รถยนต์พระที่นั่งในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

แพรวเชื่อว่าพวกเราปวงชนชาวไทยทั้งประเทศคงอยากทราบถึงพระราชประวัติ ของใช้ส่วนพระองค์ พระจริยวัตรต่างๆของในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมถึงรถยนต์พระที่นั่งในพระองค์ท่าน ที่คราใดมีเสด็จฯเป็นต้องชะเง้อตามองว่าคันไหนที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ประทับอยู่เป็นแน่ ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่แพรวไปเจอเพจ siambimmer เขียนโดย northyc ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่มีความหลงใหลและหลงรักเรื่องราวของรถยนต์พระที่นั่งในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงเป็นที่มาที่แพรวรวบรวมมาให้ได้ชมกัน

รถยนต์องค์แรก ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์รถยนต์พระที่นั่งโบราณในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ณ วังสุโขทัย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นคือ Mercedes-Benz 300SL Gullwing 1955

รถยนต์องค์นี้เข้าประจำการเพื่อเป็นพระราชพาหนะในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2498 เป็นรถยนต์ที่จอมพล ป.พิบูลสงคราม น้อมเกล้าฯถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ในสมัยนั้น แล้วได้มีการเปลี่ยนทะเบียนจาก 1ด0010 ไปเป็น 1ด1110 ในภายหลัง ซึ่งรถยนต์องค์ดังกล่าวได้มีการเปิดให้นิตรสารทั้งในและต่างประเทศมีโอกาสได้เก็บภาพและทำประวัติไว้อย่างงดงาม รถยนต์องค์นี้ถือว่าเป็นซูเปอร์คาร์ในสมัยนั้นเลยก็ว่าได้ เป็นรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพที่สูง และมีเพียง 8 คันในประเทศไทย ส่วนรถยนต์องค์นี้ถือว่าเป็นองค์ที่สภาพสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย และยังคงเป็นรถที่สมบูรณ์มากที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน ทราบว่ารถยนต์องค์นี้เมื่อปี ค.ศ. 2009 ได้ใช้งานไปเพียง 2,021 กิโลเมตร ด้วยอายุถึง 57 ปี ท่านทรงรักและดูแลรถยนต์องค์นี้อย่างดี

รถยนตร์พระที่นั่ง 600 SWB & 600 Pullman Landaulet ปัจจุบันทั้งสองคันได้รับการบำรุงดูแลรักษาเป็นอย่างดีในคอลเล็คชั่นรถโบราณส่วนพระองค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร

Mercedes-Benz รหัสตัวถัง W100 รุ่น 600 ทั้งสองคันนี้ เป็นอดีตรถยนตร์พระที่นั่งในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รถยนต์องค์ที่หนึ่งคือ 600 SWB 1966 หมายเลขทะเบียน 1ด-0001 เป็นแบบตัวถังสั้น และจะมีแค่เพียง 4 ประตูเท่านั้น ใช้เครื่องยนต์ M100 6,322 cc V8 หรือเป็นเครื่องต้นแบบของตระกูล AMG ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ ถูกใช้งานสนองเบื้องพระยุคลบาทมาเพียง 20,000 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น

รถยนต์องค์ต่อมาคือ 600 “Pullman Landaulet” หมายเลขทะเบียนปัจจุบัน ร.ย.ล.9 สำหรับคันนี้มีความพิเศษกว่า 600 LWB มาก เพราะตัวถังจะยาวเหมือนกับลีมูซีนทั่วไปที่เราเคยเห็นกัน และ 600 องค์นี้ยังสามารถเปิดหลังคาส่วนหลังได้ หรือที่เรียกว่า “Landaulet” ใช้เครื่องยนต์ M100 6,322 cc V8 เช่นเดียวกับรุ่น 600 LWB และรถยนต์องค์นี้เป็นอีกองค์หนึ่งที่มีความนิยมมากสำหรับพระมหากษัตริย์ในประเทศต่างๆ และประเทศไทยก็มี 1 คันเท่านั้น และองค์นี้เคยมีนิตยสารในต่างประเทศบอกว่าเป็น 1 ใน 32 คันในโลก สภาพเหมือนเดิมตั้งแต่ออกจากโรงงานมาเมื่อหลายสิบปีก่อน

รถยนต์อีกหนึ่งองค์ที่หาได้ยากมากๆในประเทศไทย เป็นคอลเล็คชั่นรถโบราณส่วนพระองค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร อีกเช่นกันในปัจจุบัน

