โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ฮาโลวีนที่ญี่ปุ่น คือวันปลดปล่อยธาตุแท้จริง ๆ ของคนญี่ปุ่น ? - เพจ Eak SummerSnow

TALK TODAY

เผยแพร่ 01 พ.ย. 2562 เวลา 17.05 น. • เพจ Eak SummerSnow

ว่ากันว่าภาพโดยรวมของประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่ปลอดภัยสูง มีความสะอาดในแทบทุกตารางนิ้ว และผู้คนล้วนมีระเบียบวินัย จนมักจะถูกยกย่องจากชาวต่างชาติอยู่เสมอ ๆ (โดยเฉพาะคนไทยที่มักจะยกญี่ปุ่นให้เป็นแบบอย่างในบางด้านเสมอ) มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และจัดกิจกรรมที่น่าสนใจดึงดูดคนให้เข้าไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี…

แต่ถ้าจะพูดถึงกิจกรรมประจำปีอย่างหนึ่งที่ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างปัญหาและสร้างความไม่สบายใจให้กับชาวญี่ปุ่นมากที่สุด ก็คือกิจกรรมที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้แหละครับ นั่นก็คือ “วันฮาโลวีน” นั่นเอง

ฮาโลวีนเป็นกิจกรรมที่ญี่ปุ่นรับมาจากทางฝรั่งเขานั่นแหละ เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน รวมถึงร้านค้าต่าง ๆ ในญี่ปุ่นก็จะตกแต่งเป็นธีมฮาโลวีนมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม คอยบิ้วมาตลอดเดือน ทำให้คนญี่ปุ่นบางกลุ่มค่อนข้างมีความ “อิน” กับวันฮาโลวีนค่อนข้างมาก 

ซึ่งในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ทุกคนก็จะออกมาเดินในใจกลางเมือง แต่งเป็นผี (บางคนก็ไม่ได้แต่งเป็นผี แต่แต่งเป็นอะไรก็ได้ที่อยากแต่ง) ทำให้ฮาโลวีนกลายเป็นงานคอสเพลย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประจำปีไปโดยปริยาย

และด้วยความที่มีคนมารวมตัวกันเยอะ ๆ บางคนก็สนุกกันจนเกินพอดี ประกอบกับความเมา กลายเป็นผีเมาเหล้า ก็ทำให้ฮาโลวีนกลายเป็นวันที่มักจะมีเรื่องเกิดขึ้นทุก ๆ ปี ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะวิวาท ทำลายทรัพย์สิน ขโมยของ การลวนลามทางเพศ รวมถึงการทิ้งขยะเกลื่อนเมือง ที่เราจะเห็นผู้คนในเมืองต้องออกมาช่วยกันเก็บกวาดทุก ๆ ปีหลังจากกิจกรรมฮาโลวีนผ่านพ้นไป 

โดยเฉพาะสถานที่จัดกิจกรรมฮาโลวีนที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น “ชิบูย่า” ซึ่งในวันฮาโลวีนก็จะเต็มไปด้วยผู้คน (ผี) หลั่งไหลกันมา คนต่างชาติก็มา คนญี่ปุ่นเองก็จัดเต็ม ทำให้ปีที่แล้วเกิดเหตุในฮาโลวีนที่ชิบูย่ามากที่สุด โดยเฉพาะการทำลายทรัพย์สิน พังประตูร้านค้าแถวนั้น หรือร่วมมือกันคว่ำรถบรรทุกที่จอดอยู่ด้วยความสนุก (คนร้ายมีทั้งคนต่างชาติและคนญี่ปุ่นนะ) ซึ่งเขาก็เพิ่งตามจับไปจนหมดก่อนที่ฮาโลวีนในปีนี้จะเริ่มได้ไม่นานนี่แหละครับ 

ทำให้ปีนี้วันฮาโลวีนที่ชิบูย่าได้ออกกฎห้ามการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด รวมถึงการกำหนดมารยาทในการเข้าร่วมกิจกรรม โดยเขาแบ่งโซนเอาไว้อย่างชัดเจน เพื่อหวังที่จะควบคุมกิจกรรมวันฮาโลวีนให้มีระเบียบ ไม่เละเทะเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา 

