'ณัฐวุฒิ-ครอบครัว' แจกข้าวกล่อง 500 ชุด ช่วยชาวบ้านเดือดร้อน 'โควิด'

‘ณัฐวุฒิ-ครอบครัว’ แจกข้าวกล่อง 500 ชุด ช่วยชาวบ้านเดือดร้อน ‘โควิด’

แจกข้าวกล่อง – เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.พร้อมครอบครัวและเพื่อนสนิทที่ใกล้ชิด ร่วมกันแจกอาหารข้าวกล่องและน้ำดื่มจำนวน 500 ชุด ให้ประชาชนที่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เป็นจุดแรก บริเวณร้านครัวมอแกน ใกล้การไฟฟ้าบางใหญ่ ตามโครงการ “รวมน้ำใจสู้ภัยโควิด-​19”

โดยมีเมนูหลากหลาย ทั้งข้าวผัด ข้าวผัดพริกแกงข้าวกะเพราไก่ และทุกกล่องมีไข่ดาวให้ด้วย พร้อมแกงจืด 1 ถุงด้วย เริ่มแจกเวลา 11.30 น. มีการจัดการเว้นระยะห่างผู้มารับข้าวกล่อง

ขณะที่มีประชาชนทยอยมารอรับอาหารบริจาคตั้งแต่ เวลา 11.00 น.และ ได้แจกจ่ายหมดภายใน 1 ชั่วโมง โดยพรุ่งนี้ วันที่ 17 เม.ย. จะเดินทางไปแจกบริเวณ ซอยทานสัมฤทธิ์ 15 ถนนติวานนท์ มีเมนูข้าวหมูแดง หมูกรอบและก๋วยเตี๋ยวปลา ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ก่อนแจกจ่ายใน กทม.ย่านลาดพร้าว ในวันถัดไปด้วย พร้อมทั้งจะรายงานความคืบหน้าและรายละเอียดผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว

นายณัฐวุฒิ เปิดเผยว่า ตั้งใจจะตระเวนตั้งจุดบริการอาหารกลางวันครั้งละ 500 ชุดตั้งแต่วันที่ 16-​30 เมษายน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะสั่งอาหารจากร้านต่างๆ ที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยจะเปลี่ยนจุดแจก และเปลี่ยนร้านที่สั่งอาหารทุกวัน แต่จะประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่า หากสถานการณ์ไม่คลี่คลายและอาจจะขยายเป็นการแจกจ่ายวันละหลายจุด โดยไม่ขอรับบริจาคเงินสด แต่จะใช้งบประมาณได้รวบรวมจากคนใกล้ชิดเท่านั้น หากมีผู้สนใจจะร่วมสมทบขอเป็นข้าวสาร อาหารแห้งและของใช้ที่จำเป็นแทน

พร้อมยืนยันว่า การแจกอาหารช่วงนี้ เป็นเพราะต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาทุกข์และส่งกำลังใจให้ถึงพี่น้อง เพื่อขอให้ผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-​19 ไปด้วยกัน ซึ่งก็ไม่ได้ทำในนามกลุ่มการเมืองแต่อย่างใด พร้อมฝากถึงทุกคนที่มีกำลังทรัพย์ให้ช่วยแบ่งปั่นน้ำใจร่วมกัน แม้ทุกคนจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งในแต่ละคน ก็ลำบากแตกต่างกันไป หากท่านใดพอมีกำลังทรัพย์ก็ควรแบ่งปันตามกันไปตามกำลังเท่าที่ทำได้

ขณะเดียวกันขอให้กำลังใจและฝากถึงประชาชน ซึ่งจะไม่ให้เครียดคงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีความตึงเครียด ดังนั้น จึงจำเป็นต้อง “อดทน” แม้บางคนอาจจะต้อง “ทน-อด” เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ แต่หากสังคมช่วยเหลือแบ่งปันจุนเจือกัน และใช้โอกาสวิกฤตนี้ใกล้ชิดกับครอบครัวช่วยกันประคับประคอง ก็น่าเชื่อว่าเราจะผ่านพ้นไปได้ด้วยกัน