รถยนต์องค์แรกคือ Mercedes-Benz W109 300SEL 6.3 หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล.943 รถรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่ค่อนข้างหายากของ Mercedes-Benz S-Class ในสมัยก่อน ซึ่งเราจะเรียกรหัสตัวถังว่า W109 แต่ในรุ่นปกติที่เราใช้กันจะเป็น W108 ซึ่ง W109 หาได้ยากกว่าในประเทศไทย สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ W109 จะเป็นรุ่นที่มีแต่รหัส SEL และจะใช้ตัวถังเดียวกับ W108 SEL แต่สิ่งที่แตกต่างกันชัดเจนคือ W109 จะมีแต่เกียร์ออโต้ กระจกเป็นระบบไฟฟ้า และมีระบบเซ็นทรัลล็อก และมีเพียงแค่ภายในแบบหนังแท้และผ้ากำหยี่ ส่วนระบบช่วงล่าง W109 จะมีแต่รุ่นที่เป็นถุงลมเท่านั้นรถยนต์องค์ต่อไปคือ Mercedes-Benz W116 450SEL 6.9 หมายเลขทะเบียน 1ด0106 รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ใหญ่มากถึง 6900cc และในไทยมีจำนวนไม่ถึง 10 คัน นี่คือหนึ่งในคันที่สภาพดีที่สุดในประเทศไทย

Daimler-Benz เป็นรถพระที่นั่งทางราชการคันแรกของในหลวงรัชกาลที่ 9 ปัจจุบันรถยนต์พระที่นั่งโบราณ ร.ย.ล.1 ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไม่ได้ใช้ทรงงานแล้ว (เดมเลอร์-เบนซ์ 300 ออโตเมติก, โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม VI) ได้ไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์รถยนต์พระที่นั่งโบราณในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ณ วังสุโขทัย ตั้งแต่วันที่ย้ายไป ทะเบียนกับธงยังคงเดิม เพียงแต่ว่าไม่ได้รับการอุ่นเครื่องเลยตั้งแต่ย้ายไปพิพิธภัณฑ์ เชื่อไหมว่ารถยนต์องค์นี้คือราชพาหนะที่เรียกได้ว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเราใช้ทรงงานมากที่สุดถึง 30 ปี Rolls-Royce Phantom VI หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล.972

และนี่คือราชพาหนะองค์สุดท้ายที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้ในปัจจุบัน MAYBACH 62 เป็นรถยนต์ที่มีความหรูหรามากที่สุดคันหนึ่งในโลกเลยก็ว่าได้ หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล.1

ต่อหน้า 2

รถยนต์องค์ที่มีความเหมือนกันอีกก็คือราชพาหนะ MAYBACH 62 อีกองค์ แต่องค์นี้คือรถยนต์องค์สำรองที่มีไว้ใช้สำหรับการสับเปลี่ยน หากรถยนต์พระที่นั่งหลักเกิดมีปัญหากลางทาง หมายเลขทะเบียน 1ด1992

Mercedes-Benz S600L (W220) หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล.901 ใช้ในราชการประจำพระองค์ในปัจจุบัน เป็นรถยนต์ที่ใช้ในงานเฉพาะกิจส่วนพระองค์ หรือไม่ได้มีการออกงานใหญ่ๆ

Cadillac DTS หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล.960 ทรงใช้ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ โดยรถพระที่นั่งองค์นี้เป็นรถที่ได้รับการดัดแปลง โดยนำมาตัดหลังคาให้เป็นรถเปิดประทุนสำหรับใช้ในการยืนบริเวณด้านหลัง ซึ่งเราจะเห็นกันบ่อยมากในทีวี

MAYBACH 62 อีกหนึ่งองค์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงใช้ในการส่วนพระองค์ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ รถคันนี้จะเป็นสีน้ำเงิน และมีสีทองคาดเอาไว้ โดยใช้หมายเลขทะเบียน 1ด1991

รถยนต์องค์นี้คืออีกหนึ่งองค์ที่พ่อหลวงของเรามีโอกาสได้ใช้ และพวกเราก็ได้เห็นตามงานต่างๆ นั่นคือ VW caravelle VR6 หมายเลขทะเบียน 1ด-0968

และก็ยังเป็นองค์เดียวกับที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงประทับในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2559 ในการส่งพระบรมโกศในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

BMW 760Li สีครีม หมายเลขทะเบียน 1ด-1993 ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงใช้ในกิจการส่วนพระองค์

และยังมีรถยนต์อีกมากมายที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเราใช้ทรงงานต่างๆ Toyota Camry 2.4V Navigator สีครีม Honda Accord 2.4 i-VTEC EL สีดำ Nissan Teana 200JK สีครีม Mitsubishi Lancer 1.8 SEi สีบรอนซ์ฟ้า หมายเลขทะเบียน 1ด-4477ทรงเก็บไว้ที่พระราชวังไกลกังวล หัวหิน Toyota Vios 1.5G Limited สีดำ Toyota Yais 1.5G Limited สีแดง Lexus LS460L สีครีม Toyota Innova 2.0 สีทอง Toyota Fortuner สีขาวมุก ทรงเก็บไว้ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ นราธิวาส Mercedes-Benz S600 LWB W220 หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล.100 Toyota Fortuner สีขาวมุก

