“คัทลียา แมคอินทอช” ขอเป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่ “เจ้าหญิง”
แทบไม่มีใครเชื่อ เมื่อ ‘แหม่ม คัทลียา แมคอินทอช’ เริ่มต้นการพูดคุยในวันนี้ว่า “ปีนี้พี่อายุ 46 แล้วนะ” เพราะสุภาพสตรีนั่งอยู่ตรงหน้า ยังคงงดงาม มีชีวิตชีวา เปี่ยมด้วยพลัง แถมยังเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ไม่ต่างจากเมื่อ 31 ปีก่อน ที่คนไทยทั้งประเทศได้รู้จักกับเธอคนนี้ ผ่านผลงานมากมายนับไม่ถ้วน
เรียนรู้ที่จะเข้าใจเรื่อง ‘ความเป็นส่วนตัว’
ทำงานในวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 15 เคยรู้สึกว่าชีวิตส่วนไหนขาดหายไปบ้างไหม?“ไม่เลยไม่เคยรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายแต่ก็มีเรื่องความส่วนตัวบ้างซึ่งแน่นอนว่ามันมาควบคู่กับอาชีพนี้แต่เราก็เรียนรู้ที่จะเข้าใจมัน” คุ้มค่าไหมที่ต้องแลกความเป็นส่วนตัวกับชื่อเสียงในวงการบันเทิง? “มันไม่ได้มีตาชั่งมาวัดมันอยู่ที่ว่าเราเห็นคุณค่าของอาชีพไหมเห็นคุณค่าของแฟนละครคุณค่าของคนดูคุณค่าของผลงานและคุณค่าของผู้ร่วมงานไหมอันนั้นคือสิ่งที่เทียบค่าไม่ได้มันคงไม่มีตาช่างมาวัดเทียบหรอกอย่างตัวเองพี่มันค่อยๆเป็นค่อยๆไปไม่ใช่มาดังเปรี้ยงพี่ค่อยๆมีคนรู้จักเพิ่มขึ้นไม่ได้หวือหวาหรือดังข้ามคืนอะไรแบบนั้น”
มันก็มีเหมือนกันที่เราทำเพราะเราเกรงใจหรือเราอยากทำให้
มีอะไรที่ยึดถือเป็นหัวใจหลักในการทำงาน? “อันดับแรกคือเราต้องรักในสิ่งที่เราทำถ้าเรารัก…เราจะมีใจเราจะใส่ใจมันก็จะรู้สึกสนุกพี่อาจจะโชคดีที่ได้ทำสิ่งที่เรารักและตัวเองก็รักในสิ่งที่ทำมันเลยไม่ได้เป็นการทำงานที่ดูเป็นทำงานเกินไปไม่ได้มานั่งรอว่าเมื่อไหร่จะวันศุกร์เมื่อไหร่จะสิ้นเดือนเงินเดือนจะออกเราไม่ได้มีโมเมนต์แบบนั้นแต่เรารู้สึกว่าเราได้มีความสุขกับการไปทำงานในแต่ละวันมันก็อาจจะมีบ้างช่วงที่ทำงานเยอะๆแล้วนอนไม่พอเพราะการเป็นนักแสดงหรือทำงานในวงการเวลามันไม่แน่นอนเราก็ต้องตื่นเช้าไปทำงานเจ็ดโมงบางทีกว่าจะถ่ายเสร็จตีสองตีสามแต่เพราะว่าเราสนุกกับสิ่งที่เราทำเรารักมันและมันก็ให้ความสุขกับเราด้วยเราเลยโชคดี”
