โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ดับทุกข์ สร้างกระแส หรือหนีปัญหา? บวชชุบใจ? หรือ บวชชุบตัว!

TheHippoThai.com

เผยแพร่ 24 ต.ค. 2561 เวลา 05.00 น.

ดับทุกข์ สร้างกระแส หรือหนีปัญหา? บวชชุบใจ? หรือ บวชชุบตัว!

สำหรับชาวพุทธแล้ว การบวช ไม่ว่าจะเป็นบวชพระสำหรับผู้ชาย หรือบวชชีสำหรับผู้หญิง ล้วนแต่เป็นการละเว้นจากการใช้ชีวิตในแบบฆราวาสที่ยังมี รัก โลภ โกรธ หลง เพื่อเข้าสู่ระเบียบแบบแผนใช้ชีวิตตามหลักศีลธรรมที่เข้มข้นกว่าคนทั่วไป

เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นนักบวช ที่จะละอัตตา เข้าถึงนิพพานอันเป็นจุดหมายปลายทางของศาสนาพุทธ

เช่นเดียวกับภาษาบาลีของคำว่าบวช ที่ใช้ว่า ปพฺพชฺชาที่แปลว่า เว้นไปโดยสิ้นเชิง

แต่น่าแปลกที่ตั้งแต่ยังจำความได้ เรามักเห็นข่าวของการใช้พิธีบวช เพื่อเป็นการ ‘หนี’ จากปัญหาทางโลก หรือบางครั้งก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อ ‘สร้างกระแส’ ของคนบางกลุ่ม เพื่อให้ตัวเองได้ชุบตัวจากเรื่องราวเก่าๆ ที่ดูไม่ดี หวังว่าการเข้ามาอยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์จะทำให้ตัวเองได้กลับมาเป็นคนที่ถูกยอมรับอีกครั้ง

จนทำให้น่าสงสัยว่าสำหรับคนกลุ่มนี้ การบวชเป็นเพียงทางลัดเพื่อ ‘ชุบตัว’ หรือเปล่า?

มีหลายกรณีที่การบวชถูกใช้เป็นเครื่องมือ หากย้อนกลับไปช่วงปี 2519 การกลับมาของ "จอมพลถนอมกิตติขจร"อดีตนายกรัฐมนตรีที่ต้องออกจากประเทศจากแรงกดดันหลังเกิดเหตุการณ์ไล่ปราบนักศึกษาเมื่อวันที่ 14 ตุลา 2516 ซึ่งใช้การบวชเป็นสามเณรเป็นเครื่องมือให้ตัวเองได้กลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยความหวังว่าประชาชนจะยอมรับและให้อภัยด้วยสถานะนักบวชของศาสนาพุทธ

แต่สุดท้ายก็เป็นชนวนให้เกิดเหตุการณ์ที่พยายามถูกลบออกไปจากสังคมไทยอย่าง 6 ตุลา 2519

หรือถ้าจะใกล้เข้ามาในยุคสมัยปัจจุบันอีกหน่อย เราคงคุ้นเคยกับข่าวอาชญากรรมที่ตำรวจไปเจอตัวคนร้ายที่หลบหนีคดีไปบวชในวัดห่างไกล พร้อมเหตุผลเมื่อถูกจับได้ว่าหวังจะกลับตัวกลับใจ บวชชดใช้กรรมที่ทำมา แต่คงลืมไปว่ากฏหมายไทยไม่ได้ห้ามจับอาชญากรในคราบผ้าเหลือง!

และบางคน (โดยเฉพาะคนวงการบันเทิง) ก็หวังใช้การบวชเพื่อสร้างพื้นที่สื่อ เพราะการปฏิบัติธรรมดูจะตรงกันข้ามกับภาพลักษณ์ในวงการ ชวนให้เป็นพาดหัวข่าวได้ง่ายๆ ว่าคนนี้น่ะเหรอ ที่จะกล้าละทิ้งตัวตนมาใช้ชีวิตเพื่อเข้าสู่นิพพาน?!

