แต่ละออฟฟิศย่อมมีเรื่องยุ่งยากวุ่นวายเฉพาะที่กันอยู่แล้ว เรื่องมาจากนิสัยเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล ถ้าเจอคนเรื่องมากมีความเยอะมารวมในที่เดียวกันหลายๆ คนแล้วคงจะสับสนวุ่นวายไม่ใช่น้อย การรักษาตัวให้รอดได้นับว่าจะเป็นอย่างยิ่ง เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคนในที่ทำงานเดียวกัน รวมถึงตำแหน่งการก็ด้วย มีเรื่องใดบ้างที่เราไม่ควรเข้าไปยุ่งวุ่นวายบ้าง เรารวมมาให้ได้รู้กันแล้ว
#1. ร่วมกลั่นแกล้งใครสักคนเป็นพิเศษ
ในทุกสังคมนั้นจะมีคนที่ตกเป็นเป้าในการถูกกลั่นแกล้งเสมอ ไม่ว่าจะตอนเรียนที่โรงเรียน ตอนเรียนมหาวิทยาลัย และกระทั่งในที่ทำงานเองก็ตาม แต่ว่าในยุคนี้แล้วการกระทำแบบนี้ถือว่าไม่ใช่เรื่องตลกไม่ใช่เรื่องที่ดี และไม่ควรสนับสนุนด้วย ทั้งยังสร้างความโกรธแค้นให้กับคนๆ หนึ่งซึ่งเขาอาจจะแก้แค้นเอาคืนในภายหลังได้ แต่ครั้นจะตั้งตัวต่อต้านเลยก็คงจะมีปัญหากับคนอื่นได้เช่นเดียวกัน ทางที่ดีอย่าไปยุ่งเลยดีที่สุด ถ้าอยากช่วยจริงๆ ก็อาจจะไปคุยกับ HR หรือปรึกษาหัวหน้าผู้ที่มีอำนาจในการแก้ปัญหาโดยตรงไปเลยจะดีกว่านะ
#2. จับกลุ่มนินทาใครสักคน
การนินทามีประโยชน์แค่ช่วยในเรื่องของการระบายอารมณ์ ทำให้รู้สึกสนุก สะใจ คลายเหงาได้เฉยๆ เท่านั้น แต่มองลึกเข้าไปแล้ว การกระทำแบบนี้มีแต่จะฉุดรั้งให้คุณอยู่กับที่ไม่พัฒนาตัวเองไปไหน เพราะมัวแต่เสียเวลาจับผิดคนอื่นเพื่อเอามาคุยมาเม้าท์ แต่เคยลองคิดหรือไม่ ว่าตัวเองมีข้อเสียตรงไหนบ้าง เป็นคนดีกว่าเขามากแค่ไหน ถึงจะได้ไปตัดสินว่าใครดีไม่ดีแบบนั้น ส่วนใหญ่คนที่ชอบนินทาก็มักมีปมด้อยในตัวเอง เลยจะสนุกกับการขยี้ปมด้อยของคนอื่นแทน ดูๆ แล้วก็ไม่น่ารักเลยน๊า เลิกได้ก็เลิกเถอะจ้ะ
#3. อย่ายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของใครมากเกินไป
บางคนก็เป็นคนที่ดีมีน้ำใจมาก เรื่องของคนอื่นก็อินมากจนเหมือนเป็นเรื่องของตัวเองเลยทีเดียว แต่ว่าการเอาตัวเองไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นมากไปมันก็ไม่มีผลดีทั้งกับตัวเองและคนอื่นหรอกนะ บางครั้งถ้าผิดใจกันทีอาจจะเกลียดกันไปเลยก็ได้ ถ้าเป็นเพื่อนกัน การช่วยเหลือการช่วยไปเต็มที่เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่กับเพื่อนร่วมงานการยุ่งมากไปมีแต่จะทำให้ยุ่งเหยิง เป็นแค่เพื่อนร่วมงานรู้จักกันเพียงผิวเผินก็พอ อย่าไปสนิทสนมด้วยจนกว่ามั่นใจว่าเป็นเพื่อนกันจริงๆ ดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องไปทุ่มเทช่วยแก้ปัญหาให้เขามากมายขนาดนั้นหรอกนะ แค่รับฟังเรื่องชีวิตเขาผ่านๆ ก็พอ เพราะชีวิตคนเราส่วนใหญ่ก็แค่ต้องการใครรับฟังเท่านั้นแหละ
#4. เรื่องทางการเงิน
