"หมอธีระวัฒน์" เตือนติดเชื้อโควิด แม้อาการไม่มาก ยังเกิดหัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้จากลองโควิด
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha เรื่อง ติดโควิดอาการไม่มากยังเกิดหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบต่อเนื่องได้ โดยระบุว่า
รายงานจากประเทศเยอรมนี ติดตามคนติดโควิดอาการน้อยกักตัวที่บ้าน 346 รายอายุเฉลี่ย 43.3 ปี (เทียบกับคนไม่ติดอายุเพศ เท่ากัน 95 ราย) ทั้งหมดไม่มีความเสี่ยงของโรคหัวใจมาก่อน
ในระยะเวลา 77 ถึง 177 วันเฉลี่ย 109 วัน 73% มีอาการทางหัวใจ เหนื่อยขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน 62% ใจสั่น 28% เจ็บหน้าอก 27% และมีหน้ามืดเป็นลม 3% และมีความดันโลหิตตัวล่างสูงขึ้น
การตรวจหัวใจด้วย MRI พบการอักเสบของหัวใจ และเยี่อหุ้มหัวใจ รวมทั้งมีแผลเป็น หรือเยื่อพังผืดที่กล้ามเนื้อหัวใจ
การตรวจเลือด CRP
hs troponin T N terminal pro-brain natriuretic peptide ไม่ไวพอที่จะระบุความผิดปกติเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม หน้าที่การทำงานในการบีบตัวของหัวใจห้องล่าง ทั้งด้านซ้ายและขวา ผิดปกติในบางรายเท่านั้น
การติดตามครั้งที่สองระหว่าง 274 ถึง 383 วันหลังจากการติดเชื้อเฉลี่ยที่ 329 วันยังคงพบว่า 53% ยังคงมีอาการผิดปกติทางหัวใจ และคนที่ในตอนแรกปกติดีเกิดอาการทางหัวใจขึ้น 5%
การตรวจเอ็มอาร์ไอ ทั้งกลุ่มทั่วไปดูดีขึ้น ยกเว้นแต่ในคนที่ยังคงมีอาการต่อเนื่อง
คณะผู้รายงาน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการติดเชื้อโควิด ที่ทำให้เกิดความแปรปรวนของระบบภูมิคุ้มกันไปทำลายอวัยวะตัวเอง
ในกรณีนี้คือ กล้ามเนื้อหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจ แม้ว่าการติดโควิดนั้น จะอาการน้อยนิดหรือไม่มากก็ตาม
รายงานในวารสาร Nature Medicine
รายงานนี้พ้องกับรายงานอื่น ๆ ที่เจาะจงดูความผิดปกติในสมอง ในคนที่มีอาการน้อยตอนติดเชื้อ โดยพบว่า มีความแปรปรวนของระบบภูมิคุ้มกัน และกระตุ้นให้เซลล์ในสมอง (microglia) ผลิตสารอักเสบมากขึ้น
รวมทั้งเซลล์ที่สร้างสายใยประสาท (oligodendrocyte) และเซลล์ที่สมองส่วนความจำปัจจุบันบริเวณกลีบขมับทั้งด้านใน (hippocampus) ผิดปกติ และมีการสะสมตัวของโปรตีนอมิลอยด์ บิดเกรียวที่เป็นต้นเหตุของอัลไซเมอร์
ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์จุฬาร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ ผ่านทาง วช. อยู่ในระหว่างการทำการศึกษาลองโควิดโ ดยเน้นผู้ป่วยที่อาการไม่มากหรือปานกลางตั้งแต่ต้น
และผลกระทบต่อสมองในแง่การสะสมตัวของโปรตีน อมิลอยด์ และ ทาว และความเสียหายที่เกิดขึ้นในสมอง NFL และ GFAP และระบบภูมิแปรปรวน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ความเห็น 1
แม่เหมาแมม
พูดภาษาบ้านๆให้ชาวบ้านเข้าใจกว่านี้ได้มั๊ยหมออย่าวิชาการมากนัก งง รึเราปึกเอง
07 ก.ย 2565 เวลา 05.11 น.
ดูทั้งหมด