โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เลือกตั้งด้วยสติปัญญา 'เลือกตั้ง' ทั้งที เลือกอย่างไรให้ฉลาด?

Another View

เผยแพร่ 27 ก.พ. 2562 เวลา 01.00 น.

เลือกตั้งด้วยสติปัญญา 'เลือกตั้ง' ทั้งทีเลือกอย่างไรให้ฉลาด?

อย่าหวังผลลัพธ์ที่แตกต่างหากเราลงมือทำเหมือนเดิม

ในปีนี้ การเลือกตั้ง '62 ของบ้านเรา ช่างคึกคัก และดูการเมืองสนุกทุกวัน มีการแข่งขันอันดุเดือดมาก ต่างพรรคต่างเชือดเฉือนวิธีคิดกัน งัดกลยุทธ์ไม้เด็ดกันออกมาใช้หมัดต่อหมัด

คำถามคือ "แล้วเราจะเลือกใครคนหนึ่ง มันดูที่อะไร จะได้เลือกให้มั่นใจมากขึ้น"

คำตอบ และวิธีคิดง่ายมาก คล้าย ๆ spec ของการ "เลือกแฟน" (ที่บางทีก็เลือกไม่ค่อยได้) คุณอยากได้คนแบบไหน ต้องใส่ใจการเลือกหน่อย คนนี้ พรรคนี้ดีพอกับเราไหม ถูกใจเรารึเปล่า มาดูวิธีการที่มีตรรกะกันเสียหน่อย ว่าอะไรทำให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น

1) ตัดชอยส์พวกซื้อเสียงทิ้งทันทีเป็นอันดับแรก

ถ้าวันนี้เขาจ่ายให้เรา เป็นค่าหัว ให้ไปนั่งฟังปราศรัย ให้กาเลือกเขาหน่อย จงคิดไว้เสมอว่า มันมองได้เหมือนวิธีคิดของนักธุรกิจ นั่นคือ ทุกอย่างที่เสียไปคือการลงทุน และทุกการลงทุน ย่อมมีการถอนทุนคืน หรือผลตอบแทน ดังนั้น จงอย่าตกเป็นเหยื่อนักลงทุนทางการเมืองพวกนี้

เมื่อวันนี้ลงทุนหนัก เวลาถอนทุนคืนก็จะหนักเช่นกัน และมีโอกาสสูงมากที่เมื่อผู้คนที่ลงทุนไปหนักเหล่านี้ได้รับเลือกเป็นรัฐบาล จะถอนทุนคืนอย่างหนัก เข้าไปโกงกิน เอาเงินภาษีประชาชนไปผลาญ ถ้าเราอยากตัดวงจรอุบาทว์นี่ซะ…จงอย่าไปเลือกคนกลุ่มที่ใช้เงินซื้ออำนาจให้ตัวเอง ให้ได้รับชัยชนะ…ชัยชนะอันสกปรกพวกนี้ ไม่ควรให้พวกเขาได้รับมัน

จงเลือกคนที่มาจากใจ…
ไม่ใช่กาให้เพราะได้เงินเขามา

2) คุณต้องมี "ข้อมูลที่ถูกต้องและแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้"

หากจะมั่นใจว่าเราจะรู้จักพรรคไหน หรือคนไหนที่เราเลือกดีพอ อยากจะไปสืบประวัติคนหรือพรรคที่เราสนใจ เราต้องระวังเรื่องนี้เป็นอันดับแรก

เราต้องเข้าใจเรื่อง "ข้อมูล" และ "แหล่งที่มาของข้อมูล" ที่ดีและมีคุณภาพจริง ๆ เรื่องที่ต้องระวัง ได้แก่

- ข้อมูลที่แชร์บน social network กันแบบไม่รู้ต้นตอ หรือที่มา บางทีเป็นข้อความคำพูด ปะปนกับรูปภาพของบุคคลที่เขาอาจจะไม่เคยพูดด้วยซ้ำ แต่เอามากล่าวอ้าง ให้เช็คดี ๆ ว่ามีภาพเคลื่อนไหว หรือหลักฐานบ้างหรือไม่ ว่าเป็นเรื่องจริง เพราะมีโอกาสสูงที่พรรคตรงข้าม คู่แข่ง หรือผู้ไม่ประสงค์ดี ตั้งใจ discredit อีกฝ่าย ในช่วงของการหาเสียง

