คนมีความสุขมักจะยิ้มและหัวเราะไปกับเรื่องราวและสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าคนมีทุกข์ / สังเกตให้ดีคนที่ยิ้มบ่อย ๆ จะทุกข์น้อยกว่าคนหน้าบึ้ง และการที่เราหน้าบอกบุญไม่รับตลอดเวลาก็มักจะนำพาความไม่รื่นรมย์มาด้วยเสมอ
ถ้าสมการคือ รอยยิ้ม = ความสุข ดังนั้นการไม่ยิ้มหรือหน้าบึ้ง ก็ควรจะต้องเท่ากับการไม่มีความสุข แล้วเราจะอยากไม่มีความสุขไปทำไม ในเมื่อพลังแห่งรอยยิ้มดึงดูดทั้งความสุขและเรื่องราวดี ๆ มาได้มากมาย
แล้วความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ไหน จะทำอย่างไรให้มีความสุขได้อย่างยั่งยืนและแท้จริง ง่าย ๆ แค่ 7 ขั้นตอนนี้ ถ้าทำได้! คุณก็จะพบกับความสุขที่แท้จริง
2. หน้าบึ้งให้น้อย ยิ้มให้มาก
หน้าบึ้งให้น้อย ยิ้มให้มาก
หน้าบึ้งมักเป็นอาการที่เกิดจากความเครียด ความหงุดหงิดใจ หรือมีอะไรให้ไม่พอใจ ซึ่งต้นเหตุเหล่านี้ทำให้ความสุขของคุณลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ เรียกว่าพอยิ่งเครียด ก็ยิ่งหน้าบึ้งลงเรื่อย ๆ และพอบึ้งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทุกข์มากเท่านั้น
จริง ๆ หน้าบึ้งเป็นอาการอัตโนมัติที่มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว รู้สึกตัวอีกที อ้าว! หน้าถมึงทึงไปเรียบร้อยแล้ว และการที่หน้ากลายเป็นแบบนั้นก็แสดงให้เห็นว่าจิตใจข้างในกำลังเป็นทุกข์ หรือมีเรื่องในใจ
วิธีแก้อาการหน้าบึ้งที่ง่ายที่สุดเลยก็คือ ต้องรู้สึกให้ได้และให้เร็ว อย่างที่บอกว่าคนเรามักหน้าบึ้งแบบไม่รู้ตัวและเกิดจากจิตใจที่ส่งผลมายังใบหน้า ดังนั้นถ้ารู้สึกตัวได้เร็ว ก็แก้ได้เร็ว เมื่อรู้แล้วว่าเรากำลังเป็นทุกข์ด้วยเรื่องอะไร เพราะอะไร ตอนแรกอาจจะยังแก้ไม่ได้เดี๋ยวนั้น แต่ขอให้เปลี่ยนความขุ่นข้องหมองใจให้ได้เสียก่อน เปลี่ยนความเครียดเป็นรอยยิ้ม เมื่อเปลี่ยนได้แล้ว หนทางและวิธีแก้ก็จะง่ายขึ้น
อย่าลืมคนเราไม่มีทางเปลี่ยนความทุกข์ให้กลายเป็นความสุขได้ทันที แต่ถ้ารู้สึกตัวว่ากำลังเป็นทุกข์เพราะสิ่งใด หนทางแห่งการดับทุกข์ก็เปิดออกมาให้เห็นแล้ว
พลังแห่งรอยยิ้ม
การยิ้มหรือการหัวเราะเป็นการเปิดตัวเองอย่างหนึ่ง เป็นภาษาสากลที่ไม่ว่าชนชาติไหน สัญชาติอะไรก็สื่อความหมายได้เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือการแสดงออกถึงความสุข
ข้อดีของการยิ้มที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์มาแล้วว่ามีผลต่อร่างกายของเราโดยตรงก็คือ ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ลดความเครียด ช่วยฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ และเป็นการฝึกสมองที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะแค่ยิ้มทุกวันก็เหมือนได้ฝึกสมองให้เข้าใกล้ความสุขมากขึ้น ยังไม่รวมข้อดีอื่น ๆ ที่มีผลต่อบุคลิกภาพ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ดูเป็นมิตรขึ้น น่าไว้วางใจมากขึ้น ฯลฯ
แต่น่าแปลกที่เดี๋ยวนี้คนเราโหยหาแต่ความสุขที่อยู่ไกลตัว ต้องมีโน่น ต้องมีนี่ถึงจะมีความสุข ต้องได้นั่น ได้นี่ถึงจะไม่เป็นทุกข์ ทั้ง ๆ ที่ความสุขมันอยู่ใกล้ตัวเรานี่เองแต่ก็ดันมองข้ามและผ่านเลยไป พาลให้เกิดทุกข์โดยไม่จำเป็นเข้าให้อีก
หนึ่งในวิธีดับทุกข์คือการทำให้ตัวเองมีความสุข และวิธีง่ายแสนง่ายที่จะสร้างความสุขได้ก็คือ “การยิ้ม”
ยิ้มที่ต้องเสียเงินสักบาท ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมากมาย เพราะฉะนั้นมายิ้มให้มากขึ้น ลดความหงุดหงิด หน้าบึ้ง ขุ่นข้องหมองใจให้น้อยลง แค่นี้ก็มีความสุขได้แล้ว หัดมีความสุขกับเรื่องเล็ก ๆ รอบตัว แล้วคุณจะหลุดพ้นจากทุกข์ได้เอง
