นายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เเละอนุกรรมการพิจารณาแก้ไขกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของวิธีพิจารณาความแพ่งสากล สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้โพสต์เฟสบุ๊กเกี่ยวกับขั้นตอนการบังคับคดีทางเเพ่ง คดีสาวซีวิตขับชนรถตู้โดยสารดับ 9 ศพ มีข้อความว่า ตามที่ศาลแพ่งได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเมื่อวันที่ 8 พ.ค.62 ที่พิพากษาให้ น.ส.แพรวา จำเลยที่ 1 และจำเลยร่วมอีก 3 คน ชดใช้ค่าเสียหายในคดีละเมิดจากการขับรถยนต์โดยประมาท เป็นจำนวนเงินรวม 20 กว่าล้านบาทนั้น หลังจากศาลฎีกามีคำพิพากษาแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ป.วิ.พ) มาตรา 272 และ 273
ศาลจะออกคำบังคับให้จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาปฏิบัติตามคำพิพากษาภายในระยะเวลาและตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด ซึ่งปกติศาลจะให้เวลาในการปฏิบัติตามคำบังคับ 30 วัน และขณะนี้ก็ได้ล่วงเลยระยะเวลาในการให้จำเลยทั้ง 4 คนปฏิบัติตามคำพิพากษามาแล้ว จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ ขอศาลออกหมายบังคับคดี
เมื่อจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาทั้ง 4 คน ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาล บรรดาโจทก์ร่วมผู้เสียหาย ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็จะต้องร้องขอต่อศาลให้มีการบังคับคดีโดยวิธียึดทรัพย์สิน อายัดสิทธิเรียกร้องหรือบังคับคดีโดยวิธีอื่น ภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 274
และถ้าศาลเห็นว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาทราบคำบังคับแล้วแต่ไม่ชำระหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคำบังคับ ศาลก็จะออกหมายบังคับคดีตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี และแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบเพื่อดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในหมายบังคับคดี ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 276 โดยศาลที่มีอำนาจในการบังคับคดี เป็นไปตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271 คือ ศาลที่ได้พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นต้น ซึ่งในคดีนี้คือศาลแพ่ง โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต้องร้องขอต่อศาลให้มีการบังคับคดีภายใน 10 ปี
มีข้อสังเกตที่สำคัญคือ ตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา 274 กำหนดให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต้องร้องขอต่อศาลให้มีการบังคับคดีภายใน 10 ปี นั้น หมายถึงว่า เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนทั้ง 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้ให้ครบถ้วนภายใน 10 ปี คือ
1. ร้องขอต่อศาลให้ออกหมายบังคับคดี
2. แจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบว่ามีการออกหมายบังคับคดีแล้ว
3. แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ดังนั้น หากได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนทั้ง 3 นี้แล้ว หากมีทรัพย์สินรายการใดที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้แถลงขอยึดไว้ แต่ไม่ได้ทำการยึดทรัพย์สินรายการนั้นภายใน 10 ปี ก็ไม่ตัดสิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินนั้นต่อไปได้ เพราะถือว่าได้มีการร้องขอต่อศาลให้มีการบังคับคดีภายใน 10 ปี แล้ว และถือว่าเป็นเพียงขั้นตอนการดำเนินงานของเจ้าพนักงานบังคับคดีเท่านั้น ไม่ทำให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหมดสิทธิบังคับคดีแก่ทรัพย์สินรายการดังกล่าวแต่อย่างใด
แต่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะไปบังคับคดีเอาจากทรัพย์สินรายการอื่นเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งไม่ได้เป็นทรัพย์สินรายการที่แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ยึดไว้ภายในระยะเวลา10 ปี ไม่ได้ เพราะถือว่าไม่ได้เป็นทรัพย์สินที่มีการร้องขอให้บังคับคดีภายใน 10 ปี ต้องห้ามตามกฎหมาย
อำนาจเจ้าพนักงานบังคับคดีในการบังคับคดีทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