- สื่อที่ไม่เป็นกลาง และมีขั้วทางการเมือง เป็นสื่อที่เราต้องคอยระมัดระวังการเขียนข่าว หรือนำเสนอข่าว เพราะอาจจะนำเสนอบางส่วน ไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมด หรือ "อวยเฉพาะที่รัก" และ "โจมตีที่ชัง" ถ้าสื่อเองยังมีสี มีค่าย ต้องอาศัยสติปัญญาอย่างมีวิจารณญาณในการวิเคราะห์ข้อมูลในการเสพสื่อ หรือเลือกเปิดรับสื่อที่เรามั่นใจในความกลางของสื่อจริง ๆ ก่อนจะเปิดข่าวการเมืองเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร และนำมาประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ของเรา

3) สำรวจการทำงานและประสบการณ์ในอดีตของเขาจะพอเดาได้ว่าอนาคตเขาจะห่วยหรือจะเจ๋ง

ถ้าเป็นพรรค หรือบุคคลเดิม ๆ ที่เราเคยเห็นผลงานของเขาอยู่ว่าเขาทำอะไร สำเร็จมากน้อยขนาดไหน มีศักยภาพในการขับเคลื่อนนโยบายอย่างไร

หากผลงานเป็นที่ประจักษ์ แสดงว่า เราวางใจการทำงานของเขาในอนาคตได้ เรามั่นใจ เราจึงควรเลือก แต่ถ้าที่ผ่านมา เขาไม่ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ หรือไม่เห็นผลงานให้เราประทับใจ เราก็อย่าไปเลือก เราจะไปเจ็บซ้ำ ๆ ทำไมกับคนที่เราไว้ใจแล้วเขาไม่เวิร์ค ก็อาจจะต้องลองให้โอกาสคนใหม่ ทดลองอะไรใหม่ ๆ แล้วล่ะ หากรู้ว่าสิ่งเดิม ๆ มันไม่ตอบโจทย์ ก็ถือซะว่าสร้างการเลือกสิ่งใหม่ กำลังสร้างการเรียนรู้ให้กับตัวเรา และประเทศจากการทดลองครั้งนี้

หรือหากมีประวัติที่ไม่โปร่งใสใด ๆ ที่ดูไม่ชอบมาพากล ทั้งทางธุรกิจ หรือทางการเมือง ให้หาข้อมูลให้แน่ชัดว่าเขาเข้ามาเล่นการเมือง เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของตัวเอง หรือมาเพื่อบริหารประเทศให้เจริญรุ่งเรืองจริง ๆ

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มบุคคลพรรคใด ที่เคยก่อความไม่สงบให้ประเทศ หรือมีประวัติในลักษณะที่เป็นทรราช เราต้องมีสติก่อนเลือกคนพวกนี้กลับเข้ามาทำคุณประโยชน์ให้ชาติดี ๆ ว่านี่เป็นคุณ หรือเป็นโทษกันแน่

 4) องค์ประกอบของทีมงานถ้ามีทีมที่ดีก็มีโอกาสไปได้รุ่ง 

ทีมห่วย ๆ แม้ผู้นำ ตัวหัวหน้าพรรค เป็นคนเก่งคนดีมีคุณธรรม ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนการทำงานไปข้างหน้าได้มีประสิทธิภาพ ยิ่งถ้าเป็นทีมสายโกงกินด้วยแล้ว ยิ่งควรบอกลาให้ไว เพราะจะกลายเป็นเราเลือกคนดี ที่มีโอกาสเอาทีมห่วย ๆ มาช่วยผลาญชาติ กลายเป็น"รัฐบาลหุ่นเชิด" ที่เราคงเคยเห็นกันมาหลายยุคหลายสมัย

“ผู้นำที่ดี ควรมีทีมงานที่ดี” เวลาเลือกอาจจะต้องกลั่นกรอง และไตร่ตรองให้ดี ๆ อย่าไปยึดติดแค่ "ตัวบุคคลคนเดียว*" *หมั่นดูภาพกว้างว่า เรากำลังเลือกเอามนุษย์คนเก่งคนดีไปทำงานบริหารชาติ หรือปลวกที่กัดแทะ เกาะกินชาติมิให้เกิดความเจริญก้าวหน้ากันแน่

