ในบ้านเราอาหารญี่ปุ่นถือเป็นอาหารที่คนชอบไม่แพ้อาหารไทยเลยครับ จนบางทีเดินไปตามห้างกวาดตามองหาร้านอาหารญี่ปุ่นแล้ว ดูจะเยอะกว่าร้านอาหารไทยเสียอีก
และหนึ่งในอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็หนีไม่พ้น “ซูชิ” ครับ
โดยซูชิประเภท “นิกิริซูชิ” เป็นซูชิที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งนิกิริซูชิจะประกอบด้วยสองอย่างก็คือ ส่วนของข้าวซูชิ “ชาริ” (シャリ) และส่วนของหน้าซูชิ “เนตะ” (ネタ) ทั้งสองส่วนนี้มีความสำคัญเท่า ๆ กัน แม้ว่าส่วนของหน้าซูชิจะเป็นตัวกำหนดรสชาติและราคาของซูชิ ว่าซูชิคำนั้นจะมีราคาแพงมากน้อยขนาดไหน
แต่ส่วนของข้าวซูชิก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะมันจะต้องถูกปรุงรสมาอย่างดีด้วยเกลือ น้ำตาล น้ำส้มสายชู อย่างพอเหมาะ เพื่อเสริมรสของหน้าซูชิให้อร่อยยิ่งขึ้น เรียกว่าถ้าข้าวซูชิไม่อร่อยก็จะทำให้ซูชิคำนั้นไม่อร่อยไปเลย แม้ว่าหน้าซูชิจะดีเลิศแค่ไหนก็ตาม
แต่แม้ข้าวซูชิจะมีความสำคัญต่อซูชิขนาดนั้น ข้าวซูชิก็กลับเป็นสิ่งที่ถูกคนทิ้งหรือกินเหลือเป็นจำนวนมากครับ
อย่างไม่นานมานี้ ก็กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ของญี่ปุ่น เมื่อมีการโพสต์ทวิตเตอร์รูปโต๊ะอาหารในร้านซูชิหมุนแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยข้าวซูชิที่ถูกลอกเอาหน้าของซูชิไปจนหมด เหลือทิ้งข้าวซูชิเอาไว้เต็มโต๊ะ ซึ่งก็มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขว้างถึงความไม่เหมาะสม
ผู้ที่เคยทำงานในร้านซูชิหมุนก็บอกว่า ภาพของข้าวซูชิที่ถูกทิ้งเอาไว้แบบนี้เป็นภาพที่เขาพบเห็นเป็นประจำ ซึ่งเขารู้สึกว่ามันเป็นภาพที่ไม่ดีที่อาหารต้องถูกทิ้งขว้างแบบนี้ และส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าถ้าหากอยากทานเฉพาะหน้าซูชิก็ควรสั่งเป็น “ซาชิมิ” หรือปลาดิบเป็นจาน ๆ มาแทน จะมาสั่งซูชิแล้วลอกกินแต่หน้าซูชิแบบนี้ทำไม
แต่ก็มีเหตุผลจากฝั่งคนที่ชอบกินหน้าซูชิแล้วทิ้งข้าวซูชิเอาไว้เหมือนกัน โดยคนที่ให้ความเห็นเรื่องนี้ก็เป็นถึงดารานักร้องดังของญี่ปุ่นด้วย เขาก็คือ “Gackt” นักร้องเพลงร็อคชื่อดังวัย 46 ปีนั่นเอง นอกจากเขาจะเป็นนักร้องและนักแสดงที่มีชื่อเสียงแล้ว เขายังมีชื่อเสียงในด้านการรักษารูปร่างและลดน้ำหนักอีกด้วยครับ เขามักจะถูกเชิญไปเป็นแขกรับเชิญในรายการทีวีหัวข้อเกี่ยวกับการลดน้ำหนักเสมอ ๆ
Gackt ได้ออกมาบอกว่าตัวเขาเองนั้นชอบทานซูชิมาก แต่กลับแทบไม่เคยกินส่วนข้าวของซูชิเลย !! ซึ่งแน่นอนว่าพอเขาพูดแบบนั้นก็สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนดูเป็นอย่างมากว่าในเมื่อเป็นแบบนั้น ทำไมเขาถึงไม่สั่งซาชิมิมากินแทนล่ะ ทำไมถึงสั่งซูชิมากินแต่หน้าแล้วทิ้งข้าวแบบนั้น ?
ซึ่ง Gackt ก็ได้ตอบคำถามนี้ในการให้สัมภาษณ์ทางช่อง Fuji TV เอาไว้ว่า
“มันเป็นเพราะปลาบนหน้าซูชินั้นซึมซับรสชาติบางส่วนจากน้ำส้มสายชูบนข้าวซูชิเอาไว้ ทำให้ปลาที่อยู่บนหน้าซูชินั้นมีรสชาติที่อร่อยกว่าซาชิมิ ที่เป็นปลาเฉย ๆ ไม่ได้ผ่านการปรุงรสอะไรใด ๆ และปลาบนหน้าซูชิก็จะมีกลิ่นเฉพาะที่หาไม่ได้จากที่อื่นอีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่เขาชอบจริง ๆ คือปลาบนหน้าซูชิ ไม่ใช่ซาชิมิ มันจึงแทนกันไม่ได้”
ส่วนข้าวของซูชินั้น เขาไม่สามารถทานได้ด้วยเหตุผลของการควบคุมน้ำหนัก เขาจึงเลือกใช้วิธีกินเฉพาะหน้าซูชิ และทิ้งข้าวซูชิมาโดยตลอด ซึ่งเขาก็รู้สึกผิดต่อเรื่องนี้มาก แต่เขาก็มีเหตุผลของเขา
แน่นอนว่าแม้เหตุผลของ Gackt จะเป็นเหตุผลที่พอเข้าใจได้ แต่มันก็สร้างความไม่พอใจให้กับชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่อยู่ดี เพราะยังไงมันก็ถือเป็นมารยาทที่แย่และไม่ควรทำตาม
ทางแก้ของเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่ความพอดีมากกว่า คือสมมุติว่าเรากลัวที่จะอิ่มเกินไปถ้าหากต้องทานซูชิพร้อมข้าวเยอะ ๆ เราก็อาจจะเลือกทานซูชิให้น้อยลงในปริมาณที่เราสามารถทานได้หมดแทน โดยอาจสั่งซาชิมิมาเพิ่มถ้าหากรู้สึกทานแต่ซูชิแล้วไม่สะใจ
ทางร้านเองก็คงต้องรู้จักการปรับตัวด้วย ถ้าหากมีลูกค้าที่เหลือข้าวทิ้งไว้จำนวนมาก ก็อาจจะเป็นไปได้ว่ามันหมายถึงข้าวของร้านนั้นรสชาติไม่ดี ร้านก็ควรจะมีการปรับปรุงพัฒนาอยู่เสมอ อาจเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าที่ไม่ชอบทานข้าว เช่นการลดข้าวให้น้อยลง หรือทำซูชิให้คำเล็กลง เป็นต้น
เพราะอย่างไรก็ตามนอกจากเรื่องมารยาทที่ดีแล้ว ทั้งข้าวและหน้าซูชิก็เป็นสิ่งที่สร้างมาคู่กันและคอยเสริมรสชาติให้แก่กัน ดังนั้นทานไปพร้อมๆกัน จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามที่พ่อครัวเขาตั้งใจไว้อีกด้วยครับ
ข้อมูลจาก news.livedoor
ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TALK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ
ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook :Eak SummerSnow
Youtube : Eak SummerSnow