มีหลักในการเลือกรับงานไหม? “เอาจริงๆคือทำตามสัญชาติญาณเลยมันก็ไม่ได้มีกฎตายตัวอะไรบางงานมันก็มีเหมือนกันที่เราทำเพราะเราเกรงใจหรือเราอยากทำให้แต่ทั้งหมดทั้งปวงจะไม่มีงานที่ไม่อยากทำแต่จำเป็นต้องทำพี่เป็นคนชอบเห็นคนรอบข้างมีความสุขชอบทำให้คนมีความสุขชอบทำให้คนพอใจอย่างเวลาละครติดต่อมาพร้อมกัน3 เรื่องจะรับทั้งหมดก็ไม่ไหวเราดูจากความถูกต้องเลยว่าใครติดต่อมาก่อนเรามีหลักที่ชัดเจนและต้องแฟร์แม้ว่าบทเรื่องที่สามดีที่สุดแต่เราก็ต้องเลือกรับอันแรกเพราะเรารับปากเขาไว้ก่อนแล้วก็อย่าลืมว่าเราเป็นคนทำงานก็ต้องเข้าใจในเรื่องของโปรดักชั่นด้วยว่าคิวมันยากแล้วอยู่ๆจะไปทิ้งเขาแบบนี้เขาก็ต้องนับหนึ่งใหม่มันก็ต้องมีวินัยบางครั้งมีบทน่าสนใจติดต่อเข้ามาแต่คิวมันไม่ได้ถามว่าเสียดายไหมเสียดายมากแต่คิวมันไม่ได้”
ออกอัลบั้ม…ไม่มีทาง
งานในวงการบันเทิงที่จะไม่มีวันที่จะได้เห็นพี่แหม่มทำสิ่งนั้น คือ… “ออกอัลบั้มไม่มีทางเลย(หัวเราะ) เพราะรู้ตัวว่าไม่ใช่คนเสียงดีเราอยู่ในโลกของความเป็นจริง” แล้วพัฒนาตัวเองอย่างไร? “อย่าว่าแต่การแสดงเลยการเป็นแม่ที่ดีเป็นเพื่อนที่ดีหรือเป็นภรรยาที่ดีมันต้องรู้จักปรับตัวอยู่เสมอไม่ได้มีว่าทำแค่นี้จะพูดได้ว่าฉันชนะแล้วเรื่องชีวิตคู่มันต้องปรับตัวจนถึงที่สุดยันแก่ก็ต้องปรับตัวมันไม่ได้มีกฎตายตัวว่า1 ถึง10 พอเธอทำถึง10 แล้วชีวิตจะแฮปปี้ เพราะฉะนั้นการแสดงก็เหมือนกันเราต้องทำการบ้านอยู่เรื่อยๆ ต้องศึกษาเรื่อยๆเราต้องปรับไปตามยุคสมัยด้วยซ้ำสมัยนี้เขาทำอย่างไร เด็กรุ่นใหม่ก็ไม่ได้ดูละครกันเหมือนที่เราเล่นตอนแรกๆมาเขาจะเสพละครที่ท้าทายขึ้นไม่รู้ตอนจบเพราะรู้ตอนจบแล้วมันไม่สนุกก็ต้องปรับไปตามสภาพแวดล้อมเราก็ต้องศึกษาเราต้องแอบดูคนอื่นต้องคอยศึกษาจากคนรอบด้าน”
ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงเลย
จากฉายา ‘เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง’ ที่เคยได้รับในอดีต มาจนถึงวันนี้แล้ว บอกได้ไหมว่าเป็นอะไรในวงการบันเทิง? “ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงเลยแต่ก็ขอบคุณที่ตั้งฉายาให้เรารู้ว่าเราไม่ได้เป็นเจ้าหญิงเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนนึงถ้าถามว่าวันนี้เป็นอะไรในวงการบันเทิงตอบเลยว่าเราเป็นนักแสดงแค่จุดเล็กๆจุดหนึ่งในวงการบันเทิงเป็นส่วนหนึ่งของวงการบันเทิงเท่านั้นเอง”
อยากเล่นภาพยนตร์จนยอมไม่รับค่าตัว
สิ่งที่อยากทำในวงการบันเทิง แต่ยังไม่ได้ทำ? “ต้องเล่าก่อนว่าโชคดีที่ปีนี้เป็นปีที่ดีงามเพราะสิ่งที่อยากทำก็ได้ทำแล้วคือได้เล่นละครเวทีแล้วเหมือนได้สองเด้งคืออยากเป็นคุณหญิงกีรติ(บทประพันธ์เรื่องข้างหลังภาพ) ก็ได้ทำตามความฝันสองอย่างที่ยังไม่เคยเล่นเลยคือภาพยนตร์เคยเสนอ "พี่ย้ง" แล้ว(ผู้กำกับซีรีส์เลือดข้นคนจาง) บอกไม่เอาค่าตัวด้วย(หัวเราะ)”
ชื่อเสียงไม่ได้สำคัญมากขนาดนั้นในชีวิต