แต่ผลก็คือ ยังไม่ทันที่ฮาโลวีนจะเริ่ม ก็มีการ “ตีกันนอกรอบ” ของเหล่าผีฮาโลวีนที่มาเดินกันก่อนถึงวันฮาโลวีนแล้ว คือประมาณว่าวัน“ฮาโลวีนห้ามเมากันนักใช่ไหม ? งั้นแต่งผีมาเมาก่อนวันฮาโลวีนก็ไม่ผิดสินะ !” ซึ่งก็โดนจับกันไปตามระเบียบ แต่บรรยากาศของฮาโลวีนปีนี้ก็ค่อนข้างเป็นไปอย่างเรียบร้อย เพราะมีการเตรียมรับมือที่มีความพร้อมมากขึ้น

ปีนี้ผมมาเข้าร่วมงานฮาโลวีนที่โอซาก้าครับ กิจกรรมฮาโลวีนที่โอซาก้าเขาจะจัดบริเวณ “โดทงบุริ” ซึ่งเป็นจุดที่ผู้คนมารวมตัวกันมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่น่าแปลกคือปกติบุคลิกลักษณะนิสัยของคนคันไซ (ทางฝั่งโอซาก้า) จะเป็นคนที่สนุกสนานเฮฮา ไม่ค่อยเคร่งในกฎระเบียบมากเท่าคนคันโต (ทางฝั่งโตเกียว) 

ดังนั้นภาพของฮาโลวีนที่โอซาก้านั้นมันน่าจะ “เละเทะ” กว่าทางฝั่งโตเกียว…แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้ามครับ กิจกรรมฮาโลวีนทางฝั่งโอซาก้ากลับเรียบร้อยกว่าฝั่งโตเกียวค่อนข้างมาก อาจจะเพราะสเกลของงานและคนที่เข้าร่วมมีน้อยกว่า ซึ่งก็ทำให้คดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นทางฝั่งโอซาก้าในวันฮาโลวีนน้อยกว่าทางฝั่งโตเกียว แม้จะไม่มีกฎห้ามดื่มเหล้า หรืออะไรเหมือนทางฝั่งโตเกียว แต่คนที่ออกมาก็ออกเดินก็มากันสนุก ๆ มีเมากันบ้าง แต่ค่อนข้างไปทางน่ารัก ๆ กว่าทางฝั่งโตเกียวด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ที่เป็นแบบนี้เขาบอกว่าจริง ๆ แล้ววันฮาโลวีนมันก็ตรงตามตัวมันแหละครับ มันคือ “วันปล่อยผี” เป็นวันที่ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ปลดปล่อย ไม่ต้องคิดอะไรมาก คือปกติ “ผี” เหล่านั้นอาจจะเป็นนักเรียน นักศึกษา พนักงานบริษัท หรือรับราชการ อาจจะเป็นแม่บ้านที่ต้องคอยดูแลสามีดูแลลูก 

แต่ในวันฮาโลวีน ภายใต้หน้ากากผีเหล่านั้น พวกเขาได้วางหน้ากากทางสังคมที่ตัวเองสวมใส่อยู่ทุกวันลง ทำตัวสนุกสนาน ปลดปล่อยสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ในวันปกติออกมา นั่นก็คือชีวิตที่ไม่ต้องการระเบียบกฎเกณฑ์อะไรมากมาย หลังจากที่ถูกกฎเกณฑ์ทางสังคมที่เข้มงวดของญี่ปุ่นกดดันเอาไว้ตลอด ก่อนที่วันฮาโลวีนจะสิ้นสุดลง แล้วพวกเขาเหล่านั้นก็ต้องกลับไปเป็นตัวเองอีกครั้ง

มีนักวิชาการของญี่ปุ่นเขาได้วิเคราะห์เอาไว้ว่า จริง ๆ แล้วคนญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้อยากจะทำตัวตามกฎเกณฑ์ เคร่งครัดหรือมีวินัยอะไรสักเท่าไหร่หรอก เขาก็อยากทำตัวสบาย ๆ มักง่ายเหมือนกันนั่นแหละ เพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์ เพียงแต่ถ้าเขาทำแบบนั้นในชีวิตประจำวัน เขาก็จะได้รับความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัยและแปลกแยกจากการอยู่ในสังคมที่มีกฎระเบียบแบบสังคมญี่ปุ่น ดังนั้นกิจกรรมอย่างวันฮาโลวีน ก็เลยกลายเป็นกิจกรรมที่ได้ปลดปล่อยธาตุแท้ในเบื้องลึกของคนญี่ปุ่นออกมาเท่านั้นเอง…

ข้อมูลอ้างอิง: japantoday

ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TALK TODAY   จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม

Facebook: Eak SummerSnow

Youtube: Eak SummerSnow

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0