น้าแต เปิดใจผ่านสื่อมวลชน ยืนยันวันเกิดเหตุไม่มี ฮ. มาบินจริง เป็นแค่โดรน วันไลฟ์สดพูดผิด ส่วนอุปกรณ์คีบหางหนูไม่ใช่ของฟาร์มตนเอง
ความคืบหน้า คดีน้องชมพู่ วัย 3 ขวบที่เสียชีวิตอย่างปริศนาบนเขาภูเหล็กไทย บริเวณหมู่บ้านกกกอก จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายในคดีนี้ได้
อ่านข่าว หลักฐานใหม่! ภาพน่าคิด อุปกรณ์จับหนูเหมือนรูที่ศพ น้องชมพู่
อ่านข่าว ผลชันสูตรศพ น้องชมพู่ จากรพ.ตำรวจพบร่องรอยถูกทำร้าย
อ่านข่าว ทัวร์ลง! น้าแต คดีน้องชมพู่ ไลฟ์สดรู้พิกัดตาย – เสียงคนโทรเข้าปริศนา
ล่าสุด 14 ก.ค. 63 น้าแต หรือ นายนรินทร์ หลาบโพธิ์ น้าของน้องชมพู่ เปิดใจว่า วันที่ 14 พ.ค. ที่ตนไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กนั่งไลฟ์สด 2 จุด คือบ้านของแม่น้องชมพู่ ในเวลาประมาณ 17.00 น. ส่วนไลฟ์สดครั้งที่ 2 เวลาประมาณ 19.00 น. ตนนั่งไลฟ์สดที่บ้านของน้าต่าย
โดยสรุปคำพูดของ น้าแต มีดังนี้
- เรื่องพูดถึงเฮลิคอปเตอร์ ตนได้พูดคุยและรับข้อมูลว่า จะมีเฮลิคอปเตอร์มาช่วยและได้ข้อมูลจากชาวบ้านพูด จะมีเฮลิคอปเตอร์มาบินหาน้องชมพู่
- ยอมรับว่า ไม่มีเฮลิคอปเตอร์มาบิน มีเพียงโดรนมาบิน และมีคลิปเสียงที่อัดผ่านทางโดรนไปเรียกน้องชมพู่ เรื่องเฮลิคอปเตอร์นั้น ตนจินตนาการ
- มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ตนรู้ว่าหลานตายแต่ทำไมไม่ขึ้นเขา ตนอยากชี้แจงว่า ตนไม่ใช่คนที่รู้เส้นทางและไม่เคยขึ้นเขาเข้าป่า ไม่มีความชำนาญมีเพียงโทรศัพท์ ขึ้นไปไม่กี่กิโลเมตรตนก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว
- มีผู้ติดตามเฟซบุ๊กกว่า 4 พันคน จึงไลฟ์สด ตอบคำถามที่มีคนอินบ็อกเข้ามาสอบถามจำนวนมาก
- ยอมรับว่าวันไลฟ์สดอาจจะพูดผิดไปและไม่ได้แก้ไข
- ไทม์ไลน์ของตนเองสามารถยืนยันได้ว่าวันนั้นตนทำอะไร และยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ใจ
- สาเหตุที่ไม่ร้องไห้เพราะเคยทำงานสื่อ ถ้าตนมาร้องไห้สติแตก แล้วญาติๆจะพึ่งพาตนได้อย่างไร เพราะตนเป็นต้องขับรถและคอยช่วยเหลือญาติๆ
- ส่วนเรื่องอุปกรณ์ลักษณะแหลมที่ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัย ขอชี้แจงว่า คือ เหล็กคีบหางหนู ซึ่งภาพที่ถ่ายเป็นวันที่ตนไปเยี่ยมฟาร์มหนูที่ จังหวัดอำนาจเจริญ ตนจึงถ่ายรูปและมีรูปเหล็กคีบหางหนูติดมา ซึ่งเหล็กคีบหางหนูนั้นไม่ใช่ของตน และไม่มีในฟาร์มของตน