รถยนต์ซึ่งจัดซื้อด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ซึ่งได้พระราชทานให้หน่วยงานหรือข้าราชบริพารใช้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีรถยนต์มากมายเกินกว่าที่จะนับได้ รถส่วนหนึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานให้ข้าราชบริพารใช้ จะมีทะเบียนเป็น ดส-xxxx โดยรถจำพวกนี้ที่ประชาชนเห็นบ่อยๆมีดังนี้

- ฟอร์ด โฟกัส GHIA 1.8L 4Dr. พระราชทานเป็นรถทดลองเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ในพระราชดำริ โดยร่วมมือกับ บริษัทฟอร์ด เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) - ฟอร์ด เรนเจอร์ โอเพ่นแค็บไฮไรเดอร์ พระราชทานเป็นรถในโครงการทดลองข้าว โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ในพระราชดำริ - โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ Extra-Cab 2.5G D4D พระราชทานให้มูลนิธิชัยพัฒนา - โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส 1.6G พระราชทานให้เป็นรถตัวอย่างก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี - เมอร์ซิเดส เบนซ์ S600L W220 พระราชทานให้พลเอก เปรม ติณณสูลานนท์ องคมนตรี ใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง - เมอร์ซิเดส-เบนซ์ E280 W211 พระราชทานให้เป็นรถตามเสด็จ/ขบวนแดง/พระประเทียบ

รถตู้ Volkswagen V6 สีเทาคาดแถบสีฟ้า หมายเลขทะเบียน 1ด-0929 รถพระที่นั่งคันนี้มีนามเรียกขานว่า “เจมส์ บอนด์” รถพระที่นั่งอัญเชิญพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เป็นรถที่พระองค์โปรด ด้านในรถจะเรียบง่ายมาก แทบไม่มีอะไรเลย นอกจากวิทยุเดิมๆที่ติดมากับรถ แล้วก็จะมีโต๊ะเล็กๆไว้ทรงงาน สภาพของรถจะมีนายช่างประจำตัวคอยซ่อมแซมให้ตลอด

ต่อหน้า 3

ต่อมาเราจะพูดถึงรถยนต์องค์ต่างๆที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีครอบครองหรือเคยมีโอกาสได้ใช้ในอดีตกันบ้าง รถยนต์องค์นี้คือ Wanerer เป็นรถจากประเทศเยอรมนี และยังเป็นรถเก่าในกรมพระยาดำรงราชานุภาพ

Mercedes-Benz 1932 เป็นรถที่มี Supercharger และมีเครื่องยนต์ที่มีกำลังมาก โดยที่เครื่องยนต์และช่วงล่างทำจากเยอรมนี ส่วนตัวถังผลิตที่ปารีส

Mercedes-Benz 190SL 1960 เป็นรถที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทรงใช้ระหว่างการเสด็จฯไปเยือนยุโรปและอเมริกา และได้นำรถคันนี้กลับมาด้วย ส่วนคันที่จอดข้างๆคือ Mercedes-Benz 300 Automatic 1955 เป็นรถยนต์รุ่นแรกๆที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงใช้ในอดีต เป็นสีฟ้า

ตำนานอีก 1 คันในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยก็ว่าได้ เพราะนี่คือรถคันแรกของประเทศไทย เป็นรถคันแรกที่ได้เข้ามาในสยามประเทศ และเป็นรถ Mercedes-Benz ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์พระที่นั่งคันนี้คือ ในหลวงรัชกาลที่ 5

แก้วจักรพรรดิ์ RR เป็นรถยนต์องค์ที่ในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงใช้

Daimler เป็นรถที่ในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ทรงใช้เมื่อทรงพระเยาว์

ทะเบียนรถยนต์ที่ใช้ในพระราชสำนัก ที่กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม น้อมเกล้าฯถวายหมวดทะเบียนมีทั้งสิ้น 3 รูปแบบ คือ

1. ร.ย.ล. เป็นหมวดทะเบียนที่จัดเป็นพิเศษ สำหรับรถยนต์พระราชพาหนะที่จัดซื้อด้วยงบประมาณราชการ อันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน โดยเป็นหมวดทะเบียนที่ย่อมาจากคำว่า “รถยนต์หลวง” 2. 1ด-xxxx เป็นหมวดทะเบียนทั่วไป ที่น้อมเกล้าฯถวายสำหรับรถยนต์พระราชพาหนะที่จัดซื้อโดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ หรือที่พสกนิกรน้อมเกล้าฯถวาย 3. ดส xxxx เป็นหมวดทะเบียนทั่วไป ที่จัดซื้อด้วยงบประมาณ ใช้ในหน่วยงานพระราชวัง หน่วยราชการต่างๆของสำนักราชเลขาธิการ และสำนักพระราชวัง หรือข้าราชบริพารชั้นผู้ใหญ่ ให้นำไปใช้ในการปฏิบัติราชการ โดยเป็นหมวดทะเบียนที่ย่อมาจากชื่อพระราชวังดุสิต ที่มา : siambimmer.com