โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ตอนที่ 9 นกอพยพครั้งที่ 2 - เรื่องย่อซีรีส์: "Mother เรียกฉันว่า...แม่"

LINE TODAY

เผยแพร่ 26 เม.ย. 2563 เวลา 17.01 น. • LINE TV

*อ่านเรื่องย่อซีรีส์ "Mother เรียกฉันว่า…แม่" ตอนใหม่! ก่อนใคร ทุกวันจันทร์ ที่ LINE TODAY

ทรายไปแจ้งความกับตำรวจปรักปรำทิชาว่ามีส่วนรู้เห็นกับตั้มในการลักพาตัวของขวัญเพื่อเรียกค่าไถ่จากวรินทรา แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเต็มที่ต้องสืบสวนก่อน ทรายโวยวายว่าที่เธอไม่ได้รับความช่วยเหลือเพราะเธอเป็นคนจน แต่ทิชาเป็นลูกของผู้มีอิทธิพล ขณะที่ทรายกำลังโวยวายอยู่นั้นที่สถานีตำรวจมีการแจ้งเหตุเข้ามาว่าเจ้าหน้าที่ยิงผู้ก่อเหตุคดีเรียกค่าไถ่จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทรายถูกพาไปชี้ตัวผู้ต้องหา

ในนาทีชุลมุน ทิชาส่งกระเป๋าเงินให้ตั้ม ฟ้าใสสะบัดตัวหลุดวิ่งหนีมาหาทิชา ตั้มเตรียมเหนี่ยวไกปลิดชีวิตทั้งคู่ แต่ตำรวจที่มาระงับเหตุยิงสวนเอาไว้ก่อน กระสุนพุ่งเข้ากลางลำตัวตั้มจนตั้มล้มลงเสียชีวิตแทบจะทันที ปราชญ์รีบฉวยโอกาสพาทิชากับฟ้าใสหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ

สุดซอยเปลี่ยวมัลลิกาจอดรถรออยู่ ปราชญ์บอกทิชาว่าให้หนีไปกับมัลลิกา แต่ทิชาไม่ยอมไป มัลลิกาขอร้องทิชาถ้ายอมไปกับเธอ มัลลิกาจะเล่าเรื่องราวในอดีตทั้งหมดให้ฟังว่าจริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงทิ้งทิชาไป ทิชาจึงยอมขึ้นรถในที่สุด

ยาย แม่ ลูก นั่งรถเก่าบุโรทั่งขับไปเรื่อย ๆ ตามท้องถนน ทิชาบอกให้มัลลิกาไปส่งที่สถานีขนส่งก็พอ แต่มัลลิกาไม่ยอมเพราะว่ามันเสี่ยงเกินไป ทิชาส่งสมุดบัญชีที่มัลลิกาฝากมากับฟ้าใสคืนให้มัลลิกา เธอไม่ต้องการรับเงินจากผู้หญิงคนนี้แม้แต่บาทเดียว มัลลิกาให้ทิชาดูให้ดีว่าเริ่มฝากเงินตั้งแต่ปีอะไร 

"2546" ฟ้าใสเป็นคนตอบ นั่นคือเมื่อ 17 ปีที่แล้ว มัลลิกาเริ่มต้นเล่าเรื่องราวอันเป็นข้อเท็จจริง คือแปลว่ามีทั้งความเท็จและความจริงในเรื่องราวให้ทิชาฟัง ปี 2546 เป็นปีที่มัลลิกาพันโทษ เธอติดคุกอยู่ 8 ปี ตั้งแต่ทิชาอายุประมาณ 7 ขวบ ทิชาอึ้ง ที่มัลลิกาทิ้งเธอ เพราะมัลลิกาไปติดคุกมา 

“ใช่ แม่ติดคุก เพราะว่าแม่ฆ่าพ่อ แม่ต้องฆ่าเขา ก่อนที่เขาจะฆ่าลูก”

หลังจากที่แม่ก่อเหตุสยดสยองแล้ว แม่ก็พาทิชาไปที่งานวัด เธอทิ้งทิชาเอาไว้บนชิงช้าสวรรค์และพยายามหลบหนีการจับกุม แต่ก็ไม่รอด เธอถูกตำรวจจับดำเนินคดีในขณะที่ทิชาถูกส่งตัวไปที่สถานสงเคราะห์แล้วทั้งคู่ก็ไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก มันเป็นความตั้งใจของมัลลิกาเธอไม่อยากให้ลูกเห็นและจดจำว่าแม่เป็นฆาตกร เป็นคนคุก

