ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าผู้ชายจะตายง่ายกว่าผู้หญิง

หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างว่าผู้ชายมีอัตราความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเร็วกว่าผู้หญิง อย่างประเทศไทยเอง จำนวนประชากรเพศหญิงก็มีมากกว่าเพศชาย โดยเพศหญิงมีประมาณ 33 ล้านคน ส่วนเพศชายประมาณ 32 ล้านคน และเกือบทุกประเทศจำนวนประชากรเพศหญิงมักจะมากกว่าเพศชาย มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่จำนวนประชากรเพศชายมีมากกว่า เช่น ไต้หวัน ตุรกี ดูไบ เป็นต้น 

นอกจากนี้ ในบางประเทศก็ยังมีอัตราเด็กแรกเกิดที่เป็นเพศชายมีมากกว่าเพศหญิง แต่จำนวนประชากรเพศชายกลับมีน้อยกว่าเพศหญิง อย่างในสหรัฐอเมริกาประมาณคร่าว ๆ ว่ามีเด็กชายเกิด 106 คน จะมีเด็กหญิงเกิด 100 คน แต่เมื่อเริ่มย่างเข้าวัยรุ่น กลับมีตัวเลขยืนยันออกมาว่าผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชาย และเมื่ออายุประมาณ 75 ปี ผู้หญิงจะมีชีวิตอยู่ในอัตราส่วนหญิง 3 คนต่อชาย 2 คน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้ชายมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเร็วกว่าผู้หญิงจากหลายสาเหตุ

1. ขนาดของร่างกาย 

ด้วยสรีระและรูปร่างแล้ว จะเห็นว่าขนาดของร่างกายเพศชายจะสูงใหญ่กว่าเพศหญิง ซึ่งความสูงไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป จากงานวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่าคนที่มีความสูงเกิน 6 ฟุตหรือ 180 เซนติเมตร มีโอกาสที่จะมีชีวิตไม่ยืนยาวมากกว่าคนที่มีความสูงน้อยกว่า 6 ฟุต โดยผลการวิจัยยังพบอีกว่าเรื่องความสูงนี้ไม่เฉพาะแค่คนเท่านั้น ผลเช่นนี้ยังปรากฏในสัตว์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นปลา แมลง สุนัข เป็นต้น

2. ฮอร์โมนที่แตกต่างกัน 

ฮอร์โมนเพศหญิงมีความแตกต่างจากฮอร์โมนเพศชายอย่างสิ้นเชิง ผู้หญิงมีฮอร์โมนเอสโตรเจนมากกว่า ซึ่งเอสโตรเจนมีผลต่อปริมาณของสเต็มเซลล์ในร่างกาย ถ้าฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ในระดับที่เหมาะสมก็จะทำให้ระดับสเต็มเซลล์ในร่างกายเพิ่มขึ้น มีส่วนช่วยซ่อมแซมอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำให้อายุยืนยาว ในขณะที่เพศชายจะมีฮอร์โมนเทสโทเตอโรน โดยเฉพาะในช่วงอายุ 15-24 ปี เป็นวัยที่พลังจากฮอร์โมนเทสโทเตอโรนกำลังพลุ่งพล่าน ส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมที่รุนแรงเป็นเหตุให้ผู้ชายที่มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากขึ้นด้วย

3. การใช้ชีวิต 

ไม่ว่าจะด้วยฮอร์โมนหรืออะไรก็ตาม มีผลวิจัยออกมาแล้วว่าผู้ชายมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยงกว่าผู้หญิง ทั้งการสูบบุหรี่ การกิน-ดื่ม ความเครียด การใช้ชีวิต อาชีพ งานอดิเรก และการดูแลตัวเอง ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มีความเสี่ยงทำให้ผู้ชายตายก่อนวัยอันควรด้วยกันทั้งนั้น รวมถึงคนที่ชอบความเสี่ยงและชอบการผจญภัยก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเสียชีวิตมากกว่า

4. การดูแลตัวเองและใส่ใจสุขภาพ 

โดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงจะเอาใจใส่เรื่องการดูแลตัวเองและใส่ใจสุขภาพมากกว่า ขณะที่ผู้ชายทั่วไปจะใช้ชีวิตอย่างสุ่มเสี่ยงกว่าแถมยังไม่ค่อยใส่ใจสุขภาพตัวเองเท่าที่ควร ถ้าพูดถึงการตรวจสุขภาพหรือการพบแพทย์ ผู้ชายจะทำน้อยกว่าผู้หญิง แถมยังหัวรั้นกว่าด้วย เพราะผู้ชายมักไม่ยอมรับว่าตนเองเจ็บป่วยนั่นเอง ส่วนการดูแลสุขภาพ แม้ปัจจุบันผู้ชายจะหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น แต่สัดส่วนก็ยังถือว่าน้อยกว่าผู้ชายส่วนใหญ่อยู่ดี

มอง 4 ปัจจัยที่เป็นตัวเร่งความเสี่ยงในการเสียชีวิตของผู้ชายแบบนี้แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะอายุยืน นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตบนความไม่เสี่ยงด้วย