ม่วนอกม่วนใจ๋…สงกรานต์เชียงใหม่ ทำไมถึงห้ามพลาด!
เหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลสงกรานต์กันแล้ว เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังวางแผนเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวนี้ หรือใครที่ยังไม่ได้มีตัวเลือกอะไร แล้วกำลังชั่งใจว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี เรามีหนึ่งตัวเลือกสำหรับการเที่ยววันสงกรานต์ในปีนี้ คือ "จังหวัดเชียงใหม่" ที่ต้องขอบอกว่ามีอะไรสนุก ๆ ให้เลือกทำเยอะมากและหลายอย่างก็เป็นไฮไลท์เด็ดที่ห้ามพลาดเลย
มาดูกันว่าสงกรานต์เชียงใหม่มีตัวเลือกอะไรน่าสนใจบ้าง?
สายสาด!
สำหรับคนที่ชอบการเล่นสาดน้ำ แหล่งที่คนมาเล่นน้ำกันมากที่สุดก็คือ "คูเมืองเชียงใหม่" สามารถสาดน้ำกันได้เต็มที่ เริ่มตั้งแต่กลางวันยันมืดค่ำเลยทีเดียว ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถนนหลายสายมักจะปิดการจราจรเพื่อให้ผู้คนได้เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน จึงแนะนำให้เลือกการเดินเล่นรอบคูเมืองดีที่สุด เพราะจริง ๆ คูเมืองเชียงใหม่สามารถเดินเล่นไปพลางสาดน้ำไปด้วยได้แบบเพลิน ๆ แต่ถ้าหากใครที่มากันเป็นก๊วนมีสมาชิกหลายคน ก็โบกรถแดงหรือรถสามล้อ ตกลงราคาให้เรียบร้อย แล้วนั่งรถเที่ยวรอบคูเมืองเชียงใหม่ก็ได้เหมือนกัน
และในปีนี้ท่านนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ก็ได้มาลงพื้นที่ตรวจคุณภาพน้ำคูเมืองเรียบร้อยแล้ว ผลที่ออกมาก็มั่นใจได้ว่าปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสบรรยากาศเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์บริเวณคูเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ประกอบกับในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ดอกลมแล้ง หรือดอกคูน ซึ่งชื่อทางการคือ ต้นราชพฤกษ์กำลังเบ่งบานรอบคูเมืองเชียงใหม่ เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือปี๋ใหม่เมืองนั่นเอง ซึ่งความเหลืองอร่ามของดอกคูนก็ทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยมาก
สายม่วน!
ต้องอธิบายก่อนว่า คำว่า “ม่วน” เป็นคำเมืองหรือคำในภาษาเหนือ แปลว่าสนุกสนาน ดังนั้นสายม่วนก็เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบความสนุกสนานท่ามกลางเสียงเพลงและผู้คน รวมถึงใครรักการเต้นหรืออยากแดนซ์แบบ Non-Stop สายนี้ก็ต้องไปให้สุด ซึ่งหลายคนยังไม่รู้ว่าปีนี้เชียงใหม่มีการจัด event และคอนเสิร์ตหลายแห่ง และทางผู้จัดได้ขนศิลปินดังมากันเพียบ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าศูนย์การค้าเมญ่า ลานหน้ากาดสวนแก้ว หน้าห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่
และคนที่อยากจะมันส์กันต่อภาคกลางคืนก็มีหลายร้านจัดคอนเสิร์ต เช่น ร้านวอร์มอัพ และร้านท่าช้างคาเฟ่ ซึ่งก็ทำให้คนที่เลือกสายม่วนสนุกได้ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนเลย
สายธรรมชาติ!