“แม่…” ครั้งแรกที่ทิชายอมเรียกมัลลิกาว่าแม่

“แม่ขอโทษ” มัลลิกาเอ่ยคำพูดที่กักเก็บไว้ในหัวใจมานานหลายสิบปีกับลูกสาวของเธอ

วรินทรากับจูนกลับมาหาเมย์ที่โรงพยาบาลเพื่อแจ้งข่าวว่าทิชาพาฟ้าใสหนีไปแล้ว กับคุณมัลลิกาช่างทำผมที่มาเปิดร้านอยู่ใกล้กับตึกออฟฟิศของวรินทรา จูนกับเมย์เพิ่งรู้ว่าคุณป้าที่ร้านทำผมคนนั้นคือแม่แท้ ๆ ของทิชา วรินทราต้องไปให้ปากคำกับตำรวจเรื่องคดีเรียกค่าไถ่ วรินทราคิดว่าจะพูดความจริงว่าทิชาเป็นคนลักพาตัวฟ้าใสมาจากน่านเพราะต้องการช่วยเหลือฟ้าใส 

ทิชาพาฟ้าใสไปล้างเนื้อล้างตัวที่ห้องน้ำในจุดจอดพักรถ มัลลิกาเป็นคนดูแลฟ้าใส ส่วนทิชาไปที่ท้ายรถเพื่อหยิบเสื้อผ้าให้ฟ้าใส แต่แล้วทิชาก็เจอถุงกระดาษใส่ยาห่อใหญ่วางซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้า ในถุงนั้นมีบัตรนัดผู้ป่วยชื่อ “นางมัลลิกา สกุณารักษ์” ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ไม่ยอมไปหาหมอตามวันที่นัด

ทิชาไล่ให้มัลลิกากลับไปหาหมอและส่งเธอสองคนแม่ลูกแค่นี้พอ แต่มัลลิกาดื้อดึงไม่เชื่อตามที่ทิชาบอก

พอได้แล้ว คุณกลับไปเถอะ ไม่ต้องมาเสี่ยงไปกับพวกเราหรอก

“ถ้าหนูไม่ไปกับแม่แล้วหนูจะไปยังไงต่อ โบกรถไปเหรอ มันอันตราย ไหนจะต้องกระเตงลูกหนีตำรวจ ขโมยขโจรอีก หนูไม่ห่วงตัวเองก็ห่วงฟ้าใสบ้าง”

“คุณก็เลิกเป็นห่วงฉันแล้วห่วงตัวเองก่อนมั้ย คุณกำลังจะตายนะ”

“จะตายแล้วยังไง ชีวิตแม่ก็แค่นี้ ยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว เวลาของแม่เหลืออีกไม่มาก ให้แม่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกจนถึงที่สุดได้มั้ย”

“มันไม่ทันแล้วล่ะ เวลาของแม่มันนับถอยหลังเป็นวัน ก่อนที่แม่จะตาย แม่จะพาทิชากับฟ้าใสไปส่งที่ภูเก็ต แม่มีพรรคพวกที่รู้จักกันที่คุกเค้าอยู่ที่นั่นเค้าเตรียมพาสปอร์ตของฟ้าใสเอาไว้ให้แล้ว พอได้พาสปอร์ตมาหนูก็พาฟ้าใสไปมาเลเซียได้เลย”

ทิชานิ่งอึ้ง นึกไม่ถึงว่ามัลลิกาจะมีแผนการช่วยเธอได้จริง ๆ แต่ฟังดูแล้วก็เป็นหนทางเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้

“หนูฟังนะ แม่ขายร้านไปแล้ว ในกระเป๋ามีเงินมัดจำอยู่ แต่เงินส่วนที่เหลือจะโอนเข้าธนาคารพรุ่งนี้ หนูเอาเงินนี่ กับเงินเก็บที่แม่เก็บให้ เอาไปใช้ บินหนีไปไกล ๆ ไปให้ไกลกว่ามาเลเซีย อย่าให้ใครตามตัวได้”

