จิตแพทย์ชี้เคส"แม่ปุ๊ก"อาจจงใจทำร้ายลูกโดยไม่หวังเงิน

จิตแพทย์ ชี้เคส"แม่ปุ๊ก"หากป่วยทางจิตกลุ่มเอฟดีไอเอ อาจจงใจทำร้ายลูกโดยไม่หวังเงินตอบแทน
เมื่อวันที่ 26 พ.ค.63 จากกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญ "แม่ปุ๊ก" ถูกตำรวจจับกุมฐานพยายามฆ่าลูกของตัวเอง หลังนำสารเคมีบางชนิดให้ลูกกินจนเกิดอาการป่วย ก่อนนำภาพของลูกไปเปิดรับบริจาคผ่านโลกโซเชียล ทำให้เกิดการวิพากาษ์วิจารณ์ว่าแม่ปุ๊ก ป่วยทางจิต หรือเอฟดีไอเอ จึงทำร้ายลูกตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ 
ทีมข่าวนิว 18 จึงลงพื้นที่สอบ นายแพทย์วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ในฐานะโฆษกกรมสุขภาพจิต เกี่ยวกับประเด็นการป่วยทางจิต หรือเปิดเผยกับ ถึงกลุ่มอาการโรคแฟคทีเชียส ดิสออร์เดอร์ อิมโพสด์ ออน อนาเธอร์ หรือเอฟดีไอเอ เป็นกลุ่มอาการทางจิต หรือเอฟดีไอเอ
โดย นายแพทย์วรตม์ ระบุว่า กลุ่มโรคดังกล่าวเป็นภาวะความผิดปกติทางจิตของผู้ปกครอง โดยพฤติการณ์ของผู้ปกครองที่กระทำกับเด็ก จะไม่หวังผลจากปัจจัยภายนอก แต่หวังผลจากปัจจัยภายใน เช่น อยากได้ความรัก ความห่วงใย ความเอาใจใส่ และความสนใจจากคนรอบข้าง รวมถึงญาติพี่น้อง หรือแพทย์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน หรือปัจจัยอื่นๆ ภายนอก
ความผิดปกติดังกล่าวเมื่อตรวจในเชิงลึก จะพบว่าผู้ปกครองที่มีพฤติกรรมนี้ ในอดีตเคยถูกล่วงละเมิด หรือถูกทำร้ายร่างกายในช่วงวัยเด็ก ทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความสนใจ ส่วนขั้นต้นของอาการจะทำร้ายตัวเองเพื่อให้ได้รับการตอบสนองก่อน เมื่อมีลูกจึงเปลี่ยนมาทำร้ายลูก เพื่อตอบสนองจิตใต้สำนึกของตัวเอง
หากเป็นการทำให้เด็กเกิดอาการเจ็บป่วย หรือเสียชีวิตโดยมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น เงินประกัน เงินชดเชย หรือ เงินบริจาค จะไม่ใช่ผู้ป่วยในกลุ่มดังกล่าว แต่จะเป็นพฤติกรรมการทารุณเด็ก ซึ่งภาวะดังกล่าว ไทยยังไม่มีผลการวิจัยที่ชัดเจน แต่การวิจัยในอิตาลีพบว่าเด็กที่มีอาการป่วยต้องนอนโรงพยาบาล 0.5% เกิดจากภาวะเอฟดีไอเอ ของผู้ปกครอง
ส่วนกรณีของแม่ปุ๊ก จะต้องซักประวัติว่าสิ่งที่ทำให้เด็กเจ็บป่วยมาจากสาเหตุใด หากมีการชี้ชัดว่าเป็นคนทำให้เด็กป่วย ต้องดูแรงจูงใจว่าทำไปเพราะต้องการเงินหรือไม่ ซึ่งบางเคสอาจไม่ได้เกิดจากภาวะทางจิต หรือภาวะเอฟดีไอเอ และถ้าหากต้องวินิฉัยว่าเป็นภาวะเอฟดีไอเอ จริงหรือไม่ อาจต้องใช้เวลาถึง 2 ปี ซึ่งหลายเคสอาจเสียชีวิตก่อน