ส่วนใครที่อยากเล่นน้ำแต่ขอไปในแหล่งธรรมชาติก็มีหลายที่ให้ไปเที่ยวได้ทั้งที่อยู่ใกล้ ๆ ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ก็มี เช่น น้ำตกห้วยแก้วและวังบัวบานบริเวณเชิงดอยสุเทพ หรือจะเป็นน้ำตกมณฑาธาร ที่ตัวน้ำตกมีทั้งหมด 9 ชั้น ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ก็เดินทางได้สะดวกและไม่ไกลเช่นกัน หรือจะมาเล่นน้ำพักผ่อนแบบชิล ๆ ที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าก็ได้เช่นกัน เพราะที่นี่มีร้านอาหารหลายร้านและมีจุดที่ลงเล่นน้ำได้ กิจกรรมอื่น ๆ ก็มีให้ทำทั้งปั่นจักรยาน ถีบเรือเป็ดก็มี จึงเหมาะกับการพักผ่อนแบบครอบครัว
แต่ถ้าอยากจะออกไปนอกเมืองสักนิดและใช้เวลาในการเดินทางไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกแม่กลาง น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอจอมทอง และยังสามารถเดินทางไปเที่ยวได้อีกหลายที่ในบริเวณรอบ ๆ เช่น น้ำตกแม่ยะน้ำตกวชิรธาร น้ำตกศิริธาร
นอกจากนี้ยังมีน้ำตกบังตอง-น้ำพุเจ็ดสี น้ำตกแม่สา น้ำตกแม่ปาน และน้ำตกแม่กำปอง ก็เป็นน้ำตกที่สวยงามและใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไม่นาน แต่ละที่ก็มีจุดเด่นและความสวยงามแตกต่างกันไป ใครที่สนใจก็ลองไปหาดูรีวิวเพิ่มได้
และยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ยังมีจุดเล่นน้ำท่ามกลางธรรมชาติในจุดอื่นอีก ทั้งแก่งกื๊ดซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำยอดนิยมสำหรับชาวต่างชาติในการมาล่องแก่งเรือยางกันที่นี่ หรือจะล่องแพน้ำแม่วางแบบช้า ๆ และได้ชมธรรมชาติตลอดทางก็ได้
สายต่อนยอน!
คำว่า “ต่อนยอน” เป็นคำที่อธิบายถึงลักษณะอาการเนิบ ๆ ช้า ๆ สายต่อนยอนจึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น เดินสรงน้ำพระตามวัดต่าง ๆ ในตัวคูเมืองเชียงใหม่ และที่เป็นไฮไลท์สำคัญ คือ ประเพณีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ พระคู่บ้านคู่เมือง ซึ่งมีขบวนแห่ในวันวันสิ้นปีเก่า หรือ วันสังขานล่อง โดยชาวบ้านจะจัดเตรียมน้ำขมิ้นส้มป่อย ใช้ขันน้ำที่เรียกว่า “สลุง” เติมน้ำแล้วนำฝักส้มป่อยปิ้งให้มีกลิ่นหอมหักใส่ลงไปพร้อมกับด้วยเกสรดอกไม้แห้งที่มีกลิ่นหอม เช่น ดอกสารภี หรือดอกคำฝอย ผสมให้เข้ากัน เพื่อรอสรงน้ำเป็นมงคลชัยตลอดปี หรือจะชมขบวนการประกวดแม่ญิงขี่รถถีบกางจ้อง ซึ่งประเพณีที่ได้ถือปฏิบัติกันมาเป็นประจำทุกปี ได้ชมความงามของสาวเชียงใหม่อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งประเพณีสำคัญ คือ การขนทรายเข้าวัด ซึ่งมีมานานแต่โบราณ โดยจะขนทรายกันในวันเนาว์ คือ วันที่ 14 เมษายน เพื่อที่จะนำทรายไปไว้ใช้สร้างสิ่งต่าง ๆภายในวัด เช่นเจดีย์ โบสถ์ วิหาร กุฏิสงฆ์ เป็นต้น เนื่องจากในสมัยโบราณชาวล้านนาถือว่าการนำสิ่งของที่เป็นของวัดกลับมาบ้านเป็นบาป แม้จะเป็นเพียงเม็ดดินเม็ดทรายที่ติดตัวออกมาจากวัดก็ตามถือว่าเป็นสิ่งไม่ดีไม่งาม ดังนั้นเมื่อมีโอกาสที่จะขนทรายกลับไปถวายคืนวัด จึงถือว่าเป็นการสร้างบุญกุศลอย่างหนึ่งนั่นเอง
เห็นแบบนี้แล้ว ใครถูกใจสายไหนก็เลือกได้ตามชอบเลย ส่วนใครที่ยังไม่มีแผนจะไปไหนจังหวัดเชียงใหม่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างครบและพลาดไม่ได้จริง ๆ สำหรับการเที่ยวสงกรานต์ในปีนี้
ภาพประกอบ
thailandtourismdirectory.go.th
www.mots.go.th