แรงผลักดันในการทำงานทุกวันนี้คืออะไร? “โชคดีที่มีครอบครัวที่น่ารักมีสามีที่ดีการทำงานทุกวันนี้เลยเป็นเพราะความสุขและความสนุกเพราะเรารักในการแสดงไม่ได้ทำเพราะต้องสร้างเนื้อสร้างตัวและก็ไม่ได้ทำเพราะชื่อเสียงชื่อเสียงไม่ได้สำคัญมากขนาดนั้นในชีวิต” จัดสรรชีวิตการทำงานและการดูแลครอบครัวอย่างไรให้ลงตัว? “ปกติก็เป็นคุณแม่ที่งานยุ่งมากกกกก(ลากเสียงยาว) แต่ก็เป็นคุณแม่ที่ครอบครัวมาอันดับหนึ่งเพราะฉะนั้นจะจัดตารางตามครอบครัวคือลูกสำคัญที่สุดพักหลังที่เห็นมาเล่นละครมากขึ้นเพราะลูกเข้าโรงเรียนเราก็มีเวลาว่างได้มาเติมพลังในด้านชีวิตการทำงานได้มาเจอเพื่อนฝูงได้มาอยู่ในสังคมที่คุ้นเคยมามีความสุขกับการแสดงซึ่งเป็นสิ่งที่เรารัก”
ทุกวงการทุกอาชีพมีส่วนที่ดีและส่วนที่ไม่สวยงามนัก
อยากบอกอะไรกับคนที่อยากเข้าสู่วงการบันเทิง? “อยากให้มีสติในการใช้ชีวิตจริงๆทุกวงการทุกอาชีพมีส่วนที่ดีและส่วนที่ไม่สวยงามนักอยู่ที่ว่าจะจัดการมันยังไงให้มันไปได้อย่างสมดุลที่สุดคนหลายคนชอบมองว่าเป็นคนมีชื่อเสียงไปไหนมีแต่คนชื่นชมหรือหาเงินง่ายประมาณนั้นแต่คุณอยู่ในโลกของความเป็นจริงอย่ามองโลกด้านเดียวมันมีด้านของความเป็นจริงคุณก็ต้องแลกนะว่าเวลาไปไหนคนก็จะจับจ้องมองเกิดความไม่เป็นส่วนตัวคุณก็ต้องระมัดระวังให้ดีมันไม่ใช่ว่าฉันเป็นคนมีชื่อเสียงแต่ห้ามมายุ่งกับชีวิตฉันมันเป็นไปไม่ได้เราต้องเข้าใจก่อนถ้าเข้าใจแล้วก็จะอยู่ได้อย่างแข็งแรง”
เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
ข้อดีของอายุที่เพิ่มขึ้นคืออะไร? “ก็เป็นเรื่องของประสบการณ์เรื่องของสิ่งที่เราเจอมาเหมือนเป็นวัคซีนให้ตัวเองไม่มีใครหรอกที่เกิดมาแล้วรู้ทุกอย่างมันก็ต้องเรียนรู้รู้จักใช้ชีวิตรู้จักคิดรู้จักมีสติ” แล้วข้อดีของความเป็นเด็กมันหายไปบ้างไหม? “ไม่มีอะไรหายไปเลยก็ยังรู้สึกอบอุ่นผู้ใหญ่ก็ยังให้ความเอ็นดูแต่เราก็ต้องรู้จักวางตัวให้เหมาะสมด้วยยังต้องนอบน้อมอ่อนน้อมถ่อมตนไปลามาไหว้เจอผู้ใหญ่ต้องสวัสดีจะกลับต้องเข้าไปลา”
นิยามตัวเองอย่างไรในวันนี้“แหม่มคัทลียาแมคอินทอชก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่เป็นทั้งแม่เป็นทั้งภรรยาเป็นนักแสดงที่ธรรมดาๆมากมีความสุขกับสิ่งที่ทำมีความสุขกับชีวิตและก็ยังคงขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ก้าวมาจนถึงทุกวันนี้”
ขอขอบคุณร้าน Little Sunshine Cafe ถ.วิทยุ
เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายทำ