วันนี้ (12 มิถุนายน 2563) นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ได้แถลงสรุปความจากการประชุมคณะกรรมการร่วมกับนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่ามติจากที่ประชุมอนุมัติให้ยกเลิกการบังคับใช้เคอร์ฟิว ระหว่างช่วงเวลา 23.00-03.00 น. โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป แต่ยังคงมาตรการควบคุมการเดินทางเข้า-ออกราชาอาณาจักร ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศต่อไป
สำหรับมาตรการคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 4 มีใจความสำคัญดังต่อไปนี้:
- เปิดโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนนอกระบบ สถาบันกวดวิชา หน่วยงานราชการ-กำกับของรัฐ ที่มีการอบรมสัมมนาหลักสูตรต่าง ๆ เปิดโรงเรียนขนาดเล็ก มีจำนวนักเรียนไม่เกิน 120 คน
- จัดงานอีเว้นต์ เปิดตัวสินค้า ประกวด แข่งขันกีฬา ต้องนั่งหรือยืนห่าง 1 ม. ขณะที่งานแสดงดนตรี คอนเสิร์ต ต้องมีมาตรการลดความหนาแน่น เว้นระยะ 5 ตารางเมตรต่อคน
- เปิดขายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภัตตาคาร สวนอาหาร โรงแรม ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มทั่วไป ยกเว้นสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ โรงเบียร์ โดยต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และมีความเป็นระเบียบ
- เปิดสถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน สถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก ศูนย์เด็กพิเศษ สถานดูแลผู้สูงอายุ ประเภทรายวัน โดยเด็กเล็กต้องเว้นระยะ 2 ตารางเมตรต่อคน
- กองถ่ายอนุญาตให้เพิ่มจำนวนทีมงานรวมทุกแผนกในกองถ่ายทำภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ ไม่เกิน 150 คน ส่วนผู้เข้าชมไม่เกิน 50 คน
- ธุรกิจอบตัว อบสมุนไพร หรืออบไอน้ำแบบรวมในสถานประกอบกิจการเพื่อสุขภาพ นวดแผนไทย ยกเว้นอาบอบนวด โดยทั้งหมดที่สามารถเปิดบริการได้ต้องเน้นให้บริการแบบแยกห้องเดี่ยว จำกัดจำนวนผู้ใช้ต่อรอบ เว้นระยะ 5 ตารางเมตรต่อคน
- เปิดให้ออกกำลังกายแบบกลุ่มในสวนสาธารณะ ลานกิจกรรม ลานกลางแจ้ง รวมไม่เกิน 50 คน เว้นระยะ 5 ตร.ม.ต่อคน, เปิดสวนน้ำ สนามเด็กเล่น สวนสนุก ยกเว้นเครื่องเล่นที่มีผิวสัมผัสมาก เช่น บ้านบอล บ้านลม
- เปิดให้บริการตู้เกม เครื่องเล่นหยอดเหรียญที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายและตั้งในห้าง ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์