- เรื่องเฟซบุ๊กปลอม น้าแต ยืนยันว่า ไม่เคยทำเฟซบุ๊กปลอมเพื่ออวยตัวเอง อยากให้สื่อไปถามคนที่ทำเฟซปลอมบอกจุดและเวลาที่ถ่าย จะตอบเหมือนตนเองหรือไม่
ความเห็น 7
X 77
ต่อ..ส่วนเรื่องความปลอดภัยตำรวจเขามีการคุ้มครองพยานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีอยู่แล้วยิ่งอยู่กับชมพู่เป็นคนสุดท้ายด้วย
2.แม่ชมพู่เป็นคนจัดเตรียมกระเป๋าเป้ซึ่งในกระเป๋ามีเสื้อผ้าน้องอยู่เหมือนรู้ว่าน้องไม่ได้ใส่เสื้อผ้าไปโดยให้ลุงพลขึ้นเขาไปหาชมพู่แต่ตัวเองไม่ไปอ้างโน้นนี้นั้นซึ่งผิดวิสัยของคนเป็นแม่เมื่อลูกหายไปหลายวัน
3.เมื่อลุงพลเจอศพน้องก็รำพึงขึ้นมาว่า*คนที่พาน้องขึ้นมาคงจะหมดของให้กิน*พูดเหมือนรู้ว่าน้องถูกอุ้มขึ้นมา
4.สะดิ้งโพสต์เฟสบุ๊คว่าน้องชมพู่ไปเป็นนางฟ้าแล้วก่อนเจอศพน้อง1วันเหมือนรู้
15 ก.ค. 2563 เวลา 09.54 น.
X 77
ต่อ..ในบรรดาเครือญาติน้องชมพู่ที่ออกมาแฉกันทะเลาะกันต่างมีข้อพิรุธมากมายยกตัวอย่างหลักๆเช่น
1.ทำไมแม่สะดิ้งบอกให้สะดิ้งให้การว่าหลับและบอกให้แก๊งจำปาว่าเห็นสะดิ้งหลับแต่พอมีพยานมาบอกว่าแม่สะดิ้งบอกว่าให้โกหกว่าหลับ.ตอนไปออกรายการช่องไทรัฐของคุณจอมขวัญตอนแรกบอกอย่างมั่นใจว่า*แม่เชื่อว่าน้องสะดิ้งไม่พูดโกหกแน่นอน*พอมีการสืบสวนมาว่าแม่สะดิ้งให้สะดิ้งโกหกก็ออกมายอมรับว่าเป็นคนบอกให้โกหกเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยถ้าต้วเองบริสุทธิ์ใจจริงๆต้องให้การตามความเป็นจริงตั้งแต่แรกส่วนเรื่องความปลอดภัยตำรวจเขามี
15 ก.ค. 2563 เวลา 09.39 น.
น้าแต น่าสงสัยที่สุด เพราะอ้างอยู่ต่างอำเภอบ้าง ต่างหมู่บ้านบ้าง และไม่มีพยานยืนยัน หนูพุกราคาหนึ่งหมื่นตายสองตัว น้องชมพู่เลยรับเคราะห์
15 ก.ค. 2563 เวลา 09.03 น.
X 77
สาเหตุการตายเพราะขาดอาหารขาดน้ำตายเองอ่ะเข้าใจอันนี้มันปลายเหตุแต่ต้นเหตุที่คนเขาสงสัยคือเด็กแค่3ขวบขึ้นเขาเองได้ยังไงต้องมีคนพาขึ้นไปสาเหตุเกิดจากอะไรที่ต้องพาน้องขึ้นไปน้องตายก่อนหรือหลังตอนพาขึ้นเขาขณะที่บรรดาญาติๆของชมพู่เขาทะเลาะกันแฉกันพวกคุณตำรวจไม่เห็นข้อพิรุธหรือข้อสงสัยบ้างเลยเหรอการที่สื่อและโลกโซเซี่ยลไปค้นไปขุดขุ้ยประเด็นต่างๆในคดีนี้มันก็มีข้อดีและข้อเสียคุณจะมาอ้างว่าทำให้สับสนคุณจบสืบสวนมาคุณน่าจะแยกแยะได้ซิความน่าจะเป็นของแต่ละประเด็นหรือไม่ก็แบ่งชุดสืบสวนแต่ละเรื่องไปเรื่องไหน
15 ก.ค. 2563 เวลา 08.56 น.
ดูทั้งหมด