แม้ว่าทำงานอยู่ในที่ทำงานเดียวกันเห็นหน้ากันทุกวันก็ไม่ใช่ว่าจะไว้ใจกันเรื่องเงินๆ ทองๆ ได้นะคะ เรารู้จักเขาก็แค่ในที่ทำงานเพียงอย่างเดียวนอกเหนือจากเวลางานเรายังไม่รู้จักเขาดีพอเลยด้วยซ้ำ ซึ่งก็รวมไปถึงสภาพทางการเงินก็ด้วย บางคนอาจจะมีหนี้ท่วมตัว บางคนติดการพนันหรือติดยา บางคนอาจจะชอบหลอกเอาเงินจากคนอื่นอย่างที่เราเองก็ยังคาดไม่ถึงเลยนะ ดังนั้นหากไม่อยากเดือดร้อนเรื่องเงินเพราะใคร อย่าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงให้ยืมเงินหรือค้ำประกันใครเลยนะคะ มีคนเขาเจ็บกันมานักต่อนักแล้วที่เสียทั้งเงิน และเจ็บทั้งใจเนี่ย คิดถึงทีไรแล้วแค้นน่าโมโหสุดๆ เลยล่ะ
#5. เอาของมาขายที่ออฟฟิศ
ในยุคที่สภาพทางเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ ใครๆ ก็ย่อมอยากหารายได้เสริมกันทั้งนั้น และการที่หาเงินได้ง่ายสุดก็คือการนำของมาขายที่ออฟฟิศ แต่การหารายได้ในที่ทำงานไม่ใช่เรื่องดีเลย ถ้าคุณเป็นแค่พนักงานตัวน้อยๆ ก็ดูไม่ค่อยมีมารยาทนักที่ใช้ที่ทำงาน เวลางานมาหารายได้อื่นๆ เสริมอะไรแบบนี้ ถ้าคุณเป็นเจ้านายก็ดูเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่แบบไม่ถูกไม่ควรไปอีก ดังนั้นแล้วหากจำเป็นหรือว่าอยากขายจริงอะไรจริง ให้เป็นนอกออฟฟิศ นอกเหนือจากเวลางานไปเลยดีกว่านะ
#6. ปัญหาเรื่องชู้สาว
บางที่ทำงานการคบหามีความสัมพันธ์กันไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิด หรือเรื่องต้องห้าม แต่บางครั้งการมีความสัมพันธ์กันแบบชู้สาว ก็นำพามาสู่ความยุ่งยากและเรื่องวุ่นวายได้ไม่ใช่น้อย แค่พวกเขาทะเลาะกันก็เกิดการแบ่งทีมกันแล้วใช่ไหมล่ะ? ยิ่งไปตามเกมยามเขาทะเลาะกัน รักๆ เลิกๆ หรือเป็นชู้กันอีก โอ้ย…วุ่นวายปวดหัวเปล่าๆ อยู่ห่างๆ ไม่ใส่ใจดีกว่านะ
#7. ไม่แพร่งพรายความลับของตัวเอง และคนอื่น
คนเรามีปัญหาในชีวิตแตกต่างกันไป ยิ่งบางคนเอาแต่ทำงานไม่ค่อยได้ไปพบเจอเพื่อนเลย ย่อมเกิดความอึดอัดคับข้องอยู่ในใจ อยากระบายเรื่องของตัวเองให้ใครสักคนได้รู้ ซึ่งเพื่อนร่วมงานที่เป็นคนใกล้ตัวนี่แหละสะดวกที่สุดแล้วในการแชร์เรื่องราวแบบนี้ ถ้าเจอคนดีก็ดีไป แต่ถ้าเจอคนไม่หวังดีเอาเรื่องของเราไปพูดไปเม้าท์ในทางเสียๆ หายๆ นี่ก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่ รู้หน้าไม่รู้ใจหรอกค่ะ บางคนต่อหน้าพูดดี ปลอบใจเราสารพัด แต่พอลับหลังเอาเราไปขายซะหมดเปลือก ดังนั้นแล้วเรื่องไม่ดีก็อย่าไปเล่าให้ใครเขาฟังเลย ปลอดภัยสุด
วางตัวให้เป็นกลาง ไม่เอาตัวเองเข้าไปผูกติดกับใครมากเกินควร ทำงานทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย รักษาระดับความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานตามแบบที่ควรจะเป็นก็พอแล้ว เพียงเท่านี้ก็ไม่มีใครมาว่าอะไรคุณได้ง่ายๆ ใช้ชีวิตในที่ทำงานได้อย่างเป็นสุขแล้วล่ะค่ะ
ความเห็น 0