ข่าวทิชา เจนกิจโสภณ ไฮโซสาวลักพาตัวเด็กหญิงของขวัญกลายเป็นข่าวใหญ่ออกสื่อไปทั่ว คู่หมั้นของเมย์เห็นข่าวทิชาตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลักคดีลักพาตัวของขวัญ เขาต้องการยกเลิกงานแต่งงาน แต่เมย์ตัดสินใจแล้ว เธอจะเก็บเด็กเอาไว้ และเลิกกับพีท 

วรินทราเข้าให้ปากคำคดีเรียกค่าไถ่แต่กลับถูกสอบสวนหนักเรื่องทิชาเป็นคนลักพาตัวของขวัญออกมาจากบ้าน ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่าตอนนี้ทิชาตกเป็นผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ซึ่งเป็นคดีอาญามีโทษร้ายแรง วรินทรา จูน ปราชญ์ พยายามให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทิชา ทั้งสามคนพูดตรงกันว่าทิชามีเจตนาดี

ปราชญ์รีบส่งข่าวเตือนให้ทิชารู้ความคืบหน้า และให้ทิชาทิ้งซิมการ์ดของโทรศัพท์มือถือเพราะตำรวจจะแกะรอยจากโทรศัพท์และให้ลบโซเชียลมีเดียทั้งหมดทิ้งไปด้วย ทิชารีบทำตามคำแนะนำของปราชญ์ทันที

มัลลิการู้สึกเพลีย แต่คิดว่าเป็นเพราะขับรถมาทั้งคืน ทิชาอาสาขับรถต่อให้ มัลลิกาปิดบังอาการป่วยไม่ให้ทิชาต้องเป็นห่วง

“เมย์ไม่เสียใจหรอกค่ะ จริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องพี่ทิชา เมย์ก็คงไม่คิดแบบนี้ แล้วอีกอย่างเมย์ก็มีสุดยอดซิงเกิ้ลมัมเป็นตัวอย่างอยู่ใกล้ ๆ ตัวทั้งคน” เมย์บอกกับวรินทราว่าเธอตั้งใจจะเก็บเด็กเอาไว้

“มันจะไม่ง่ายนะเมย์ เมย์ต้องเข้มแข็ง แต่เมย์จะมีแม่แล้วก็น้องเป็นครอบครัวของเมย์เสมอ”

“พี่ทิชากับฟ้าใสด้วย ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่เราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน” จูนบอกกับแม่และพี่สาวของเธอ ทั้งสามคนกอดกัน เวลานี้อ้อมกอด ความรัก ความเข้าใจ คือสิ่งที่ครอบครัวนี้ต้องการจากกันและกันมากที่สุด

ในที่สุดมัลลิกาก็พาทิชากับฟ้าใสมาถึงภูเก็ตจนได้ สามคนไปเปิดห้องพักอยู่ด้วยกันเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต มัลลิกาพยายามเอาเงินสดให้ทิชาอีกครั้ง

“คุณเก็บเอาไว้เป็นค่ารักษาตัวเองเถอะ ที่ฉันไม่รับไม่ใช่เพราะว่าฉันโกรธคุณ แต่ฉันรับไม่ได้ คุณต้องการมันมากกว่าฉัน”

“หนูเข้าใจผิดแล้วล่ะ เงินก้อนนี้ไม่มีความจำเป็นอะไรสำหรับแม่เลย แม่รู้ตัวว่าแม่อยู่ต่อได้อีกไม่นาน รักษาตัวไปก็แค่ต่อเวลาได้สั้น ๆ แม่ตั้งใจเก็บเงินก้อนนี้มาตั้ง 17 ปี ให้หนู ทุกบาททุกสตางค์เป็นของหนู”

“ขอให้แม่ได้ดูแลหนูอีกสักครั้ง เป็นครั้งสุดท้ายได้มั้ยจ๊ะ” มัลลิกาเช็ดผม หวีผมให้ทิชา ทิชาเห็นมัลลิกาในกระจก ทิชาจำรอยยิ้มอบอุ่นและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักของมัลลิกาได้ ทิชาหันไปกอด

“แม่…”

“หนูรอแม่มาตลอด หนูไม่เคยหยุดคิดถึงแม่เลยซักวัน หนูเอาแต่คิดว่าทำไมแม่ถึงทิ้งหนู” 

“เป็นเพราะแม่เอง แม่ผิดเองที่ทิ้งลูกไปอย่างนั้น แม่คิดว่าการที่ลูกไม่ต้องรับรู้ หรือเห็นว่าแม่เป็นคนเลวร้าย จะดีกับลูกมากกว่า”

