิงลิช กับความคิดมากคิดน้อยใจสารพัดที่กัดกินความมั่นใจในคุณค่าของตัวเองนั้น น่าชื่นชมเหลือเกินที่วันนี้เธอเข้มแข็งพอ และกล้าที่จะพูดถึงมุมอ่อนแอมืดดำของตัวเองได้อย่างสง่างาม เพราะมันไม่ง่ายเลยกับการต้องประคองชีวิต พร้อมกับการแบกโรคซึมเศร้านั้นไว้บนบ่า จนกลับมายืนในวงการได้อย่างสว่างสดใสแถมยังสวยเป๊ะเหลือเกินอีกครั้ง

ผมตั้งใจเขียนถึงเพื่อนคนนี้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทั้งตัวของเธอเอง และใครอีกหลายคนที่อาจเคยรู้สึกไร้ค่าและรู้สึกว่าโลกนี้มันไม่น่าอยู่อีกต่อไป ให้ได้เห็นว่าอดทนอีกนิดเถอะนะ ยอมแพ้น่ะมันง่าย อยู่ให้ได้ท้าทายกว่าตั้งเยอะ

แม้ฟ้ามันจะไม่สวยทุกวัน แต่ฟ้ามันก็ไม่ได้มืดมนทุกวันเช่นกัน

ในแต่ละวัน จะมีช่วงเวลาที่ฟ้าสวยที่สุดซ่อนอยู่ ไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนไหนเมื่อไหร่ แต่มีอยู่..ทุกวัน

แล้วไม่อยากอยู่รอดูอีกซักหน่อยเหรอว่าฟ้าในวันพรุ่งนี้มันจะเปลี่ยนเป็นสีอะไร แล้วตอนไหนนะที่มันจะสวยที่สุด…

--

ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก อั๋น ภูวนาท ได้ทุกวันจันทร์ บน LINE TODAY

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...