เมื่อมีการออกหมายบังคับคดีตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีจะมีอำนาจตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 ในการบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาทั้ง 4 คน ด้วย 4 วิธีการ ดังนี้
1. ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
2. อายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่จะเรียกให้บุคคลภายนอกชำระเงินหรือส่งมอบหรือโอนทรัพย์สิน
3.อายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่จะเรียกให้บุคคลภายนอกชำระหนี้อย่างอื่นนอกจากที่กล่าวมาแล้ว
4.ขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอื่นซึ่งทรัพย์สินที่ได้มาจากการยึดหรือการอายัดหรือซึ่งสิทธิเรียกร้องที่ได้อายัดไว้
การสืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ในการสืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาทั้ง 4 คน นั้น หากบรรดาโจทก์ร่วมซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีเหตุอันควรเชื่อว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษามีทรัพย์สินที่จะต้องถูกบังคับคดีมากกว่าที่ตนทราบ หรือมีทรัพย์สินที่จะต้องถูกบังคับคดี แต่ไม่ทราบว่าทรัพย์สินนั้นอยู่หรือเก็บไว้ที่ใด หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าทรัพย์สินใดเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือไม่ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิตาม ป.วิ.พ. มาตรา 277 ที่จะยื่นคำขอฝ่ายเดียวโดยทำเป็นคำร้องเพื่อให้ศาลทำการไต่สวนได้
ซึ่งถ้าศาลเห็นสมควร ศาลมีอำนาจออกหมายเรียกลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลอื่นที่เชื่อว่าจะให้ถ้อยคำอันจะเป็นประโยชน์มาศาล เพื่อทำการไต่สวนในเรื่องทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิขอศาลออกหมายค้นสถานที่ และในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่า ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือบัญชี เอกสาร จดหมาย หรือวัตถุอื่นใดอันเกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกิจการของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่ในสถานที่ที่บุคคลอื่นครอบครองอยู่ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยื่นคำขอฝ่ายเดียวโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลออกหมายค้นสถานที่นั้นได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 283 อำนาจอื่นที่สำคัญของเจ้าพนักงานบังคับคดี
นอกจากนี้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 282 ให้อำนาจเจ้าพนักงานบังคับคดี ดังนี้
1. ค้นสถานที่และตรวจสอบและยึดบัญชี เอกสาร จดหมาย หรือวัตถุอื่นใดอันเกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกิจการของลูกหนี้ตามคำพิพากษามาเพื่อตรวจสอบ
2. เปิดสถานที่รวมทั้งตู้นิรภัย ตู้ หรือที่เก็บของอื่น ๆ ได้ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือมีบัญชี เอกสาร จดหมาย หรือวัตถุอื่นใดเกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกิจการของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่ในสถานที่ที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาครอบครองหรือครอบครองร่วมกับผู้อื่นได้ด้วย
ความเห็น 25
Ko Chai
ถูกผิดแค่นี้เด็กประถมยังคิดได้/ไม่ละอายกันเลยรึ
18 ก.ค. 2562 เวลา 04.05 น.
จิงๆ น่าจะ สั่งบังคับคดีเลยนะ
ถ้าไม่ชำระภายในระยะเวลาศาลกำหนด
ไม่ต้องรอให้ผู้เสียหาย..ร้องอีก
เพราะ จำเลย ขัดคำสั่งศาล แล้วชัดๆ
กม. แบบนี้แระ ที่ทำให้ชาวบ้านคิดว่า อยุติธรรม
เอื้อปะโยด แต่คนมีอำนาจ ทั้งยศฐาบรรดาศักดิ์ ทั้งเงินทอง
18 ก.ค. 2562 เวลา 03.48 น.
T.Krit🍌
พี่ก็ทำเป็นแกล้งโง่เน้อ ถ้าเขากล้าที่จะขัดคำสั่งศาลไม่ยอมชดใช้เงิน นั่นก็เท่ากับว่าเขาตั้งใจและก็เตรียมการใว้แล้ว จากวันนั้นถึงวันนี้ก็9ปี เขาโยกย้ายทรัพย์ไปไหนแล้ว. คนระดับตูลใหญ่แบบนี้มีเพื่อน/รุ่นพี่/รุ่นน้อง/ญาติ เป็นทั้งตำรวจ อัยการ แม้กระทั่งผู้พิพากษา เขาก็คงจะปรึกษาคนเหล่านี้มาดีแล้ว หาทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี. นี่เหละกระบวนการยุติธรรมมักมีช่องว่างให้กับคนรวย
18 ก.ค. 2562 เวลา 02.09 น.
Superkid
พั่ณุ เครืองาม ช่วยหน่อยครับ
18 ก.ค. 2562 เวลา 01.10 น.
ong.apiwat
เขาเหนื่อยกันมากแล้ว
18 ก.ค. 2562 เวลา 01.04 น.
ดูทั้งหมด