“แม่ทำเพื่อปกป้องหนู จะเป็นคนเลวได้ยังไง มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหนูรู้ความจริงตั้งแต่ตอนนั้น หนูจะได้ไม่ต้องโกรธ ไม่ต้องเกลียดแม่ ไม่ต้องคิดว่าหนูคงทำอะไรไม่ดี แม่ถึงได้ไม่รักหนู”

“มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย แม่ก็คิดถึงหนูทุกวัน และแม่ก็ไม่เคยให้อภัยตัวเองได้สักวันเลยเหมือนกัน”

“หนูขออะไรแม่อย่างนึง แม่ทำให้หนูได้มั้ย”

“ได้สิจ๊ะ แม่ทำให้หนูได้ทุกอย่าง”

“แม่กลับไปหาหมอนะ หนูอยากให้แม่รักษาตัวให้หาย ถ้าหนูมีโอกาสได้กลับไปอีกครั้ง.. ก็หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก” 

“จ้ะ” 

“คุณยายสัญญานะคะ” ฟ้าใสพูดขึ้นพร้อมยกนิ้วก้อยเป็นเครื่องหมายแทนคำสัญญา “สัญญาต้องเป็นสัญญา ไม่งั้นนิ้วก้อยจะกุดนะ” 

“จ้ะ สัญญา”

เช้าวันรุ่งขึ้น ทิชาออกจากโรงแรมเพื่อไปพบกับคนรู้จักของแม่ที่นัดแนะกันว่าจะเอาพาสปอร์ตปลอมมาให้ แต่ทิชาไม่รู้ตัวเลยว่าการเคลื่อนไหวของเธอถูกจับตามองโดยตำรวจนอกเครื่องแบบ ตำรวจอีกสองนายที่เฝ้าอยู่ที่โรงแรมฉวยโอกาสบุกเข้าไปตรวจสอบห้องพักตอนที่ทิชาไม่อยู่ มัลลิการีบบอกให้ฟ้าใสรีบซ่อนตัว แต่ไม่ทันเสียแล้ว ทั้งมัลลิกาและฟ้าใสถูกตำรวจจับได้

ทิชาไหวตัวทันว่ามีตำรวจตามมา ทิชารีบวิ่งหนี แต่ความทรงจำดันมาเล่นตลกกับเธอในวินาทีความเป็นความตาย ทิชาดันจำเหตุการณ์คืนที่เธอฆ่าพ่อได้… ไม่ใช่แม่ที่เป็นฆาตกร แต่เป็นเธอเอง ที่ลงมือสังหารพ่อ เพื่อปกป้องแม่

“หนีไป หนีไป” เสียงแม่ร้องตะโกน เรียกสติทิชาให้กลับคืนมา 

ทิชามองเห็นแม่กำลังถูกตำรวจควบคุมตัว แม่ตะโกนสุดเสียงเมื่อเห็นทิชา แม่บอกให้ฟ้าใสกับทิชา “หนีไป”

แล้วแม่ก็ล้มลง…

ทิชาพาฟ้าใสวิ่งหนี ไปจนสุดทางที่สะพานปลา เบื้องหลังเป็นท้องน้ำ 

“หยุด! ยกมือขึ้น ส่งตัวเด็กมา” เสียงตำรวจตะโกนสั่ง

“ไม่เอา แม่ แม่ อย่าไป” 

“ไม่ต้องกลัวนะลูก มองขึ้นไปบนฟ้าสิ มีนกด้วยเห็นมั้ย นกนางนวล” 

ตำรวจเข้ามารวบตัวทิชา ฟ้าใสกอดทิชาแน่นไม่ยอมปล่อย

“หนูจะไปกับแม่ หนูจะไปกับแม่!”

“ฟ้าใส แม่ขอโทษนะ แม่พาหนูไปต่อไม่ได้แล้ว”

“ไม่เอา”

“ฟังแม่ดี ๆ นะ ฟ้าใส จำไว้นะจ๊ะ… แม่รักหนู รักมาก ไม่ว่าแม่จะอยู่ที่ไหน แม่ก็จะรักลูกตลอดไป”

“แม่!”

- จบตอนที่ 9 นกอพยพครั้งที่ 2 -

>> คลิกกลับไปหน้าหลัก >> https://today.line.me/th/pc/article/Zn1p5Q

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0