ส่วนหนึ่งก็อาจจริง แต่ผลพลอยได้ที่ตามมาคือไมค์สัมภาษณ์ที่มารอจ่ออยู่หน้าวัดหลังจากสึกแทบจะทันที หรือว่านี่จะเป็นแผนสร้างงานสร้างรายได้เพราะตอนบวชอดรับปัจจัยจากงานนอกกันนะเนี่ย?

กลับมาดูที่ความหมายของการบวช หรือคำว่า ‘ปพฺพชฺชา’ โดยเนื้อแท้ตามแก่นของพระพุทธเจ้า การ ‘เว้นไปโดยสิ้นเชิง’ ของความหมายทางตรงจากคำนี้ ไม่ได้หมายถึงเว้นจากภาพหรือกรรมก่อนหน้าที่จะมาบวช เพื่อให้จิตใจใสสะอาดหมดทุกข์ทั้งปวง แต่มันคือการเว้นไปโดยสิ้นเชิง ของนิสัยของฆราวาส เพื่อเข้าสู่วินัยของสงฆ์ที่เคร่งครัด เตรียมพร้อมเผยแพร่ศาสนา และเตรียมพร้อมตัวเองสู่นิพพาน

การเว้นจากความมีทรัพย์สมบัติ สละวงศ์ญาติ เว้นจากความรู้สึกทางกามคุณแบบฆราวาส คือสามสิ่งหลักที่พระพุทธเจ้ากำหนดไว้ให้ผู้ที่จะมาบวชต้องเตรียมพร้อมปฏิบัติ เพื่ออานิสงส์ที่จะเกิดกับผู้บวชเอง ซึ่งในคำอธิบายล้วนแต่พูดถึงการเรียนรู้หลักธรรมเพื่อออกมาเป็นคนที่ดีกว่าเก่า (หากบวชเป็นเวลาไม่นาน) หรือเข้าสู่นิพพาน หากตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะตั้งมั่นในสมณะนี้ตลอดไป

และเราไม่พบเจอประโยคไหนที่บอกว่า การบวช คือหนทางลัดเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองในทางโลก ทำให้ความผิดที่ก่อไว้มลายไป หรือทำให้ภาพลักษณ์ที่เสียหายถูกชุบมาใหม่เพียงเพราะได้ชื่อว่าคนๆ นั้นผ่านการเล่าเรียนธรรมะมาเรียบร้อยแล้ว

การบวช จึงถูกลดสถานะให้กลายเป็น "การบวชกึ่งสำเร็จรูป"ที่คนไม่ได้เห็นคุณค่าของมันอย่างที่เป็น

ไม่ว่าคุณจะทำความผิด หนีหนี้ หนีคดี อยากกลับประเทศ อยากมีพื้นที่สื่อ เพียงแต่ฉีกซอง เติมน้ำร้อน รอสามเดือน เพียงแค่นี้การบวชก็สามารถทำให้คุณ ‘ดู’ จะเป็นคนดีในสังคมไทยขึ้นมาได้ เพราะการบวช เป็นหน้าที่ของลูกผู้ชายไทย เป็นพื้นที่ของการเข้าสู่โลกสีขาว เพื่อฉาบสีขาวให้ตัวเองได้เข้าสู่โลกสีดำภายนอก

จะได้ดูว่าเป็น ‘คนดี’ ทางกลางหมู่คนที่ฉาบสีเทาๆ

ความกึ่งสำเร็จรูปของการบวชในทุกวันนี้ เลยทำให้ปรากฎการณ์ชุบตัวเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ อย่างที่เห็น  เพราะคนเหล่านี้ชอบคิดกันว่าการสร้างความดีให้ตัวเองทำได้ง่ายๆ ผ่านการห่มผ้าเหลือง ซึ่งไม่ได้แตกต่างอะไรจากพวกเราที่เข้าใจกันแบบผิวเผินมาตลอดโดยไม่ตั้งคำถาม

 แต่อย่าลืมว่าในหลักศาสนาพุทธกรรมดีกับกรรมชั่วมันอยู่คนละหลอดกันนะคุณ! 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0