5) มองหานโยบายที่ตรงใจและใช้งานได้จริง

ถ้าพรรคไหนเขานโยบายเจ๋ง แล้วเรามองเห็นว่าเรื่องนี้ สำคัญมาก ๆ กับการขับเคลื่อนชาติบ้านเมือง เราควรจะต้องให้ความสนใจ เพราะเราอยากให้เรื่องนั้น ๆ เกิดขึ้นในประเทศของเรา ก็แอบติ๊กถูกในใจว่า เราสนใจงานนโยบายของใคร ที่ไม่ใช่แค่การ "ขายฝัน" ดูว่าเรื่องนั้น ๆ ทำได้จริง เป็นประโยชน์ สำคัญมาก ควรแก้ไขปรับปรุงพัฒนา ถ้านโยบายของใครดูเป็นรูปธรรม ก็ให้คะแนนพรรคเขาไว้ในใจก่อน จะได้กาอย่างไม่ลังเล เมื่อถึงคูหา

สิ่งที่ต้องระวังคือพวก "นโยบายแนวประชานิยม" ที่ไม่ได้สร้างการแก้ไขปรับปรุงจริง ๆ แต่กลับสร้างปัญหาเพิ่มในระยะยาว หรือแค่มาแนวเอาใจคนยากจน หรือคนบางกลุ่มให้ได้รับประโยชน์ ไม่ได้ส่งเสริมประเทศให้เกิดการพัฒนาในวงกว้าง หรือแก้ไขปัญหาได้จริง อันนี้ต้องวิเคราะห์ให้ดี เพราะนั่นคือแค่การหาฐานเสียงให้พรรคผ่านนโยบายสร้างฝันเท่านั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีเวลาชมการปราศรัย หรือการ debate ทางโทรทัศน์ จะยิ่งทำให้เราเห็นแนวคิดเชิงนโยบายว่าใครเข้าท่า ใครที่ไม่เวิร์คหรือไม่ถูกจริตกับเรา เราสามารถมองวิธีคิดผ่านเวทีที่มีมากมายให้ได้รับข้อมูลพวกนี้ ก่อนตัดสินใจครั้งสุดท้ายที่หน้าคูหา เราต้องทำการบ้านมา เพื่อสรรหาคนและพรรคคุณภาพให้ประเทศเราจริง ๆ

-----

สิ่งที่สำคัญคือ คุณอย่าไปเชื่อใคร ที่พูดว่าเลือกได้ใครหรือพรรคไหน มาบริหารประเทศก็แย่เหมือนเดิม ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงบ้านเราไปได้หรอก

ความจริงข้อหนึ่งคือ"การทำเหมือนเดิมมักได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมแน่นอนว่าคุณเลือกคนเดิม ๆ เข้ามาคุณจะหวังผลที่แตกต่างนั่นเป็นเรื่องเพ้อฝันโดยสิ้นเชิง*"  *ดังนั้น จงเชื่อมั่นเสมอว่า เสียงของทุกคนมีความหมายเสมอ และเปลี่ยนแปลงได้ อย่าเพิ่งเพิกเฉย โดยตัดสินใจ 'Vote No' เพราะเสียงหนึ่งเสียงของคุณมีคุณค่า และมีอำนาจมากพอจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงมิติทางการเมืองการปกครองในการบริหารประเทศนี้

"จงทำสิ่งที่แตกต่างเพื่อแสวงหาผลลัพธ์ที่แตกต่าง"

เลือกตั้งครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งครั้งที่สำคัญมาก ที่จะกำหนดก้าวใหม่ ๆ ในการเดินหน้าประเทศไทย อยากให้เราทุกคนใส่ใจกับมัน และทำหน้าที่พลเมืองของตัวเองให้เต็มที่ อย่างดีที่สุด ด้วยการใช้สิทธิ์ใช้เสียงของเรา ร่วมขับเคลื่อนประเทศชาติ ไปด้วยกันทั้งชาติ ไม่อู้อยู่บ้าน ต้องไปเลือกคนและพรรคในใจของเราให้ได้ จงไปทำหน้าที่นั้น ด้วยมือของเราเอง

#เลือกตั้ง62

หมายเหตุ: ถ้าชอบคน หรือพรรคไม่เหมือนเพื่อนเรา หรือคนที่เรารัก ก็ไม่ควรตีกัน ทะเลาะเบาะแว้งจนเลิกคบ นี่มันก็แค่การเมือง แต่ความสัมพันธ์ในชีวิตเราต้องไปต่อ แตกต่างแต่ไม่แตกแยก

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0